7 สุดยอด Productivity Tool เพื่อความสำเร็จของธุรกิจSME
อัพเดทล่าสุด: 14 ต.ค. 2024
205 ผู้เข้าชม
เครื่องมือเพิ่มผลิตภาพ หรือ Productivity tool แบบใช้งานบนหน้าเว็บไซต์มีประโยชน์อย่างมากต่อทั้งบริษัท startup และบริษัทที่มั่นคงแล้ว เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยบริษัทเล็ก ๆ ในการจัดกระบวนการทำงาน ทำงานบางอย่างโดยอัตโนมัติ พัฒนาการสื่อสาร ออกใบแจ้งหนี้ที่มีประสิทธิภาพ และทำการตลาดออนไลน์
1.Trello
Trello เป็นเครื่องมือบริหารจัดการงานที่จะช่วยให้คุณสามารถติดตามว่ากำลังทำงานอะไรอยู่บ้างและใครเป็นผู้รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ Trello สามารถสร้างบอร์ดและการ์ดได้หลากหลาย ตั้งกำหนดวันส่งงาน ใส่โน้ตที่สำคัญ ฯลฯ เป็นเครื่องมือเพื่อการบริหารโครงการที่ทำอะไรได้หลายอย่างอีกทั้งมีความยืดหยุ่น ฟีเจอร์สำคัญๆ ของ Trello คือ Big Picture/Projects, NextActions, Agile Board, Editorial Calendar รวมไปถึงเทมเพลตแบบต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ในอีกแง่หนึ่ง Trello ก็กำลังมุ่งจะสร้างทีม SEO ที่มีผลิตภาพสูงสำหรับบริษัทออนไลน์
2.Asana
Asana เป็นเครื่องมือบริหารขั้นตอนการทำงานและโครงการที่จะช่วยให้โปรเจ็กต์ใหญ่น้อยดำเนินไปอย่างราบรื่น ประสิทธิภาพของ Asana ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่คนนิยมนำมาช่วยสร้างและจัดการงานต่างๆ ที่มีจำนวนไม่จำกัด นอกจากจะถูกออกแบบมาให้ทีมใช้และติดตามงานของพวกเขาแล้ว มันยังถูกนำมาใช้เพื่อการบริหารที่คล่องแคล่วว่องไว, การทำรายงาน, การทำงานร่วมกัน, การทำ to-do-list, การสื่อสารกันภายในทีม และทำหน้าที่เป็นปฏิทินของโปรเจ็กต์ หนึ่งในฟังก์ชั่นการใช้งานที่สำคัญของ Asana คือ คุณสามารถสร้างเทมเพลตสำหรับชุดงานเดิมโดยไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำอีก
3.Google Calendar
Google Calendar เป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวและโปรไฟล์สาธารณะหลังจากที่สร้างบัญชีของ Google แล้วได้ เครื่องมือจะทำให้บริษัทสามารถจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเองได้
4.Evernote
Evernote เป็นซอฟท์แวร์เครื่องมือ/แอพพลิเคชั่นที่ออกแบบมาเพื่อจดโน้ต จัดการโน้ต และจัดเก็บโน้ต มันสามารถซิงค์โน้ตในแต่ละเครื่องให้ตรงกันได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถติดแท็ก เขียนคำบรรยายประกอบ แก้ไข ใส่ความคิดเห็น ค้นหา และ export เป็นส่วนหนึ่งของโน้ตบุ๊กได้ ฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ Evernote มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น
5.Hootsuite
Hootsuite เป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นทรงพลังที่จะทำให้คุณสามารถบริหารจัดการโพรไฟล์ Twitter, Facebook, Google+, Instagram, YouTube และ LinkedIn ได้อย่างมีประสิทธิภาพทำไมคุณถึงควรจะเลือกใช้ Hootsuite แทนที่จะเป็นเครื่องมือตัวอื่นๆ น่ะหรือ นี่เป็นคำถามสำคัญเลยเพราะแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็โฆษณาว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ใกล้เคียงกัน ฟีเจอร์ต่อไปนี้คือสิ่งที่ทำให้ Hootsuite เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการบริหารจัดการโปรไฟล์โซเชียลมีเดีย
6.MailChimp
MailChimp เป็นเครื่องมืออันยอดเยี่ยมที่สามารถนำมาใช้เป็นบริการการตลาดผ่านอีเมลแบบใช้งานบนหน้าเว็บ มันสามารถทำงานหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน และช่วยคุณออกแบบจดหมายข่าวทางอีเมล แชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เชื่อมต่อกับบริการที่คุณใช้อยู่แล้ว และติดตามผลของคุณ สาเหตุที่ MailChimp เป็นเครื่องมีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการตลาดผ่านอีเมล คือ
7.BuzzSumo
BuzzSumo คือ บริการ content marketing ที่สามารถติดตามเนื้อหาของเว็บไซต์ และแชร์เนื้อหาบนเว็บไซต์โซเชียลมีเดียหลักๆ ได้ ฟังก์ชั่นหลักของ BuzzSumo คือ การค้นคว้าเนื้อหา และความสามารถที่จะหาเนื้อหาที่ถูกแชร์กันมากที่สุดในหัวข้อที่คุณเลือก มันสามารถค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องมากที่สุดได้จาก URL และสามารถระบุตัวคนสำคัญในหัวข้อหรือในธุรกิจใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้ BuzzSumo ยังใช้กลยุทธ์การสร้างลิงค์ที่ทรงพลัง เพราะมันใช้เส้นทางการกระจายเนื้อหาและคนรู้จักของอินฟลูเอนเซอร์เพื่อสร้างลิงค์และสัญญาณทางสังคมที่นำมาสู่บริษัทเรา
BY : ICE
ที่มา : https://www.wisible.com
1.Trello
Trello เป็นเครื่องมือบริหารจัดการงานที่จะช่วยให้คุณสามารถติดตามว่ากำลังทำงานอะไรอยู่บ้างและใครเป็นผู้รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ Trello สามารถสร้างบอร์ดและการ์ดได้หลากหลาย ตั้งกำหนดวันส่งงาน ใส่โน้ตที่สำคัญ ฯลฯ เป็นเครื่องมือเพื่อการบริหารโครงการที่ทำอะไรได้หลายอย่างอีกทั้งมีความยืดหยุ่น ฟีเจอร์สำคัญๆ ของ Trello คือ Big Picture/Projects, NextActions, Agile Board, Editorial Calendar รวมไปถึงเทมเพลตแบบต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ในอีกแง่หนึ่ง Trello ก็กำลังมุ่งจะสร้างทีม SEO ที่มีผลิตภาพสูงสำหรับบริษัทออนไลน์
2.Asana
Asana เป็นเครื่องมือบริหารขั้นตอนการทำงานและโครงการที่จะช่วยให้โปรเจ็กต์ใหญ่น้อยดำเนินไปอย่างราบรื่น ประสิทธิภาพของ Asana ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่คนนิยมนำมาช่วยสร้างและจัดการงานต่างๆ ที่มีจำนวนไม่จำกัด นอกจากจะถูกออกแบบมาให้ทีมใช้และติดตามงานของพวกเขาแล้ว มันยังถูกนำมาใช้เพื่อการบริหารที่คล่องแคล่วว่องไว, การทำรายงาน, การทำงานร่วมกัน, การทำ to-do-list, การสื่อสารกันภายในทีม และทำหน้าที่เป็นปฏิทินของโปรเจ็กต์ หนึ่งในฟังก์ชั่นการใช้งานที่สำคัญของ Asana คือ คุณสามารถสร้างเทมเพลตสำหรับชุดงานเดิมโดยไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำอีก
3.Google Calendar
Google Calendar เป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวและโปรไฟล์สาธารณะหลังจากที่สร้างบัญชีของ Google แล้วได้ เครื่องมือจะทำให้บริษัทสามารถจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเองได้
- Google Calendar มีฟีเจอร์สำคัญ 5 ข้อที่ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก ดังต่อไปนี้
- แนบไฟล์สำหรับการประชุมได้
- ผู้ใช้สามารถส่งคำเชิญได้โดยตรงจากขั้นตอนการสร้างอีเว้นท์
- ตัวเลือก ค้นหาช่วงเวลา ช่วยให้คุณสามารถหาเวลานัดประชุมได้ในช่วงเวลาที่ว่าง
- Google Calendar สามารถเชื่อมกับ Google Maps เพื่อระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่นัดใน Google Calendar
4.Evernote
Evernote เป็นซอฟท์แวร์เครื่องมือ/แอพพลิเคชั่นที่ออกแบบมาเพื่อจดโน้ต จัดการโน้ต และจัดเก็บโน้ต มันสามารถซิงค์โน้ตในแต่ละเครื่องให้ตรงกันได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถติดแท็ก เขียนคำบรรยายประกอบ แก้ไข ใส่ความคิดเห็น ค้นหา และ export เป็นส่วนหนึ่งของโน้ตบุ๊กได้ ฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ Evernote มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น
- แนบเอกสาร
- จัดระเบียบโดยใช้ตาราง
- นำเสนอไอเดีย
- ตัดบทความจากเว็บไซต์
- ซิงค์โน้ตของคุณ
5.Hootsuite
Hootsuite เป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นทรงพลังที่จะทำให้คุณสามารถบริหารจัดการโพรไฟล์ Twitter, Facebook, Google+, Instagram, YouTube และ LinkedIn ได้อย่างมีประสิทธิภาพทำไมคุณถึงควรจะเลือกใช้ Hootsuite แทนที่จะเป็นเครื่องมือตัวอื่นๆ น่ะหรือ นี่เป็นคำถามสำคัญเลยเพราะแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็โฆษณาว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ใกล้เคียงกัน ฟีเจอร์ต่อไปนี้คือสิ่งที่ทำให้ Hootsuite เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการบริหารจัดการโปรไฟล์โซเชียลมีเดีย
- มันมอนิเตอร์หลายๆ สตรีมจากที่ที่เดียว
- ความสามารถในการบริหารจัดการทีมของ Hootsuite นั้นดีกว่าเจ้าอื่นมาก
- Hootsuit บริหารการดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพใน Twitter
- หากคุณต้องการโพสต์ในเพจ Google+ ของคุณ Hootsuite จะช่วยให้คุณทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ
- Hootsuite นั้นใช้งานได้จากหลากหลายช่องทางอย่างแท้จริง มันสามารถใช้งานได้บนบราวเซอร์และอุปกรณ์สมัยใหม่ทุกตัว
- มันช่วยให้คุณสามารถเชื่อมบริการต่างๆ จำนวนมากเข้าไว้ด้วยกัน
6.MailChimp
MailChimp เป็นเครื่องมืออันยอดเยี่ยมที่สามารถนำมาใช้เป็นบริการการตลาดผ่านอีเมลแบบใช้งานบนหน้าเว็บ มันสามารถทำงานหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน และช่วยคุณออกแบบจดหมายข่าวทางอีเมล แชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เชื่อมต่อกับบริการที่คุณใช้อยู่แล้ว และติดตามผลของคุณ สาเหตุที่ MailChimp เป็นเครื่องมีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการตลาดผ่านอีเมล คือ
- มันเป็นเครื่องมือส่ง bulk mail ที่ได้รับอนุญาตแล้ว
- มันสามารถส่งเมลถึงคนได้มากกว่า เพราะเมลของคุณจะถูกมองว่าปลอดภัยและได้รับอนุญาต
- เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
- มันใช้เทมเพลตที่สามารถปรับแต่งได้ในการออกแบบอีเมลที่ดูดีมีระดับ
- ใช้งานร่วมกับเครื่องอ่านอีเมลและอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้
- มันทำให้คุณรู้ได้ว่าผู้รับอ่านอีเมลของคุณหรือเปล่า
7.BuzzSumo
BuzzSumo คือ บริการ content marketing ที่สามารถติดตามเนื้อหาของเว็บไซต์ และแชร์เนื้อหาบนเว็บไซต์โซเชียลมีเดียหลักๆ ได้ ฟังก์ชั่นหลักของ BuzzSumo คือ การค้นคว้าเนื้อหา และความสามารถที่จะหาเนื้อหาที่ถูกแชร์กันมากที่สุดในหัวข้อที่คุณเลือก มันสามารถค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องมากที่สุดได้จาก URL และสามารถระบุตัวคนสำคัญในหัวข้อหรือในธุรกิจใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้ BuzzSumo ยังใช้กลยุทธ์การสร้างลิงค์ที่ทรงพลัง เพราะมันใช้เส้นทางการกระจายเนื้อหาและคนรู้จักของอินฟลูเอนเซอร์เพื่อสร้างลิงค์และสัญญาณทางสังคมที่นำมาสู่บริษัทเรา
BY : ICE
ที่มา : https://www.wisible.com
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในยุคที่อีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว การขนส่งและโลจิสติกส์กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในธุรกิจเฟรนไชส์ขนส่งจึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการขยายธุรกิจออกไปยังตลาดสากล
26 มี.ค. 2025
ในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การวัดความสำเร็จของธุรกิจไม่ได้วัดกันแค่ยอดขาย แต่ยังวัดกันที่ "Market Share" หรือ "ส่วนแบ่งตลาด" ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บอกถึงสถานะของธุรกิจในตลาด
25 มี.ค. 2025
ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ระบบซอฟต์แวร์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยเฉพาะระบบ WMS (Warehouse Management System) และ ERP (Enterprise Resource Planning) ซึ่งเป็นสองระบบที่มักถูกพูดถึงเมื่อกล่าวถึงการบริหารจัดการธุรกิจ แต่ทั้งสองระบบนี้มีความแตกต่างกันในแง่ของฟังก์ชันการทำงานและวัตถุประสงค์หลัก บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง WMS และ ERP ได้ดียิ่งขึ้น
25 มี.ค. 2025