OEE คืออะไร? คำนวณอย่างไร ทำไมจึงสำคัญกับอุตสาหกรรม
อัพเดทล่าสุด: 27 พ.ย. 2024
773 ผู้เข้าชม
OEE คืออะไร ทำไมถึงต้องรู้จัก
Overall Equipment Effectiveness (OEE): ประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร คือวิธีการคำนวณความสามารถในการทำงานทั้งหมดของเครื่องจักรภายในโรงงาน โดยอ้างอิงจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและสรุปออกมาเป็นตัวเลข
โดยการคำนวณ OEE จะมีส่วนประกอบหลัก 3 อย่าง คือ
-อัตราการเดินเครื่องจักร (Availability)
-ประสิทธิภาพของเครื่องจักร (Performance Efficiency)
-อัตราคุณภาพ (Quality Rate)
-อัตราการเดินเครื่องจักร (Availability)
-ประสิทธิภาพของเครื่องจักร (Performance Efficiency)
-อัตราคุณภาพ (Quality Rate)
ซึ่งส่วนประกอบ 3 อย่างนี้ก็จะมีปัจจัยแยกย่อยลงไป เพื่อให้การคำนวณนั้นตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นภายในโรงงานมากที่สุด
อัตราการเดินเครื่อง (Availability) = 90%
ประสิทธิภาพการเดินเครื่อง (Performance Rate) = 95%
อัตราคุณภาพ (Quality Rate) = 99%
ประสิทธิภาพการเดินเครื่อง (Performance Rate) = 95%
อัตราคุณภาพ (Quality Rate) = 99%
ดังนั้น ประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรอุปกรณ์ (OEE) = 0.90 x 0.95x 0.99 x 100 = 85%
ซึ่งค่านี้ไม่ใช่เกณฑ์ที่บังคับใช้ สามารถกำหนดเป้าหมายให้เหมาะสมกับโรงงานได้ แต่บริษัทที่ได้รับรางวัล PM ส่วนใหญ่ ล้วนมีค่าประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรอุปกรณ์ (OEE) สูงกว่า 85% ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามการปรับปรุงค่า OEE ควรจะมีทีมเฉพาะกิจขึ้นมาคิดคำนวณ และตั้งเป้าหมาย รวมถึงการวางกลยุทธ์ ทั้งนี้เพื่อการปรับปรุงไปในทางเดียวกันทั้งโรงงาน
การคำนวณ OEE
สำหรับการคำนวณ OEE ทางผู้ประกอบการจำเป็นต้องแยก Factor ย่อยๆ ของ OEE ออกมาก่อน แล้วจึงนำไปเข้าสูตรการคำนวณ OEE โดยมีรายละเอียดดังนี้
OEE = อัตราเดินเครื่องจักร x ประสิทธิภาพการเดินเครื่อง x อัตราคุณภาพ
อัตราการเดินเครื่องจักร (Availability)
อัตราการเดินเครื่องจักร = เวลาเดินเครื่องจักร/เวลารับภาระงาน
เวลาเดินเครื่องจักร = เวลารับภาระงาน เวลาในการหยุดเดินเครื่องจักร
เวลารับภาระงาน = เวลาทำงานทั้งหมด-เวลาหยุดตามแผนงาน
สำหรับการคำนวณ OEE ทางผู้ประกอบการจำเป็นต้องแยก Factor ย่อยๆ ของ OEE ออกมาก่อน แล้วจึงนำไปเข้าสูตรการคำนวณ OEE โดยมีรายละเอียดดังนี้
OEE = อัตราเดินเครื่องจักร x ประสิทธิภาพการเดินเครื่อง x อัตราคุณภาพ
อัตราการเดินเครื่องจักร (Availability)
อัตราการเดินเครื่องจักร = เวลาเดินเครื่องจักร/เวลารับภาระงาน
เวลาเดินเครื่องจักร = เวลารับภาระงาน เวลาในการหยุดเดินเครื่องจักร
เวลารับภาระงาน = เวลาทำงานทั้งหมด-เวลาหยุดตามแผนงาน
ตัวอย่างการหาอัตราเดินเครื่องจักร
เครื่องจักรในโรงงานตัวหนึ่งมีเวลาทำงานทั้งหมด 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีการหยุดตามแผนงานสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง มีเวลาสูญเสียจากการที่เครื่องจักรหยุด 2 ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห์อัตราการเดินเครื่องจักรจะเป็นเท่าใด
แทนค่าตัวแปร
เวลารับภาระงาน = เวลาทำงานทั้งหมด เวลาหยุดตามแผนงาน
= 36-4
= 32 ชั่วโมง
เวลาเดินเครื่องจักร = เวลารับภาระงาน เวลาในการหยุดเดินเครื่องจักร
= 32-2
= 30
อัตราการเดินเครื่องจักร = เวลาเดินเครื่องจักร/เวลารับภาระงาน
= 30/32
= 93.75%
เครื่องจักรในโรงงานตัวหนึ่งมีเวลาทำงานทั้งหมด 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีการหยุดตามแผนงานสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง มีเวลาสูญเสียจากการที่เครื่องจักรหยุด 2 ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห์อัตราการเดินเครื่องจักรจะเป็นเท่าใด
แทนค่าตัวแปร
เวลารับภาระงาน = เวลาทำงานทั้งหมด เวลาหยุดตามแผนงาน
= 36-4
= 32 ชั่วโมง
เวลาเดินเครื่องจักร = เวลารับภาระงาน เวลาในการหยุดเดินเครื่องจักร
= 32-2
= 30
อัตราการเดินเครื่องจักร = เวลาเดินเครื่องจักร/เวลารับภาระงาน
= 30/32
= 93.75%
ประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักร (Performance Efficiency)
การคำนวณประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักรสามารถคำนวณได้ 2 แบบ โดยอ้างอิงจากเวลาในการใช้ตัวแปรด้านเวลาเพื่อคำนวณ หรือการคำนวณจากการผลิตชิ้นงาน โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
การคำนวณประสิทธิภาพโดยคิดจากเวลา
ประสิทธิภาพในการเดินเครื่องจักร = (เวลาเดินเครื่องทั้งหมด เวลาในการหยุดเดินเครื่องจักร)/เวลาเดินเครื่องทั้งหมด
การคำนวณประสิทธิภาพโดยคิดจากการผลิตชิ้นงาน
ประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักร = จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้/จำนวนชิ้นงานที่ควรผลิตได้ตามมาตรฐาน
ตัวอย่างการหาประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักร
เวลาทำงานของเครื่องจักรเครื่องหนึ่ง มีการใช้เวลาทำงานจริงทั้งหมด 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งในช่วงเวลาการทำงานนั้นมีการหยุดทำงานเครื่องจักรไป 10 ชั่วโมง ประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักรนี้คิดเป็นเท่าใด
แทนค่าตัวแปร
ประสิทธิภาพในการเดินเครื่องจักร = (เวลาเดินเครื่องทั้งหมด เวลาในการหยุดเดินเครื่องจักร)/เวลาเดินเครื่องทั้งหมด
= (48-10)/48
= 79%
การคำนวณประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักรสามารถคำนวณได้ 2 แบบ โดยอ้างอิงจากเวลาในการใช้ตัวแปรด้านเวลาเพื่อคำนวณ หรือการคำนวณจากการผลิตชิ้นงาน โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
การคำนวณประสิทธิภาพโดยคิดจากเวลา
ประสิทธิภาพในการเดินเครื่องจักร = (เวลาเดินเครื่องทั้งหมด เวลาในการหยุดเดินเครื่องจักร)/เวลาเดินเครื่องทั้งหมด
การคำนวณประสิทธิภาพโดยคิดจากการผลิตชิ้นงาน
ประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักร = จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้/จำนวนชิ้นงานที่ควรผลิตได้ตามมาตรฐาน
ตัวอย่างการหาประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักร
เวลาทำงานของเครื่องจักรเครื่องหนึ่ง มีการใช้เวลาทำงานจริงทั้งหมด 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งในช่วงเวลาการทำงานนั้นมีการหยุดทำงานเครื่องจักรไป 10 ชั่วโมง ประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักรนี้คิดเป็นเท่าใด
แทนค่าตัวแปร
ประสิทธิภาพในการเดินเครื่องจักร = (เวลาเดินเครื่องทั้งหมด เวลาในการหยุดเดินเครื่องจักร)/เวลาเดินเครื่องทั้งหมด
= (48-10)/48
= 79%
อัตราคุณภาพ (Quality Rate)
การคำนวณอัตราคุณภาพ เป็นอีกตัวแปรที่สามารถผ่านการคำนวณได้ 2 รูปแบบ รูปแบบแรกคือการหาอัตราคุณภาพผ่านตัวแปรด้านเวลา ส่วนอีกรูปแบบคือการหาอัตราคุณภาพผ่านชิ้นงานที่ผลิตได้ โดยมีการคำนวณดังนี้
การหาอัตราคุณภาพโดยคิดจากเวลา
เวลาเดินเครื่องที่เกิดมูลค่า = เวลาเดินเครื่องสุทธิ เวลาที่เสียไปจากการผลิตของเสีย
อัตราคุณภาพ = เวลาเดินเครื่องที่เกิดมูลค่า/เวลาเดินเครื่องสุทธิ
การหาอัตราคุณภาพโดยคิดจากสิ่งที่ผลิต
อัตราคุณภาพ = (จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้-จำนวนชิ้นงานเสีย)/จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้
ตัวอย่างการหาอัตราคุณภาพ
เครื่องจักรเครื่องหนึ่ง สามารถผลิตผลงานได้ 500 ชิ้นต่อวัน โดยมีงานที่เสียจำนวน 50 ชิ้น อัตราคุณภาพของเครื่องจักรนี้จะเป็นเท่าใด
แทนค่าตัวแปร
อัตราคุณภาพ = (จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้-จำนวนชิ้นงานเสีย)/จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้
= (500-50)/500
= 90%
เวลาเดินเครื่องที่เกิดมูลค่า = เวลาเดินเครื่องสุทธิ เวลาที่เสียไปจากการผลิตของเสีย
อัตราคุณภาพ = เวลาเดินเครื่องที่เกิดมูลค่า/เวลาเดินเครื่องสุทธิ
การหาอัตราคุณภาพโดยคิดจากสิ่งที่ผลิต
อัตราคุณภาพ = (จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้-จำนวนชิ้นงานเสีย)/จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้
ตัวอย่างการหาอัตราคุณภาพ
เครื่องจักรเครื่องหนึ่ง สามารถผลิตผลงานได้ 500 ชิ้นต่อวัน โดยมีงานที่เสียจำนวน 50 ชิ้น อัตราคุณภาพของเครื่องจักรนี้จะเป็นเท่าใด
แทนค่าตัวแปร
อัตราคุณภาพ = (จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้-จำนวนชิ้นงานเสีย)/จำนวนชิ้นงานที่ผลิตได้
= (500-50)/500
= 90%
การคิด OEE
สมมติโจทย์ โดยคิดจากการทำงานของเครื่องจักรในตัวอย่าง อัตราเดินเครื่องจักร ประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักร และอัตราคุณภาพของเครื่องจักร
OEE = อัตราเดินเครื่องจักร x ประสิทธิภาพการเดินเครื่อง x อัตราคุณภาพ
= 93.75% * 79% *90%
= 66%
สมมติโจทย์ โดยคิดจากการทำงานของเครื่องจักรในตัวอย่าง อัตราเดินเครื่องจักร ประสิทธิภาพการเดินเครื่องจักร และอัตราคุณภาพของเครื่องจักร
OEE = อัตราเดินเครื่องจักร x ประสิทธิภาพการเดินเครื่อง x อัตราคุณภาพ
= 93.75% * 79% *90%
= 66%
สรุปบทความ
OEE ถือเป็นอีกหนึ่งการคำนวณสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และภายในการคำนวณนั้นยังสามารถแบ่งส่วนประกอบย่อยๆ ออกมา เพื่อตรวจสอบการทำงานได้อีกด้วย ซึ่งการใช้ OEE ให้ดีที่สุดนั้น ต้องมีการเก็บข้อมูลที่ครบถ้วน และการคำนวณที่ถูกต้อง
OEE ถือเป็นอีกหนึ่งการคำนวณสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย และภายในการคำนวณนั้นยังสามารถแบ่งส่วนประกอบย่อยๆ ออกมา เพื่อตรวจสอบการทำงานได้อีกด้วย ซึ่งการใช้ OEE ให้ดีที่สุดนั้น ต้องมีการเก็บข้อมูลที่ครบถ้วน และการคำนวณที่ถูกต้อง
BY : Jim
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในโลกของ E-commerce เรามักคิดว่า "การปิดการขาย" เกิดขึ้นเมื่อลูกค้ากดปุ่ม "ยืนยันการสั่งซื้อ" และชำระเงินเรียบร้อย แต่ในความเป็นจริง นั่นเป็นเพียงแค่ "ครึ่งแรก" ของเกมเท่านั้น การปิดการขายที่แท้จริง ที่จะสร้างความประทับใจสูงสุดและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ คือ ประสบการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังการจ่ายเงิน ตั้งแต่การแพ็คของไปจนถึงวินาทีที่พัสดุถึงมือลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบ
10 ต.ค. 2025
Negative Matching คือการนำข้อมูลสองชุดมาจับคู่กันเพื่อค้นหา "รายการที่ไม่มีคู่" หรือ "รายการที่หาไม่เจอ" ซึ่งผลลัพธ์เหล่านี้คือกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุดสำหรับการทำการตลาดเพื่อเสนอขายบริการเพิ่มเติม (Cross-selling)
10 ต.ค. 2025
ในยุคที่การทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) กลายเป็นเรื่องปกติ การบริหารจัดการเวลาให้ลงตัวกลายเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการจัดส่งพัสดุ ที่หลายครั้งอาจทำให้คุณต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางเพื่อไปส่งของด้วยตัวเอง แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าคุณสามารถส่งพัสดุได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องก้าวขาออกจากบ้าน BS Express เข้าใจถึงความต้องการนี้และพร้อมนำเสนอบริการเข้ารับพัสดุถึงหน้าประตู ที่จะเปลี่ยนเรื่องยุ่งยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้ว
10 ต.ค. 2025