แชร์

อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) คืออะไร?

อัพเดทล่าสุด: 29 ส.ค. 2024
170 ผู้เข้าชม

Influencer สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท


1.Mega Influencer: บุคคลที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนขึ้นไป เช่น ดารา นักร้อง นักกีฬา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก พวกเขามีอิทธิพลกว้างไกลและมักใช้ในการโปรโมทแบรนด์ใหญ่ๆ ที่ต้องการเข้าถึงผู้คนในวงกว้าง

2. Macro Influencer: ผู้ที่มีผู้ติดตามอยู่ระหว่าง 100,000 ถึง 1 ล้านคน พวกเขาอาจไม่ใช่บุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ยังมีอิทธิพลมากในวงการหรือกลุ่มที่เฉพาะเจาะจง

3. Micro Influencer: ผู้ที่มีผู้ติดตามระหว่าง 1,000 ถึง 100,000 คน พวกเขามักเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือมีความสนใจเฉพาะทาง ซึ่งทำให้พวกเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ติดตามมากกว่า และสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ดี

4. Nano Influencer: ผู้ที่มีผู้ติดตามน้อยกว่า 1,000 คน แม้ว่าจะมีจำนวนผู้ติดตามไม่มาก แต่มีความสัมพันธ์ที่ดีและใกล้ชิดกับผู้ติดตาม ซึ่งทำให้มีอิทธิพลในระดับเล็กๆ ที่สามารถส่งผลอย่างมากในชุมชนหรือกลุ่มที่เฉพาะเจาะจง

Influencer มักจะสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจและความเชี่ยวชาญของพวกเขา เช่น วิดีโอสอนวิธีใช้ผลิตภัณฑ์ รีวิวสินค้า แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว หรือแบ่งปันประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน โดยเนื้อหาเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความน่าสนใจและดึงดูดให้ผู้ติดตามรู้สึกเชื่อถือและไว้วางใจในคำแนะนำหรือความคิดเห็นของ Influencer



การทำงานของ Influencer

 
1. การสร้างเนื้อหา (Content Creation): Influencer มักจะสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจ เช่น รูปภาพ วิดีโอ บล็อก หรือโพสต์โซเชียลมีเดีย เนื้อหาเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับความสนใจส่วนตัว เช่น แฟชั่น ความงาม อาหาร การท่องเที่ยว หรือไลฟ์สไตล์ การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงและมีความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความสนใจของผู้ติดตาม

2. การรีวิวผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Product/Service Reviews): Influencer มักได้รับสินค้าหรือบริการฟรีจากแบรนด์เพื่อนำไปทดลองใช้และรีวิว ประสบการณ์จริงและความซื่อสัตย์ในการรีวิวทำให้ผู้ติดตามเชื่อถือและตัดสินใจซื้อตามได้ง่ายขึ้น

3. การทำงานร่วมกับแบรนด์ (Brand Collaboration): Influencer สามารถทำงานร่วมกับแบรนด์ในรูปแบบของการโพสต์ที่ได้รับการสนับสนุน (Sponsored Posts) โดยแบรนด์จะจ่ายค่าตอบแทนให้กับ Influencer เพื่อโปรโมทสินค้าในช่องทางของตน การทำงานร่วมกันนี้สามารถเป็นได้ทั้งระยะสั้น (เช่น โพสต์ครั้งเดียว) หรือระยะยาว (เช่น การเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์)

4. การจัดกิจกรรมหรือแคมเปญ (Campaigns/Events): Influencer สามารถเป็นผู้นำในการจัดแคมเปญหรือกิจกรรมเพื่อโปรโมทแบรนด์หรือสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ เช่น การเปิดตัวสินค้าใหม่ การจัดแข่งขัน หรือการจัดงานพบปะแฟนคลับ

5. การใช้ Affiliate Marketing: Influencer อาจใช้ลิงก์พันธมิตร (Affiliate Links) ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อผู้ติดตามคลิกผ่านลิงก์เหล่านั้นและทำการซื้อสินค้า เป็นวิธีที่ทำให้ Influencer สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการโปรโมทสินค้าที่ตนเองชื่นชอบ

6. การใช้เนื้อหาที่เป็นไวรัล (Viral Content): Influencer บางรายเน้นการสร้างเนื้อหาที่มีศักยภาพในการเป็นไวรัล (เช่น การทำชาเลนจ์ การสร้าง Meme หรือการเล่นมุกตลก) เนื้อหาที่กลายเป็นไวรัลสามารถช่วยเพิ่มจำนวนผู้ติดตามและสร้างการรับรู้ในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว

ความสำคัญของ Influencer ต่อการตลาด มีมากมาย เช่น:

  • สร้างความเชื่อมั่นและน่าเชื่อถือ: เนื่องจาก Influencer มักมีความใกล้ชิดและมีความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้ติดตาม การโปรโมทสินค้าผ่าน Influencer สามารถช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้ดี
  • เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะทาง: Influencer มักมีผู้ติดตามที่มีความสนใจคล้ายคลึงกัน ทำให้แบรนด์สามารถเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงผ่าน Influencer เหล่านี้
  • เพิ่มการรับรู้ในแบรนด์ (Brand Awareness): การใช้ Influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากและมีอิทธิพลสามารถช่วยเพิ่มการรับรู้และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้






BY : LEO

ที่มา : CHAT GPT


บทความที่เกี่ยวข้อง
BOM เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เข้าใจต้นทุนธุรกิจ
BOM เป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการควบคุมต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
10 ธ.ค. 2024
Trigger Marketing กระตุ้นความต้องการของลูกค้าด้วยเทคนิคทางจิตวิทยา
Trigger Marketing หรือ การตลาดที่กระตุ้น คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้หลักการทางจิตวิทยามาปรับใช้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการและตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ โดยอาศัยปัจจัยต่างๆ ที่กระตุ้นอารมณ์และพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น ความต้องการ ความกลัว ความอยากได้ ความอยากเป็น หรือความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
10 ธ.ค. 2024
การจัดการวิกฤตการณ์ (Crisis Management) วิธีรับมือกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับแบรนด์
การจัดการวิกฤตการณ์ (Crisis Management) คือ กระบวนการที่องค์กรนำมาใช้ในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และผลประกอบการขององค์กร หากไม่จัดการอย่างถูกวิธี วิกฤตการณ์อาจนำไปสู่ความเสียหายอย่างรุนแรง
9 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ