อัพเดทล่าสุด: 16 ก.ย. 2024
118 ผู้เข้าชม
ส่วนแบ่งการตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ในประเทศไทย ปี 2567
สถานการณ์ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ในปี 2567 นั้นค่อนข้างผันผวนและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงระบาดใหญ่ แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในตลาดนี้
สรุปภาพรวมส่วนแบ่งการตลาด
- การแข่งขันที่ดุเดือด: แพลตฟอร์มหลักๆ อย่าง Grab, LINE MAN, foodpanda และ Robinhood ต่างก็งัดกลยุทธ์ออกมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งในเรื่องของโปรโมชั่น ราคา และบริการเสริมต่างๆ
- LINE MAN ขึ้นแท่นผู้นำ: จากข้อมูลของ Redseer Strategy Consultants ระบุว่า LINE MAN Wongnai มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึง 44% แซงหน้า Grab ที่มีส่วนแบ่ง 40%
- Grab ยังคงแข็งแกร่ง: แม้จะถูกแซงหน้า แต่ Grab ก็ยังคงเป็นผู้เล่นรายสำคัญในตลาด โดยมีส่วนแบ่งตลาดที่สูงและฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง
- ผู้เล่นรายอื่นๆ: Shopee Food และ Robinhood มีส่วนแบ่งตลาดตามมา โดยมีส่วนแบ่งรวมกันประมาณ 16%
- มูลค่าตลาด: แม้ว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรง แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่ามูลค่าตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ในปี 2567 จะหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง
- พฤติกรรมผู้บริโภค: ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในเรื่องของราคา คุณภาพอาหาร และความสะดวกสบาย
- การแข่งขันด้านราคา: แพลตฟอร์มต่างๆ ต่างก็แข่งขันกันลดราคา เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ
- การพัฒนาบริการเสริม: การเพิ่มบริการเสริมต่างๆ เช่น การขายของชำ การจองร้านอาหาร หรือการให้บริการด้านการเงิน ทำให้เกิดความแตกต่างในการแข่งขัน
- เทคโนโลยี: การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เช่น AI และ Big Data ช่วยให้แพลตฟอร์มต่างๆ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
แนวโน้มในอนาคต
- การแข่งขันยังคงรุนแรง: การแข่งขันในตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่จะยังคงรุนแรงต่อไป โดยผู้เล่นรายใหญ่จะพยายามรักษาฐานลูกค้าของตนเอง ในขณะที่ผู้เล่นรายใหม่จะพยายามเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด
- ความสำคัญของการสร้างความแตกต่าง: การสร้างความแตกต่างในด้านผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ของลูกค้า จะเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขัน
- การขยายตัวไปยังตลาดใหม่: แพลตฟอร์มต่างๆ จะขยายตัวไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น ต่างจังหวัด หรือกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
- ความยั่งยืน: ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวให้สอดคล้อง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ของผู้บริโภค
1. ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์และบริการ
- ราคา: ราคาที่สมเหตุสมผลและโปรโมชั่นต่างๆ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจอย่างมาก
- เวลาในการจัดส่ง: ความรวดเร็วในการจัดส่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน
- บริการลูกค้า: การบริการลูกค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
2. ปัจจัยด้านราคาและโปรโมชั่น
- ค่าส่ง: ค่าส่งที่ไม่สูงเกินไปหรือมีโปรโมชั่นส่งฟรีจะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
- คูปองและส่วนลด: โปรโมชั่นต่างๆ เช่น คูปองส่วนลด หรือโปรแกรมสะสมแต้ม ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจสั่งอาหาร
3. ปัจจัยด้านความสะดวกสบาย
- การใช้งานแอปพลิเคชัน: แอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย มีอินเทอร์เฟซที่สวยงาม และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันจะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
- วิธีการชำระเงิน: การมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายและสะดวก เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน
- การติดตามสถานะการสั่งอาหาร: ระบบติดตามสถานะการสั่งอาหารที่แม่นยำ ช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ตลอดเวลา
หมายเหตุ: ข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลที่นำเสนอนี้เป็นเพียงภาพรวมในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
BY: MANthi
ที่มาของข้อมูล: Gemini