แชร์

Kaizen กับกระบวนการทางโลจิสติกส์

อัพเดทล่าสุด: 23 ก.ย. 2024
696 ผู้เข้าชม
Kaizen คืออะไร?

          Kaizen (改善) มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า "การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง" โดยเน้นการปรับปรุงเล็กน้อยในทุกส่วนของกระบวนการ โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในงานและการทำงานอย่างต่อเนื่อง

การนำ Kaizen มาใช้ในกระบวนการโลจิสติกส์

1.การปรับปรุงกระบวนการขนส่ง

  • ลดเวลารอขนส่ง ลดระยะทางที่ไม่จำเป็น
  • หาวิธีการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การรวมเส้นทางหรือการใช้ยานพาหนะที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น
2.การปรับปรุงคลังสินค้า

  • ปรับปรุงการจัดวางสินค้าในคลังเพื่อลดเวลาการค้นหา
  • ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนในการรับ-ส่งสินค้า รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบรรจุ
3.การบริหารสินค้าคงคลัง

  • ลดปริมาณสินค้าคงคลังเกินความจำเป็น
  • ใช้ระบบ Just-In-Time (JIT) เพื่อลดต้นทุนในการเก็บรักษาสินค้า
4.การจัดการข้อมูลและระบบไอที

  • ปรับปรุงระบบการจัดการข้อมูลเพื่อให้มีการไหลของข้อมูลที่ดีขึ้น เช่น ระบบ ERP หรือ WMS
  • ลดการใช้กระดาษและปรับปรุงกระบวนการติดตามและควบคุมด้วยดิจิทัล
5.การพัฒนาพนักงาน

  • ฝึกอบรมให้พนักงานมีทักษะในการค้นหาปัญหาและเสนอแนวทางการปรับปรุง
  • เปิดโอกาสให้พนักงานเสนอไอเดียการปรับปรุงในทุกระดับ


ตัวอย่างการนำ Kaizen มาใช้ในกระบวนการทางโลจิสติกส์

1.การปรับปรุงกระบวนการขนส่งสินค้า

           บริษัท A มีปัญหาเรื่องการขนส่งที่ใช้เวลานานและค่าใช้จ่ายสูง พนักงานทุกระดับมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์เส้นทางการขนส่ง โดยใช้หลักการ Kaizen เพื่อหาเส้นทางที่ประหยัดน้ำมันและเวลามากที่สุด หลังจากการวิเคราะห์ พบว่าสามารถรวมเส้นทางการขนส่งบางส่วน และปรับการจัดเรียงสินค้าในรถให้เพิ่มความจุได้มากขึ้น ทำให้ลดรอบการขนส่งลงได้

ผลลัพธ์ : ลดต้นทุนค่าขนส่งลงได้ 10% และลดเวลาขนส่งลง 15%

2.การจัดการคลังสินค้า

         บริษัท B พบว่าการค้นหาสินค้าในคลังใช้เวลานานเกินไป พนักงานในคลังได้รับการสนับสนุนให้เสนอวิธีการปรับปรุงการจัดเรียงสินค้าใหม่ โดยแบ่งโซนจัดเก็บสินค้าตามความถี่ในการเบิกจ่ายสินค้า รวมถึงทำเครื่องหมายระบุตำแหน่งสินค้าที่ชัดเจน

ผลลัพธ์ : เวลาในการค้นหาสินค้าลดลงจาก 30 นาทีต่อครั้งเหลือเพียง 10 นาที

3.การลดปริมาณสินค้าคงคลัง

           บริษัท C ที่ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ใช้หลักการ Kaizen ร่วมกับระบบ Just-In-Time (JIT) เพื่อลดสินค้าคงคลังที่เก็บไว้มากเกินไป โดยเริ่มจากการสื่อสารกับซัพพลายเออร์ให้ส่งชิ้นส่วนในปริมาณที่พอดีกับความต้องการผลิตและเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ไม่จำเป็นต้องเก็บสินค้าคงคลังเป็นจำนวนมาก

ผลลัพธ์ : ลดสินค้าคงคลังลงได้ถึง 25% และลดต้นทุนในการเก็บรักษา

สิ่งสำคัญในการนำแนวคิดไคเซ็นไปใช้

การมีส่วนร่วมของพนักงานทุกคน : การให้พนักงานทุกระดับมีส่วนร่วมในการระบุปัญหาและหาแนวทางแก้ไข จะช่วยให้การปรับปรุงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลง: การส่งเสริมให้พนักงานกล้าคิดกล้าทำ และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

การวัดผลและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง : เพื่อให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการปรับปรุง และนำไปสู่การปรับปรุงในขั้นต่อไป

สรุป

          แนวคิดไคเซ็นเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงกระบวนการทางโลจิสติกส์ โดยการนำแนวคิดไคเซ็นไปใช้ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงคุณภาพของบริการได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขัน

 



BY : ICE
ที่มา : ChatGPT , Gemini


บทความที่เกี่ยวข้อง
เทคโนโลยีโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการและขนรถยนต์
บทความนี้ขอเเนะนำข้อดีของเทคโนโลยีโลจิสติกส์ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ทราบเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการลานจอดและการขนรถยนต์ให้ดีขึ้น
นักศึกษาฝึกงาน(คลัง)
15 ก.พ. 2025
5 เทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์สำหรับประเทศไทย
ในยุคที่โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การแข่งขันที่เข้มข้น และความต้องการสินค้าของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระบบโลจิสติกส์จึงเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นักศึกษาฝึกงาน(คลัง)
15 ก.พ. 2025
การลดอัตราความสิ้นเปลื้องในการขนส่ง
การลดอัตราความสิ้นเปลื้องในการขนส่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือบริษัทข้ามชาติ การลดต้นทุนในการขนส่งจะช่วยเพิ่มผลกำไรและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้มากขึ้น
ร่วมมือ.jpg เหมาคัน
15 ก.พ. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ