4 เทคโนโลยีดิจิทัลที่จะมาช่วยยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์
เทคโนโลยีหลักทั้ง 4 ด้าน
1. อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง Internet of Things (IoT)
Internet of Things หรือ IoT คืออุปกรณ์และสิ่งของหลากหลายประเภทที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและส่งผ่านข้อมูลทางระบบไร้สายได้ ยกตัวอย่างในสายงานโลจิสติกส์ เช่น รถบรรทุก กล้องวงจรปิดในคลังสินค้า รวมถึงอุปกรณ์ติดตามขนาดจิ๋วที่เดินทางไปพร้อมกับกล่องขนส่งพัสดุจนถึงมือผู้รับ
2. ยานพาหนะไร้คนขับ (Driverless Vehicles)
นอกจากรถยนต์ไร้คนขับจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเดินทางคมนาคมของผู้คนในชีวิตประจำวันแล้ว ก็ยังส่งผลกระทบถึงอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งทั่วโลกต่างคิดค้นและพัฒนายานพาหนะสำหรับขนส่งสินค้าแบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะสำหรับการเดินทางระยะไกลที่คนขับรถต้องเหนื่อยเป็นพิเศษ
หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ รถขนส่งพัสดุไร้คนขับจาก Neolix บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศจีน ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไม่ปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศ อีกทั้งยังสามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุดมากถึง 500 กิโลกรัม ปัจจุบัน FedEx บริษัทโลจิสติกส์ระดับโลกได้จับมือกับ Neolix เพื่อร่วมกันพัฒนานวัตกรรมนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
3. บล็อกเชน (Blockchain)
เทคโนโลยีบล็อกเชน หรือ Distributed Ledger Technology (DLT) คือ ระบบเก็บและประมวลผลข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่ปราศจากคนกลาง แต่อาศัยการยืนยันจากผู้ใช้งานทุกคนในเครือข่ายเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและน่าเชื่อถือของข้อมูล จึงเป็นเรื่องยากที่จะมีใครสามารถแอบปลอมแปลงข้อมูลในระบบบล็อกเชนได้นั่นเอง
4. หุ่นยนต์ (Robotics)
เทคโนโลยีหลักประเภทสุดท้ายที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์แห่งโลกอนาคต คือ หุ่นยนต์ ที่จะเข้ามาช่วยทุ่นแรงและเพิ่มความปลอดภัยให้พนักงานในกระบวนการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ยกกล่องพัสดุขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก รวมถึงการจัดเรียงและบรรจุสินค้า เป็นต้น
ที่มา : 6partylogistics