แชร์

ธุรกิจขนส่งจะเพิ่มประสิทธิภาพยังไง...โดยไม่เพิ่มคน ไม่เพิ่มงบ?

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 5 พ.ค. 2025
445 ผู้เข้าชม

ธุรกิจขนส่งจะเพิ่มประสิทธิภาพยังไง...โดยไม่เพิ่มคน ไม่เพิ่มงบ?

ในยุคที่ต้นทุนสูงขึ้นทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน ค่าแรง หรือค่าบำรุงรักษา ธุรกิจขนส่งหลายรายจึงเผชิญความท้าทายอย่างหนัก การจะขยายงานหรือเพิ่มรายได้โดยไม่เพิ่มต้นทุน กลายเป็นโจทย์ที่ทุกคนต้องหาคำตอบ แล้วคำถามคือ...จะ เพิ่มประสิทธิภาพ ได้ยังไง โดย ไม่ต้องเพิ่มคน และ ไม่ต้องเพิ่มงบประมาณ?

 

1. ใช้เทคโนโลยีช่วย เห็นภาพรวม
ระบบจัดการขนส่ง (TMS - Transport Management System) คือหัวใจหลักของการเพิ่มประสิทธิภาพแบบไม่เปลืองแรง ระบบนี้ช่วยให้คุณเห็นทุกอย่างได้แบบเรียลไทม์ เช่น:

  • รถแต่ละคันอยู่ไหน
  • กำลังบรรทุกอะไร
  • ส่งของถึงไหนแล้ว
  • ใช้น้ำมันไปเท่าไร

เมื่อมองเห็นภาพรวมชัด การตัดสินใจก็เร็วและแม่นยำขึ้น ลดปัญหาเดิม ๆ อย่างการส่งซ้ำ เส้นทางซ้อน หรือรถว่างเปล่ากลับมาโดยไม่จำเป็น


2. จัดเส้นทางให้ฉลาด ด้วยระบบ Route Optimization
เส้นทางที่ขนส่งใช้ทุกวัน อาจมีจุดที่ เสียเวลาโดยไม่จำเป็น เช่น อ้อมเกินไป รถติด หรือวิ่งเปล่ากลับมา

ใช้ระบบวางแผนเส้นทาง (Route Optimization) เข้ามาช่วยให้:

  • วิ่งน้อยลง แต่ส่งได้มากขึ้น
  • จัดรอบวิ่งให้ครอบคลุมที่สุด
  • รวมของหลายงานเข้าในรอบเดียว

ผลที่ได้คือ ค่าน้ำมันลดลง เวลาส่งเร็วขึ้น และใช้รถน้อยลง โดยไม่ต้องเพิ่มอะไรเลย


3. ใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงแบบต่อเนื่อง
เก็บข้อมูลจากทุกการขนส่ง แล้วนำมาวิเคราะห์ เช่น:

  • งานไหนส่งช้าบ่อย
  • รถคันไหนประสิทธิภาพต่ำ
  • คนขับคนไหนมีปัญหาบ่อย

การรู้ จุดอ่อน ช่วยให้คุณแก้ได้ตรงจุด โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม เช่น ปรับรอบใหม่ เปลี่ยนคู่สาย หรือจัดอบรมเฉพาะจุด


4. เชื่อมต่อระบบให้ทำงานอัตโนมัติ
หลายบริษัทยังเสียเวลาไปกับงานซ้ำ ๆ เช่น:

  • ป้อนข้อมูลใบส่งของ
  • ตรวจสอบสต็อกสินค้า
  • โทรเช็คสถานะรถ

หากเชื่อมระบบให้ทำงานร่วมกัน เช่น ระบบขนส่งกับระบบคลังสินค้า หรือกับแอปติดตามรถ จะลดเวลางานลงทันที ทีมงานมีเวลาไปทำอย่างอื่นแทน


5. สื่อสารแบบเรียลไทม์ ลดข้อผิดพลาด
ใช้แอปหรือไลน์กลุ่มในการสื่อสารกับคนขับ พนักงานโหลดของ และลูกค้า ช่วยให้:

  • แก้ปัญหาได้ทันที
  • ลดการเข้าใจผิด
  • สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า

การมีข้อมูลตรงกันทุกฝ่ายช่วยลดการส่งผิดจุดหรือผิดเวลา ซึ่งเป็นต้นทุนแฝงที่ไม่เคยถูกนับ


การเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ได้แปลว่าต้องเพิ่มคนหรือเพิ่มงบเสมอไป แต่ต้อง คิดให้ชัด ทำให้ฉลาด และใช้ของที่มีให้คุ้ม ธุรกิจขนส่งที่ปรับตัวได้ไว ย่อมได้เปรียบ และอยู่รอดในเกมที่แข่งขันสูงขึ้นทุกวัน


บทความที่เกี่ยวข้อง
5 ส. ในคลังสินค้า: เปลี่ยนโกดังที่รกรุงรัง ให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานสุดโปร่ง ลดเวลาหาของได้กว่า 50%
โกดังรก หาของไม่เจอ ของหายสาบสูญ? แก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยหลักการ "5 ส." ที่จะช่วยเปลี่ยนคลังสินค้าของคุณให้เป็นระเบียบ ลดอุบัติเหตุ และลดเวลาหยิบสินค้าได้จริงกว่า 50% เหมือนมาตรฐานที่ BS Express เลือกใช้
ผึ้ง เด็กฝึกงาน
13 ธ.ค. 2025
Cross-Docking อัจฉริยะ: ส่งของใหญ่ข้ามจังหวัดแบบไม่ต้องสต็อกของ ด้วยการถ่ายลำสินค้าที่แม่นยำระดับนาที
จะจ่ายค่าเช่าโกดังไปทำไม? ในเมื่อของขายได้ทันทีที่มาถึง สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าชิ้นใหญ่ (Bulky Items) เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออะไหล่ยนต์ "พื้นที่จัดเก็บ" คือต้นทุนมหาศาล ยิ่งของชิ้นใหญ่ ยิ่งกินที่ ยิ่งเปลืองค่าเช่าโกดัง และยิ่งของค้างนาน เงินทุนก็ยิ่งจม (Dead Stock) แต่ในยุค Logistics 5.0 เรามีโมเดลการขนส่งที่ฉลาดกว่านั้น นั่นคือ "Cross-Docking (การถ่ายลำสินค้า)" โมเดลที่ทำให้สินค้าของคุณเดินทางจากโรงงานผู้ผลิต เปลี่ยนรถที่ศูนย์กระจายสินค้า และวิ่งตรงไปหาลูกค้าปลายทางทันทีโดย "ไม่ต้องพักค้างคืนในโกดัง" ฟังดูเหมือนง่าย แต่หัวใจสำคัญที่จะทำให้ Cross-Docking สำเร็จได้ คือ "ความแม่นยำ" และนี่คือที่มาของ Cross-Docking อัจฉริยะ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จาก BS Group ครับ
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
13 ธ.ค. 2025
วิธีเลือกชั้นวางสินค้า (Racking) ให้เหมาะกับสินค้า
การเลือกชั้นวางสินค้าในคลัง (Racking System) เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมีผลต่อความปลอดภัย พื้นที่จัดเก็บ และความเร็วในการทำงานของคลังสินค้าโดยตรง
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
12 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ