แชร์

5 วิธีสร้าง work environment มัดใจพนักงาน

noimageauthor นักศึกษาฝึกงาน(คลัง)
อัพเดทล่าสุด: 15 ม.ค. 2025
96 ผู้เข้าชม
   คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า work environment ที่ดีนั้นส่งผลให้การทำงาน กำลังใจ สุขภาพจิตของเรา รวมไปถึงประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้นตามๆลำดับ ถ้าหากว่าเราต้องไปทำงานทุกวันในออฟฟิศที่มีสภาพแวดล้อมไม่ดีตั้งแต่บรรยากาศของออฟฟิศ ไปจนถึงเพื่อนร่วมงาน แน่นอนว่าเราก็คงไม่อยากจะไปทำงานสักเท่าใดนัก ดังนั้นแล้วการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีจึงเป็นสิ่งที่บริษัทต้องให้ความสำคัญ และเป็นหนึ่งในวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดในการสร้างทีมอีกด้วย
 
Work environment   ที่ดีและแบบที่เป็นพิษ
 สำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีนั้น เราทุกคนคงพอทราบกันดีว่าเป็นแบบไหน แน่นอนว่าต้องเป็นสถานที่ทำงานที่ทำให้เรารู้สึกพึงพอใจอยากไปทำงาน สภาพที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานที่สามารถพูดคุยและแชร์ไอเดียกันได้ การทำงานที่เปิดกว้าง ความเครียดที่อยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนั้นแล้วบริษัทยังควรเปิดในเรื่องของวัฒนธรรมและให้ความใส่ใจใน work-life balance อีกด้วย ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมหมายถึง productivity ที่มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จร่วมกันของทั้งองค์กรนั่นเอง

  ส่วน work environment ที่เป็นพิษนั้นก็จะเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกันเลย เริ่มตั้งแต่การสื่อสารภายในองค์กรเป็นไปได้อย่างยากลำบาก การทำงานที่มีแต่ความเครียด ไม่รู้สึกถึงความสมดุลระหว่างเวลางานและเวลาส่วนตัว ซึ่งปัญหาต่างๆที่กล่าวมาเหล่านี้สุดท้ายพนักงานจำนวนมากก็จะเริ่มรู้สึกหมดไฟในการทำงานและเริ่มทำการมองหางานใหม่
 
Work environment   ที่ดี สร้างได้อย่างไร มีอะไรบ้าง?
1.เริ่มจากสภาพแวดล้อมโดยรวมของออฟฟิศ
คุณควรเช็คให้มั่นใจว่าออฟฟิศนั้นสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย  เพราะสิ่งเล็กๆเหล่านี้มีผลต่อ mood ในการทำงานเป็นอย่างมาก ให้ความสำคัญกับแสงสว่างภายในออฟฟิศด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแสงจากหลอดไฟในออฟฟิศ หรือแสงจากธรรมชาติที่ส่องเข้ามา และแม้ว่าในบางกรณีที่อาจจะเป็นไปได้ยากที่จะจัดให้แสงจากภายนอกผ่านเข้ามาในออฟฟิศ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถทำได้คือการประยุกต์ใช้สีของหลอดไฟเข้าช่วย เช่น การใช้หลอดสีฟ้าจะช่วยลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มความสุข เราอาจจะจัดไว้ในห้องประชุม ในขณะที่ใช้สีโทนอบอุ่นในโซนพักผ่อน เป็นต้น
 
2.ให้ความสำคัญกับพื้นที่การทำงาน
หลายต่อหลายครั้งที่องค์กรมักเข้าใจผิดและให้ความสำคัญเฉพาะพื้นที่รอบๆออฟฟิศ และในส่วนที่บุคคลภายนอกเห็นได้เพียงแค่นั้น แต่นั่นยังไม่เพียงพอ อย่าลืมว่าพนักงานนั้นต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ที่โต๊ะทำงาน ดังนั้นแล้วทำให้มั่นใจว่าพนักงานแต่ละคนมีพื้นที่บนโต๊ะทำงานที่มากเพียงพอ ไม่นั่งติดกันจนเกินไป ไม่ต้องแชร์พื้นที่ร่วมกัน และอีกสิ่งที่เรามักจะมองข้ามก็คือเรื่องของเก้าอี้ทำงานที่ต้องมีความสบายเพียงพอต่อการทำงานระยะยาวในแต่ละวัน
 
3.ใส่ใจ   work-life balance
อย่าลืมว่าในตัวคนๆหนึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ชีวิตการทำงาน เมื่อพนักงานสามารถเติมเต็มความต้องการและเป้าหมายอื่นๆในชีวิต เช่นด้านครอบครัว เพื่อนฝูง การเติบโตของตนเอง เมื่อนั้นพนักงานจะมีความพึงพอใจกับสภาพปัจจุบัน และเกิดความรู้สึกว่าทุกๆด้านในชีวิตกำลังเป็นไปด้วยดี ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มสูงมากขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้คงเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากว่าองค์กรยังเน้นในเรื่องของการทำงานหามรุ่งหามค่ำจนพนักงานไม่มีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเอง
 
4.ส่งเสริมวัฒนธรรมการสื่อสาร
มีหลายกรณีมากๆที่พนักงานลาออกเพราะทนไม่ไหวกับการสื่อสารในองค์กร คนในบริษัทใช้แต่อารมณ์ในการสื่อสาร ซึ่งใน work environment ที่ดีนั้น พนักงานไม่ควรจะต้องเกิดความรู้สึกที่ว่าพวกเขาต้องเก็บเงียบ เพราะหากพูดออกไปจะมีปัญหาอะไรตามมา การเปิดกว้างในการแสดงความคิดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น นอกจากนี้การพูดคุยสื่อสารกันในทีมที่มากขึ้นยังจะช่วยให้เกิดความเข้าใจและทำงานร่วมกันได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย
 
5.เห็นคุณค่าของพนักงาน
จริงอยู่ว่าพนักงานในองค์กรทำงานเพื่อเงินเดือน แต่ก็ยังมีด้านที่อยู่นอกเหนือจากเรื่องผลตอบแทน ทุกคนต้องการให้องค์กรตระหนักถึงความทุ่มเทในการทำงานของตนเอง ดังนั้นแล้วอย่าลืมให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และให้รางวัลกับพนักงานที่สร้างความแตกต่างให้กับองค์กร โดยรางวัลนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นผลตอบแนในรูปของตัวเงินทุกครั้ง การทำเช่นนี้จะช่วยส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวกในที่ทำงาน ในส่วนพนักงานเองก็จะรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและภูมิใจกับงานที่ทำเพิ่มขึ้นอีกด้วย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
BY : Jim
ที่มา : https://www.empeo.com/blog/tips/5-ways-to-good-work-environment/

บทความที่เกี่ยวข้อง
​Bitcoin (บิตคอยน์) สกุลเงินดิจิทัล จากเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)
​Bitcoin (บิตคอยน์) สกุลเงินดิจิทัล จากเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)
Notify.png พี่ปี
21 มี.ค. 2025
AI และระบบอัตโนมัติในคลังสินค้า
ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ระบบ AI และระบบอัตโนมัติ (Automation) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะใน คลังสินค้าและโลจิสติกส์ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้กระบวนการจัดเก็บ คัดแยก และขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความเร็วในการดำเนินงาน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจว่า AI และระบบอัตโนมัติทำงานอย่างไร และส่งผลกระทบอย่างไรต่อธุรกิจคลังสินค้า
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
21 มี.ค. 2025
Automated Warehouse: เมื่อ AI และหุ่นยนต์ทำงานแทนคน
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนคือ "คลังสินค้าอัตโนมัติ" หรือ Automated Warehouse ระบบที่ใช้ AI และหุ่นยนต์เข้ามาช่วยจัดการแทนมนุษย์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และลดต้นทุนในการดำเนินงาน
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
21 มี.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ