แชร์

การจัดวางสินค้า (Slotting Optimization): ศาสตร์แห่งการประหยัดพื้นที่

S__2711596.jpg BS&DC SAI5
อัพเดทล่าสุด: 23 มิ.ย. 2025
295 ผู้เข้าชม
ในยุคที่ต้นทุนด้านโลจิสติกส์เพิ่มสูงขึ้นทุกปี "พื้นที่" กลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าไม่แพ้แรงงานหรือเวลา การใช้พื้นที่ในคลังสินค้าให้คุ้มค่าที่สุดจึงเป็นหัวใจสำคัญ และหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยให้งานคลังมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็คือ การจัดวางสินค้า (Slotting Optimization)

Slotting Optimization คืออะไร?
Slotting Optimization คือกระบวนการวิเคราะห์และกำหนดตำแหน่งการจัดเก็บสินค้าภายในคลังอย่างเป็นระบบ โดยอ้างอิงจากข้อมูลต่างๆ เช่น ความถี่ในการหยิบสินค้า (picking frequency), ขนาด-น้ำหนักของสินค้า, ลักษณะการจัดส่ง หรือแม้กระทั่งฤดูกาลขาย เพื่อให้การหยิบสินค้าเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น ลดระยะการเดิน ลดพื้นที่เปลือง และลดความซับซ้อนในการจัดการ

ทำไมต้องสนใจ Slotting Optimization?
  • ประหยัดพื้นที่: วางสินค้าให้เหมาะสมกับพื้นที่จริง ลดการจัดวางแบบกระจายหรือเปลืองพื้นที่
  • ลดเวลาในการหยิบสินค้า: สินค้าที่ขายดีควรอยู่ใกล้ตำแหน่งหยิบ ลดการเดินไกล
  • ลดแรงงาน-เพิ่มผลิตภาพ: จัดสินค้าให้เหมาะสมกับอุปกรณ์และความถนัดของพนักงาน
  • ลดความผิดพลาด: การจัดวางที่เป็นระบบช่วยลดการหยิบผิด SKU
  • รองรับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล: สามารถหมุนเวียนตำแหน่งสินค้าได้ตามพีคซีซั่น
วิธีการเริ่มต้นทำ Slotting Optimization
1.เก็บข้อมูลสินค้า
  • SKU ไหนขายดี? SKU ไหนขายช้า?
  • ขนาด น้ำหนัก และประเภทของสินค้าเป็นอย่างไร?
2.วิเคราะห์รูปแบบการเคลื่อนไหวของสินค้า
  • เช่น สินค้าที่หมุนเวียนเร็ว (Fast-moving) ควรวางไว้ใกล้จุดหยิบหรือทางออกมากที่สุด
3.จัดประเภทสินค้า
  • A (ขายดี), B (กลาง), C (ช้า) เพื่อวางในตำแหน่งที่เหมาะสม
  • ใช้หลัก ABC Analysis
4.ออกแบบตำแหน่งจัดเก็บใหม่
  • โดยอิงจากข้อมูลที่วิเคราะห์ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากที่สุด
5.ทดสอบและปรับปรุงต่อเนื่อง
  • Slotting ไม่ใช่การจัดครั้งเดียวจบ แต่ควรรีวิวและปรับเป็นระยะ

เทคโนโลยีที่ช่วยในการทำ Slotting Optimization
  • WMS (Warehouse Management System) - ช่วยวิเคราะห์และแนะนำตำแหน่งวางสินค้าแบบอัตโนมัติ
  • AI และ Machine Learning - เรียนรู้พฤติกรรมการสั่งซื้อและปรับตำแหน่งสินค้าแบบเรียลไทม์
  • Heat Map และระบบ Tracking - ช่วยดูเส้นทางการเดินของพนักงาน และวิเคราะห์จุดที่เสียเวลามากที่สุด
สรุป
การจัดวางสินค้าแบบมีระบบคือศาสตร์แห่งการ "ใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด" ในคลังสินค้า หากทำได้ดี จะไม่เพียงช่วยลดต้นทุนด้านพื้นที่เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทั้งระบบโลจิสติกส์ในระยะยาวอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง
มิติ (ไม่) ลับ: 'ขนาดกล่องพัสดุ' คือขุมทรัพย์สร้างรายได้ที่หลายคนมองข้าม
ในธุรกิจคลังสินค้าและขนส่ง เรามักจะให้ความสำคัญกับ "น้ำหนัก" ของพัสดุเป็นอันดับแรก แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน และเป็นขุมทรัพย์ในการสร้างรายได้และลดต้นทุนที่หลายคนมักมองข้าม นั่นก็คือ "ขนาดของกล่องพัสดุ" (Dimension)
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
11 ก.ย. 2025
Chord Diagram: 'แผนภาพคอร์ด' ถอดรหัสความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในข้อมูลของคุณ
หลังจบแคมเปญ 9.9 เราอาจรู้ว่าลูกค้าจากภาคเหนือซื้อ "เสื้อผ้า" เยอะที่สุด และลูกค้าจากภาคอีสานซื้อ "เครื่องสำอาง" เยอะที่สุด... แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกค้ากลุ่มที่ซื้อเสื้อผ้า ยังซื้อเครื่องสำอางควบคู่ไปด้วยเป็นจำนวนเท่าไหร่?
โก้(นักศึกษาฝึกงาน)
11 ก.ย. 2025
บทบาทของ Smart Warehouse / โกดังอัจฉริยะกับการเติบโตของธุรกิจขนส่ง
ในยุคที่ อีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์เติบโตอย่างรวดเร็ว การจัดการคลังสินค้าแบบดั้งเดิมอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการอีกต่อไป สิ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญคือ Smart Warehouse หรือโกดังอัจฉริยะ ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และทำให้การขนส่งมีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
สีเขียว_สีเหลือง_น่ารัก_ภาพประกอบ_ปิดร้านค้า_Sorry_We_Are_Closed_Instagram_Post_.png BS Rut กองรถ
11 ก.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ