รู้จัก Spot หุ่นยนต์น้องหมา ช่วยงานได้เกือบทุกประเภทโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากคน
อัพเดทล่าสุด: 13 ก.พ. 2025
222 ผู้เข้าชม
รู้จัก Spot หุ่นยนต์สุดเรียบง่าย แต่ครบวงจร
Spot เป็นหุ่นยนต์ 4 ขาลักษณะคล้ายสุนัข ผลิตโดยบริษัท Boston Dynamics หนึ่งในบริษัทแนวหน้าด้านวิทยาการหุ่นยนต์ของโลก
ปัจจุบันบริษัท Hyundai Motor Group เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Boston Dynamics ด้วยจำนวนสูงถึง 80%
โดยในปี 2020 บริษัท Hyundai มองว่าการสร้างระบบหุ่นยนต์อาจมีส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ จึงทุ่มเงินกว่า 921 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการเข้าซื้อ Boston Dynamics ครั้งนี้
บริษัทพัฒนา Spot มาจากแนวคิดที่อยากให้มันเป็น หุ่นยนต์อุตสาหกรรมครบวงจรที่ใช้งานง่ายและผู้ใช้เข้าใจการทำงานของมันได้ตั้งแต่แกะกล่อง เพื่อสามารถขายให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ ไม่ใช่แค่ในแวดวงวิชาการเท่านั้น
แต่ในช่วงแรกที่บริษัทสร้าง Spot ออกมามันยังใช้งานยาก เพราะผู้สร้างส่วนใหญ่เป็นวิศวกรที่มีความคิดที่ซับซ้อน จึงออกแบบมันให้ซับซ้อนตามไปด้วย
Boston Dynamics เลยต้องไปขอความช่วยเหลือจากบริษัท Rightpoint (บริษัทที่เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้าง Customer Eexperience) มาช่วยพัฒนา Spot ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นและเหมาะสำหรับขายให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ
ปัจจุบันบริษัท Hyundai Motor Group เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Boston Dynamics ด้วยจำนวนสูงถึง 80%
โดยในปี 2020 บริษัท Hyundai มองว่าการสร้างระบบหุ่นยนต์อาจมีส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ จึงทุ่มเงินกว่า 921 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการเข้าซื้อ Boston Dynamics ครั้งนี้
บริษัทพัฒนา Spot มาจากแนวคิดที่อยากให้มันเป็น หุ่นยนต์อุตสาหกรรมครบวงจรที่ใช้งานง่ายและผู้ใช้เข้าใจการทำงานของมันได้ตั้งแต่แกะกล่อง เพื่อสามารถขายให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ ไม่ใช่แค่ในแวดวงวิชาการเท่านั้น
แต่ในช่วงแรกที่บริษัทสร้าง Spot ออกมามันยังใช้งานยาก เพราะผู้สร้างส่วนใหญ่เป็นวิศวกรที่มีความคิดที่ซับซ้อน จึงออกแบบมันให้ซับซ้อนตามไปด้วย
Boston Dynamics เลยต้องไปขอความช่วยเหลือจากบริษัท Rightpoint (บริษัทที่เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้าง Customer Eexperience) มาช่วยพัฒนา Spot ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นและเหมาะสำหรับขายให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ
Spot ทำอะไรได้บ้าง
ความสามารถของ Spot อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่การรวมความสามารถที่เรียบง่ายเอาไว้ คือจุดเด่นที่ทำให้มันเป็นหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์ Pain Point ให้กับผู้ใช้อย่างมาก ความสามารถพื้นฐานของมันเน้นไปที่ ความยืดหยุ่น คล่องตัว และว่องไว นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไมหุ่นยนต์ตัวนี้ถึงต้องเป็นน้องหมาสี่ขา
ยิ่งไปกว่านั้น Spot ยังถูกออกแบบมาให้สามารถเป็นผู้ช่วยในการตรวจตราสถานที่ทำงาน อย่างเช่น โรงงาน สถานที่ก่อสร้าง และห้องปฏิบัติการวิจัยว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ โดยมันจะรายงานวันที่ สภาพของสถานที่ หรือแม้แต่คาดการณ์เวลาที่อาจมีสถานการณ์อันตรายได้
นี่เป็นเพียงแค่ความสามารถพื้นฐานของหุ่นยนต์ตัวนี้เท่านั้น ซึ่ง Spot เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมให้กับมันก็จะสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นอีก เช่น
นี่เป็นเพียงแค่ความสามารถพื้นฐานของหุ่นยนต์ตัวนี้เท่านั้น ซึ่ง Spot เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริมให้กับมันก็จะสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นอีก เช่น
-Spot Arm: แขนที่เชื่อมต่อบนส่วนหัว ซึ่งแขนของมันสามารถเคลื่อนไหวได้หลายวิธี จับยึดสิ่งของได้ดี และเอื้อมได้ไกลสุด 1 เมตร อุปกรณ์ตัวนี้ช่วยให้มันสามารถยกของที่มีน้ำหนักถึง 11 กิโลกรัม และลากของที่มีน้ำหนักถึง 25 กิโลกรัมได้ นอกจากนี้แขนยังแขนสามารถ เปิดประตูลูกบิด เปิดปิดสวิตช์ไฟได้ด้วย
-Spot CAM+: กล้องชนิดพิเศษที่นำมาต่อเข้ากับช่วงตัวของ Spot ใช้ในการตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตราย กล้องสามารถจับภาพได้ทั้งในที่สว่างและที่มืด โดยจะมีกล้อง 2 ตัว ตัวแรกสามารสามารถมองเห็นได้รอบตัว 360° และตัวที่ 2 ซูมได้ถึง 30 เท่า นอกจากนี้ยังมีไมโครโฟนและลำโพง ผู้ใช้จึงสามารถฟังสิ่งต่าง ๆ และพูดคุยกับคนที่อยู่ใกล้ ๆ Spot ได้
โปรเจกต์พิเศษที่ Spot ได้เข้าร่วม
ความสามารถพื้นฐานที่ตอบโจทย์ทำให้ Spot มีโอกาศได้ทำงานร่วมกับองค์กรสำคัญระดับโลกถึง 2 ที่ อย่าง NASA (องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ) และ MIT Media Lab ในโปรเจกพิเศษ ได้แก่
ความสามารถพื้นฐานที่ตอบโจทย์ทำให้ Spot มีโอกาศได้ทำงานร่วมกับองค์กรสำคัญระดับโลกถึง 2 ที่ อย่าง NASA (องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ) และ MIT Media Lab ในโปรเจกพิเศษ ได้แก่
1. ฝึก Spot สำรวจดาวอังคาร
Au-Spot หุ่นยนต์สุนัขที่ NASA พัฒนามาจาก Spot หุ่นยนต์ตัวนี้มีความคล่องแคล่ว ว่องไว NASA จึงคิดว่า Spot เหมาะมากที่จะใช้สำรวจดาวดาวอังคารเนื่องจาก Spot มีเซนเซอร์พิเศษที่ทำให้มันสามารถหลบสิ่งกีดขวาง ประมวลผลเลือกเส้นทางที่ดีกว่า มีการทรงตัวและการเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่นจึงสามารถเดินบนพื้นผิวขรุขระได้ และลุกขึ้นได้เองเมื่อมันล้ม และหุ่นยนต์สุนัขมีน้ำหนักเบาและเคลื่อนที่ได้เร็วกว่ารถแลนด์โรเวอร์ที่ใช้สำรวจอยู่ในปัจจุบันมาก
โดยมีทีม CoSTAR ได้ช่วยกันพัฒนา Au-Spot ขึ้นมา โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยในการสำรวจ เช่น เทคโนโลยี LiDAR (คลื่นแสงเลเซอร์ที่ส่งไปกระทบกับพื้นผิว เพื่อประมวลผลเป็นข้อมูลภาพ 3 มิติ), เทคโนโลยี AI เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถแยกแยะว่าสิ่งไหนน่าสนใจ และสิ่งไหนไม่จำเป็น ทำให้มันไม่เก็บข้อมูลมั่วซั่ว
ในการฝึกฝนทีม CoSTAR ให้ Spot ฝึกโดยใช้ในสถานที่ต่าง ๆ บนโลกที่มีลักษณะใกล้เคียงกับดาวอังคาร เช่น ถ้ำ อุโมงค์ พื้นที่กลางแจ้งที่ดูเหมือนดาวอังคาร
Au-Spot หุ่นยนต์สุนัขที่ NASA พัฒนามาจาก Spot หุ่นยนต์ตัวนี้มีความคล่องแคล่ว ว่องไว NASA จึงคิดว่า Spot เหมาะมากที่จะใช้สำรวจดาวดาวอังคารเนื่องจาก Spot มีเซนเซอร์พิเศษที่ทำให้มันสามารถหลบสิ่งกีดขวาง ประมวลผลเลือกเส้นทางที่ดีกว่า มีการทรงตัวและการเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่นจึงสามารถเดินบนพื้นผิวขรุขระได้ และลุกขึ้นได้เองเมื่อมันล้ม และหุ่นยนต์สุนัขมีน้ำหนักเบาและเคลื่อนที่ได้เร็วกว่ารถแลนด์โรเวอร์ที่ใช้สำรวจอยู่ในปัจจุบันมาก
โดยมีทีม CoSTAR ได้ช่วยกันพัฒนา Au-Spot ขึ้นมา โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยในการสำรวจ เช่น เทคโนโลยี LiDAR (คลื่นแสงเลเซอร์ที่ส่งไปกระทบกับพื้นผิว เพื่อประมวลผลเป็นข้อมูลภาพ 3 มิติ), เทคโนโลยี AI เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถแยกแยะว่าสิ่งไหนน่าสนใจ และสิ่งไหนไม่จำเป็น ทำให้มันไม่เก็บข้อมูลมั่วซั่ว
ในการฝึกฝนทีม CoSTAR ให้ Spot ฝึกโดยใช้ในสถานที่ต่าง ๆ บนโลกที่มีลักษณะใกล้เคียงกับดาวอังคาร เช่น ถ้ำ อุโมงค์ พื้นที่กลางแจ้งที่ดูเหมือนดาวอังคาร
2. ใช้คลื่นสมองสั่งการ Spot
นี่เรากำลังจะใช้พลังจิต สั่งหุ่นยนต์ได้แล้วจริง ๆ
โครงการ Ddog มีขึ้นเพื่อการใช้หุ่นยนต์ Spot ร่วมกับอุปกรณ์ Brain-Computer Interface (BCI) หรือเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์
นี่เรากำลังจะใช้พลังจิต สั่งหุ่นยนต์ได้แล้วจริง ๆ
โครงการ Ddog มีขึ้นเพื่อการใช้หุ่นยนต์ Spot ร่วมกับอุปกรณ์ Brain-Computer Interface (BCI) หรือเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์
Ddog เป็นโปรเจกที่พัฒนาต่อมาจากแอปพลิเคชัน Brain Switch ซึ่งเป็นระบบ BCI ที่เน้นช่วยเหลือให้ผู้ที่มีปัญหาทางร่างกาย เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง, บาดเจ็บไขสันหลัง, หรือโรคหลอดเลือดสมอง ให้สามารถสื่อสารกับคนรอบตัวได้
การสื่อสารผ่านคลื่นสมองจะต้องใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า AttentivU เป็นแว่นตาที่สามารถวัดคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) และคลื่นไฟฟ้าจอตา (EOG) โดยจะเชื่อมต่อ Spot เข้ากับ AttentivU เมื่อผู้ป่วยสวมใส่แว่นตาหุ่นยนต์ก็จะสามารถเข้าใจและตอบสนองต่อความคิดความต้องการของพวกเขาได้
ซึ่งมันทำให้ Spot สามารถเป็นผู้ช่วยผู้ป่วยในการทำงานต่าง ๆ เช่น ถือของ ยกเก้าอี้ เปิดประตู และงานอื่น ๆ ตามความคิดหรือความต้องการของผู้ป่วย โดยที่พวกเขาไม่ต้องพูดออกมาสักคำ
การสื่อสารผ่านคลื่นสมองจะต้องใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า AttentivU เป็นแว่นตาที่สามารถวัดคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) และคลื่นไฟฟ้าจอตา (EOG) โดยจะเชื่อมต่อ Spot เข้ากับ AttentivU เมื่อผู้ป่วยสวมใส่แว่นตาหุ่นยนต์ก็จะสามารถเข้าใจและตอบสนองต่อความคิดความต้องการของพวกเขาได้
ซึ่งมันทำให้ Spot สามารถเป็นผู้ช่วยผู้ป่วยในการทำงานต่าง ๆ เช่น ถือของ ยกเก้าอี้ เปิดประตู และงานอื่น ๆ ตามความคิดหรือความต้องการของผู้ป่วย โดยที่พวกเขาไม่ต้องพูดออกมาสักคำ
BY : Jim
ที่มา : https://techsauce.co/tech-and-biz/get-to-know-spot-boston-dynamics
บทความที่เกี่ยวข้อง
AI Napkin : เปลี่ยนไอเดียเล็ก ๆ ให้กลายเป็นเทคโนโลยีใหญ่
12 ก.ค. 2025
ลองจินตนาการว่า...คุณสั่งของออนไลน์ และพัสดุของคุณถูกส่งมาถึง "ตู้ล็อกเกอร์" ใกล้บ้าน ไม่ต้องรอคนส่ง ไม่ต้องมีใครโทรมาแค่สแกน QR หรือใส่รหัส ก็รับของได้เลยภายในไม่กี่วินาที
12 ก.ค. 2025
ในธุรกิจขนส่ง ทุกการวิ่งรถคือ "ต้นทุน" ถ้าวิ่งผิดรอบ ผิดเส้นทาง หรือมีพัสดุน้อยเกินไป ก็เท่ากับ เสียเงินเปล่า นี่คือเหตุผลที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะในเรื่องของ การจัดรอบรถอัตโนมัติ (AI Route Optimization)
12 ก.ค. 2025