แชร์

E-Payment คืออะไร?

อัพเดทล่าสุด: 28 ส.ค. 2024
1016 ผู้เข้าชม

 E-Payment ที่อยู่ภายใต้การทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย

การทำระบบ e-Payment จะทำให้ธุรกรรมทางการเงินและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ดำเนินไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างความมั่นคงให้กับระบบบริหารจัดการการเงินการคลัง ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ 
 

1. ระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญ

BAHTNET
สำหรับ e-payment ประเภทแรกที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแลอยู่ก็คือ ระบบบาทเนต (Bank of Thailand Automated High-value Transfer Network: BAHTNET) ที่หมายถึง การทำรายการโอนเงินเพื่อลูกค้า ทั้งที่เป็นลูกค้าสถาบันและบุคคลใดก็ตามที่มีถิ่นฐานในประเทศและนอกประเทศ รวมถึงรายการโอนเงินระหว่างสถาบันที่ทำเพื่อลูกค้าที่มีถิ่นฐานในประเทศและนอกประเทศ

 

2. ระบบการชำระเงิน

Inter-institution Fund Transfer System (ระบบโอนเงินรายย่อยระหว่างผู้ใช้บริการของระบบ)
ระบบโอนเงินรายย่อยระหว่างผู้ใช้บริการของระบบ (IFTS) หมายถึงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ช่วยให้การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสถาบันการเงินหรือธนาคารต่างๆ ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการเคลื่อนย้ายเงินจากธนาคารหนึ่งไปยังอีกธนาคารหนึ่งแบบเรียลไทม์หรือมีความล่าช้าน้อยที่สุด เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตั้งแต่การโอนเงิน, ธุรกรรมทางธุรกิจ, การจ่ายบิล, และการชำระหนี้ระหว่างธนาคาร ฯลฯ เป็นต้น
 

3. Settlement System (ระบบการชำระดุล)

ระบบการชำระดุล เป็นกลไกหรือกระบวนการที่อำนวยความสะดวกในการโอนเงินหรือทรัพย์สินในขั้นสุดท้ายระหว่างฝ่ายต่างๆ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ช่วยให้มั่นใจถึงความสมบูรณ์และการชำระบัญชีของธุรกรรมทางการเงินต่างๆ เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์, การชำระเงิน, และธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยระบบการชำระดุลมีบทบาทสำคัญในการทำงานที่ราบรื่นและปลอดภัยของตลาดการเงินเป็นอย่างมาก
 

4. บริการการชำระเงิน

บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตร ATM
บริการบัตรเครดิต, บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็ม เป็นเครื่องมือทางการเงินหรือวิธีการชำระเงินที่ช่วยให้เราสามารถทำธุรกรรมทางการเงินประเภทต่างๆ ได้ เช่น ซื้อสินค้า, ถอนเงินสด และเข้าถึงเงินในบัญชีธนาคารของตนเอง 
 

5. บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์

Electronic money service หรือที่เรียกกันว่าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คือมูลค่าของเงินที่จัดเก็บไว้ในระบบดิจิทัลและสามารถใช้สำหรับธุรกรรมทางการเงินต่างๆ โดยบริการเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคดิจิทัล เพราะสามารถใช้ได้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่การซื้อสินค้าออนไลน์, การโอนเงิน, หรือแม้แต่การเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ ต่อไปนี้คือบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

 

6. กระเป๋าเงินดิจิทัล

โดยทั่วไปเงินอิเล็กทรอนิกส์จะถูกจัดเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปฯ มือถือ, เว็บไซต์, บัตรพลาสติก, หรือบัตรเสมือนจริง โดยกระเป๋าเงินเหล่านี้จะจัดเก็บเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้และสามารถเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต/เดบิต เพื่อการใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งโปรดักต์ในกลุ่มนี้ก็จะมี TrueMoney Wallet, เป๋าตัง, และ Rabbit Line Pay เป็นต้น

 

7. การชำระค่าสินค้าและบริการ

ผู้ใช้สามารถใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการทั้งทางออนไลน์และในร้านค้าจริง รวมถึงยังใช้สำหรับธุรกรรมการขายปลีก, การชำระบิล, และการช็อปปิ้งออนไลน์อีกด้วย
 

8.การโอนเงินแบบ Peer-to-Peer (P2P)

แอปฯ ธนาคาร รวมถึงแพลตฟอร์ม e-money จำนวนมากรองรับการโอนแบบ P2P ซึ่งในปี 2022 มีการใช้งานคิดเป็น 42% ของการทำธุรกรรมผ่าน e-commerce ทั้งหมดเลยทีเดียว ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งเงินให้เพื่อน, ครอบครัว, หรือคนรู้จักทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ รวมถึงการให้เงินค่าสิ่งของ, คืนเงินที่ยืมมา, หรือส่งเป็นของขวัญก็ได้อีกด้วย
 
 




 
BY: FAH
ที่มา: sevenpeakssoftware

บทความที่เกี่ยวข้อง
Hyper-Personalization: กลยุทธ์มัดใจลูกค้าในยุคที่ทุกคนต้องการเป็นคนพิเศษ
ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคถูกรายล้อมไปด้วยข้อมูลและตัวเลือกมากมาย การตลาดแบบหว่านแห (Mass Marketing) อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่สินค้าหรือบริการที่ดี แต่พวกเขามองหา "ประสบการณ์" ที่รู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจและใส่ใจพวกเขาอย่างแท้จริง นี่คือจุดที่ Hyper-Personalization เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะกลยุทธ์การตลาดแห่งอนาคตที่จะมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
ร่วมมือ.jpg Contact Center
15 ต.ค. 2025
เรื่องเห็นภาพก่อนเล่าเรื่อง: การใช้ Story Arc & Persona Canvas วางโครงเรื่อง
เคยไหมที่เริ่มต้นเขียนบทความ บล็อก หรือแม้แต่เนื้อหาสำหรับโซเชียลมีเดีย แต่พอเขียนไปได้สักพักก็เริ่ม "หลงทาง" หรือรู้สึกว่าเนื้อหาไม่น่าติดตามเท่าที่ควร? ปัญหาหลักของการเล่าเรื่องที่ไม่น่าสนใจ มักไม่ได้อยู่ที่ความสามารถในการเขียน แต่อยู่ที่การ "ขาดพิมพ์เขียว" หรือโครงสร้างที่ชัดเจนก่อนลงมือ การเห็นภาพรวมทั้งหมดก่อนการลงรายละเอียดจึงเป็นกุญแจสำคัญ
Gemini_Generated_Image_bjhh8wbjhh8wbjhh.png ใบบัว ( นักศึกษาฝึกงาน )
15 ต.ค. 2025
ปลดล็อก 'Insight' ลึกสุดใจของนักเดินทาง ด้วย 5 เทคนิคสัมภาษณ์ที่จะเปลี่ยนทุกเรื่องเล่าให้ทรงพลัง
การเดินทางไม่ใช่แค่การเช็คอินตามแลนด์มาร์ค แต่คือการสะสมเรื่องราวชีวิตที่ซ่อนอยู่หลังภาพถ่ายสวยงาม เราในฐานะนักเล่าเรื่อง นักเขียน หรือบล็อกเกอร์ท่องเที่ยว จึงมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าการบอกว่า "ไปไหนมา" แต่คือการ "ดึงความรู้สึกและเหตุผลที่แท้จริง" ออกมานำเสนอ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า "Insight ที่ซ่อนอยู่" การจะเข้าถึงขุมทรัพย์ทางอารมณ์และประสบการณ์เหล่านี้ได้นั้น จำเป็นต้องมี "เทคนิคการสัมภาษณ์" ที่คมคาย เพื่อเจาะลึกสิ่งที่ผู้คนอาจไม่เคยรู้ตัวว่าอยากจะบอก
Gemini_Generated_Image_bjhh8wbjhh8wbjhh.png ใบบัว ( นักศึกษาฝึกงาน )
14 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ