แชร์

ขั้นตอนพื้นฐานของการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

S__2711596.jpg BS&DC SAI5
อัพเดทล่าสุด: 17 พ.ค. 2025
975 ผู้เข้าชม
1. ศึกษาและวางแผน
ก่อนนำเข้าสินค้า ควรเริ่มจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เช่น
  • ความต้องการของตลาด
  • ประเภทของสินค้าที่ต้องการนำเข้า
  • กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าชนิดนั้น
  • ต้นทุนทั้งหมด รวมถึงภาษีและค่าขนส่ง
2. ค้นหาแหล่งสินค้าที่น่าเชื่อถือ
ควรเลือกผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ที่มีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถหาได้จากช่องทางต่างๆ เช่น
  • เว็บไซต์ B2B อย่าง Alibaba, Global Sources
  • งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ
  • การติดต่อโดยตรงผ่านเครือข่ายธุรกิจ

อย่าลืมตรวจสอบประวัติ ความน่าเชื่อถือ และรีวิวของผู้ขายก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ

3. เจรจาราคาและเงื่อนไขการซื้อขาย
หลังจากได้ซัพพลายเออร์แล้ว ให้เจรจาเงื่อนไขต่าง ๆ ได้แก่
  • ราคา (ราคาต่อหน่วย, ราคาขั้นต่ำในการสั่งซื้อ)
  • เงื่อนไขการชำระเงิน (เช่น T/T, L/C, PayPal)
  • เงื่อนไขการขนส่ง (Incoterms เช่น FOB, CIF)
  • เวลาการผลิตและการจัดส่ง
4. จัดการด้านเอกสารนำเข้า
เมื่อตกลงการซื้อขายแล้ว ต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เช่น
  • ใบกำกับสินค้า (Invoice)
  • รายการบรรจุสินค้า (Packing List)
  • ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading หรือ Air Waybill)
  • ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin)
  • เอกสารอื่น ๆ ตามที่กรมศุลกากรกำหนด
5. ดำเนินการผ่านพิธีการศุลกากร
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ผู้ประกอบการสามารถเลือกทำเองหรือใช้บริการของตัวแทนออกของ (Customs Broker) เพื่อดำเนินการนำเข้าสินค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ตรวจสอบภาษีอากร
  • ดำเนินการชำระภาษี
  • ผ่านกระบวนการตรวจสอบของศุลกากร
  • รับสินค้าเข้าโกดัง

6. ขนส่งและจัดเก็บสินค้า
หลังจากสินค้าผ่านศุลกากรแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดส่งสินค้าไปยังที่เก็บหรือจุดจำหน่าย โดยสามารถเลือกใช้บริการโลจิสติกส์ภายในประเทศ หรือขนส่งเอง

7. การตรวจสอบคุณภาพและควบคุมสต๊อก
เมื่อสินค้าเข้ามาถึง ควรตรวจสอบคุณภาพทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าได้สินค้าตามที่ตกลงไว้ จากนั้นจัดเก็บอย่างเหมาะสม และจัดการสต๊อกอย่างมีระบบ

สรุป
การนำเข้าสินค้าไม่ใช่เรื่องยากหากมีการวางแผนและเตรียมการอย่างรอบคอบ การรู้ขั้นตอนพื้นฐานจะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจนำเข้า หมั่นอัปเดตกฎระเบียบใหม่ ๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว


บทความที่เกี่ยวข้อง
5 ส. ในคลังสินค้า: เปลี่ยนโกดังที่รกรุงรัง ให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานสุดโปร่ง ลดเวลาหาของได้กว่า 50%
โกดังรก หาของไม่เจอ ของหายสาบสูญ? แก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยหลักการ "5 ส." ที่จะช่วยเปลี่ยนคลังสินค้าของคุณให้เป็นระเบียบ ลดอุบัติเหตุ และลดเวลาหยิบสินค้าได้จริงกว่า 50% เหมือนมาตรฐานที่ BS Express เลือกใช้
ผึ้ง เด็กฝึกงาน
13 ธ.ค. 2025
Cross-Docking อัจฉริยะ: ส่งของใหญ่ข้ามจังหวัดแบบไม่ต้องสต็อกของ ด้วยการถ่ายลำสินค้าที่แม่นยำระดับนาที
จะจ่ายค่าเช่าโกดังไปทำไม? ในเมื่อของขายได้ทันทีที่มาถึง สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าชิ้นใหญ่ (Bulky Items) เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออะไหล่ยนต์ "พื้นที่จัดเก็บ" คือต้นทุนมหาศาล ยิ่งของชิ้นใหญ่ ยิ่งกินที่ ยิ่งเปลืองค่าเช่าโกดัง และยิ่งของค้างนาน เงินทุนก็ยิ่งจม (Dead Stock) แต่ในยุค Logistics 5.0 เรามีโมเดลการขนส่งที่ฉลาดกว่านั้น นั่นคือ "Cross-Docking (การถ่ายลำสินค้า)" โมเดลที่ทำให้สินค้าของคุณเดินทางจากโรงงานผู้ผลิต เปลี่ยนรถที่ศูนย์กระจายสินค้า และวิ่งตรงไปหาลูกค้าปลายทางทันทีโดย "ไม่ต้องพักค้างคืนในโกดัง" ฟังดูเหมือนง่าย แต่หัวใจสำคัญที่จะทำให้ Cross-Docking สำเร็จได้ คือ "ความแม่นยำ" และนี่คือที่มาของ Cross-Docking อัจฉริยะ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จาก BS Group ครับ
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
13 ธ.ค. 2025
วิธีเลือกชั้นวางสินค้า (Racking) ให้เหมาะกับสินค้า
การเลือกชั้นวางสินค้าในคลัง (Racking System) เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมีผลต่อความปลอดภัย พื้นที่จัดเก็บ และความเร็วในการทำงานของคลังสินค้าโดยตรง
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
12 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ