Triple Bottom Line (TBL) คืออะไร?
อัพเดทล่าสุด: 12 ธ.ค. 2024
932 ผู้เข้าชม
Triple Bottom Line (TBL) หรือที่แปลเป็นไทยว่า "สามเสาหลัก" เป็นแนวคิดที่ขยายขอบเขตของความสำเร็จขององค์กรให้ครอบคลุมมากกว่าแค่ผลกำไรทางการเงินเพียงอย่างเดียว TBL เน้นความสำคัญของการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบในสามมิติหลัก ได้แก่
- มิติทางเศรษฐกิจ (Profit): เป็นมิติที่คุ้นเคยกันดี คือ การสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจ เพื่อความอยู่รอดและเติบโต
- มิติสิ่งแวดล้อม (Planet): เป็นมิติที่เน้นการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบที่เกิดจากกิจกรรมของธุรกิจ เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการขยะ และการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
- มิติสังคม (People): เป็นมิติที่เน้นการดูแลความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม เช่น พนักงาน ลูกค้า ชุมชน และสังคมโดยรวม เช่น การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี การผลิตสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคม
ทำไม Triple Bottom Line ถึงสำคัญ?
- ความยั่งยืน: TBL ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยไม่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมในระยะยาว
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับ TBL จะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ มากขึ้น
- ลดความเสี่ยง: การดำเนินงานที่คำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ เช่น การถูกต่อต้านจากชุมชน หรือการถูกควบคุมโดยกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น
ตัวอย่างการนำ Triple Bottom Line ไปใช้
- ภาคอุตสาหกรรม: บริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคบางแห่งหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ง่าย และลดการใช้พลาสติก
- ภาคบริการ: โรงแรมบางแห่งมีนโยบายลดการใช้พลังงาน เช่น การติดตั้งหลอดไฟ LED และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์
- ภาคเทคโนโลยี: บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่น และสนับสนุนให้พนักงานทำงานจากระยะไกล
สรุป
Triple Bottom Line เป็นแนวคิดที่สำคัญสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบัน ที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างสรรค์คุณค่าให้กับสังคม โดยการคำนึงถึงผลกระทบทั้งทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมควบคู่กันไป
ที่มา: Gemini
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
มากกว่าแค่ทำงานไว: องค์ความรู้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากแค่ไหน? | Blog
เราทุกคนต่างมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนถึงสามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นและก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางคนยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานกองโตในแต่ละวัน? คำตอบไม่ได้อยู่ที่การทำงานหนักขึ้น แต่อยู่ที่ "สินทรัพย์ที่มองไม่เห็น" นั่นคือ องค์ความรู้
16 ก.ค. 2025
ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำงานแบบเดิมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป
"ทำเร็วขึ้น" แต่ต้องไม่เสียคุณภาพ และ "ทำดีขึ้น" ต้องมีระบบความรู้รองรับ
นี่แหละคือเหตุผลที่ "องค์ความรู้" กลายเป็นทรัพยากรสำคัญขององค์กรยุคใหม่
16 ก.ค. 2025