Website E-commerce คืออะไร?

E-commerce Website คืออะไร?

     E-commerce (electronic commerce) หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่า การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ พาณิชยกรรมออนไลน์ ก็คือการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์  โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเพื่อการซื้อขาย-แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่าง ๆ หรือการโอนเงิน ดังนั้น E-commerce Website ก็คือเว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการค้าอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้บริการการซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีจุดเด่นคือ เป็นช่องทางในการเลือกซื้อสินค้าและบริการที่สะดวกและรวดเร็วในโลกยุคดิจิทัล และเป็นหน้าร้านเสมือนจริงที่สามารถเปิดรับลูกค้าได้ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่มีวันหยุด

คุณสมบัติทั่วไปของ E-commerce Website

ถ้าพูดถึงคุณสมบัติทั่วไปของ E-commerce Website ที่ทำให้ตัว E-commerce Website เองประสบความสำเร็จได้และต่างจากเว็บไซต์ประเภทอื่น ๆ ก็มีอยู่หลายประการด้วยกัน ได้แก่

1. ใช้งานง่าย

     สำหรับผู้ที่เคยใช้งาน E-commerce Website มาก่อน จะเข้าใจดีว่านอกจากความสวยงามของเว็บไซต์แล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือการออกแบบให้เรียบง่าย มีความ User-friendly หรือง่ายต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเลือกซื้อสินค้าหรือค้นหาข้อมูลก็ต้องง่ายและสะดวกสะบาย จึงจะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับผู้ใช้ได้ ถ้าเว็บไซต์ของคุณซับซ้อนเกินไป ลูกค้าก็อาจเปลี่ยนใจออกจากเว็บไซต์ไปได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องวางโครงสร้างให้เป็นระเบียบ ง่ายต่อการจัดการ มีการจัดหมวดหมู่สินค้าอย่างชัดเจนและครอบคลุม นอกจากนี้ยังควรมีปุ่ม Call-to-Action ที่เด่นชัดสะดุดตา เพื่อให้ลูกค้าสามารถรู้ได้ทันทีว่าต้องทำอะไรต่อไปอีกด้วย

2. ให้ข้อมูลสินค้าได้ละเอียดชัดเจน

     E-commerce Website ต้องมีการออกแบบที่ให้ข้อมูลสินค้าหรือบริการที่ชัดเจน โดยเฉพาะในหน้ารายละเอียดสินค้า เมื่อผู้ใช้เกิดความสนใจสินค้าและคลิกเข้าไปดู ก็จะต้องมีรายละเอียดจำเพาะของสินค้าที่ชัดเจนและครบถ้วน รวมถึงภาพประกอบก็ต้องคมชัด มีภาพจากหลายมุมมอง มีการซูมให้เห็นรายละเอียด ภาพถ่ายหรือวิดีโอสาธิตการใช้งาน นอกจากนี้ภาพตัวสินค้าก็จะต้องโดดเด่น น่าสนใจอีกด้วย

3. มีระบบจัดการคำสั่งซื้อ

     ถือเป็นคุณลักษณะที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ E-commerce Website เพราะหัวใจหลักของการมี E-commerce Website ก็เพื่อการขายสินค้านั่นเอง ซึ่งระบบจัดการคำสั่งซื้อก็จะรวมถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ตะกร้าสินค้า การสรุปรายละเอียดคำสั่งซื้อ การคำนวณราคา รายละเอียดการจัดส่ง คูปอง/โค้ดส่วนลด ไปจนถึงระบบชำระเงินที่มีช่องทางการชำระที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือกได้ตามสะดวก ไม่ว่าจะเป็นบัตรเดบิต บัตรเครดิต QR Code สำหรับ Mobile Banking หรือบริการเก็บเงินปลายทาง เป็นต้น

4. มีระบบค้นหาและตัวกรอง

     เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่สำคัญมากสำหรับ E-commerce Website เนื่องจากบางธุรกิจอาจมีสินค้าหรือบริการที่หลากหลายเป็นพิเศษ การจะให้ลูกค้าเลื่อนดูสินค้าทีละรายการอาจน่าเบื่อและเป็นการเสียเวลาโดยใช่เหตุ จึงต้องมีระบบค้นหาให้ลุกค้าหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้การใช้ตัวกรอง ไม่ว่าจะเป็นประเภทสินค้า ราคา สี ขนาด ฯลฯ ก็จะช่วยให้ลูกค้ามองหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างเฉพาะเจาะจง

5. มีฟีเจอร์แนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้อง

     การแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงกับสินค้าที่ลูกค้ากำลังเลือกดูอยู่นั้น ถือเป็นอีกช่องทางในการเปิดโอกาสสร้างยอดขายได้ในกรณีที่สินค้าที่ลูกค้าต้องการหมดสต็อก

6. มีความปลอดภัยสูง

     E-commerce Website จำเป็นต้องมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการชำระเงิน หรือข้อมูลการใช้งาน เพื่อป้องกันการถูกแฮก หรือการขโมยไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งจะส่งผลเสียโดยตรงต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจคุณได้

7. ฟีเจอร์ประเมินสินค้า

     นับเป็นอีกคุณลักษณะที่สำคัญต่อ E-commerce Website อย่างมาก เพราะการแบ่งปันความคิดเห็น ประสบการณ์การใช้งาน และการประเมินคุณภาพจากผู้ใช้งานจริง จะช่วยให้ลูกค้าคนอื่น ๆ เลือกซื้อสินค้าได้อย่างมั่นใจว่าจะได้สินค้าที่ตรงกับความต้องการ ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้อย่างไม่ลังเล เพราะเชื่อว่าสินค้านั้น ๆ จะตอบโจทย์ความต้องการได้ นอกจากนี้ฟีเจอร์รีวิวสินค้ายังช่วยให้ E-commerce Website และตัวสินค้าของคุณมีความน่าเชื่อถืออีกด้วย

BY : NOON (CC)

ที่มาของข้อมูล : 1001click