ในยุคนี้ ไม่ว่าธุรกิจไหนก็เริ่มหันมาพัฒนาระบบคลังสินค้าของตัวเองให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการจัดเก็บ และตรวจสอบสินค้าก่อนส่งออก ทั้งแบบค้าขายปลีก และส่ง
สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งคำถามต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการภายในคลังสินค้า เพื่อให้ทราบว่าข้อมูล สิ่งที่คุณควรรู้ หรือ ขั้นตอนต่างๆ ในการบริหารคลังสินค้ามีอะไรบ้าง โดยคุณอาจจะเริ่มจากการลิสต์คำถาม เช่น วิธีการคัดแยกสินค้า, เวลาในการจัด, เวลาในการจัดเก็บ-ขนส่งสินค้า, วิธีการจัดเก็บสินค้า หรือรวมไปถึงการตั้งคำถามที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์ และสืบค้นข้อมูล เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดการสินค้า, ผลตอบแทนจากการจัดการคลังสินค้า ฯลฯ เราเชื่อว่าข้อมูลที่ได้จากการตั้งคำถามเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารคลังสินค้าอย่างมาก เพื่อให้คุณเองเกิดการพัฒนาและมองถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ว่าจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไรบ้าง
การสร้างมาตรฐานที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารงาน, การตรวจสอบคุณภาพ, การตรวจสอบความปลอดภัย หรือแม้กระทั่งการกำหนดเวลาในการบริหารจัดการคลังสินค้า ว่าควรใช้เกณฑ์ใดในการประเมินว่า การดำเนินงานภายในองค์กรที่คุณและพนักงานทำอยู่นั้น ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพหรือไม่
ถึงแม้องค์กรของคุณจะดำเนินการอย่างไร้ปัญหา และมีประสิทธิภาพมาอย่างยาวนาน แต่ปฏิเสธเลยไม่ได้ว่า การนำเทคโนโลยีเข้ามา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในองค์กรได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทคโนโลยีในการบันทึกข้อมูลสินค้าภายในคลัง หรือเครื่องช่วยยกหรือลำเลียงสินค้าต่างๆ ที่นอกจากจะช่วยทุ่นแรงพนักงานแล้ว ยังสามารถเพิ่มความสะดวก และความปลอดภัยแก่ทั้งตัวพนักงานและสินค้าอีกด้วย
การใช้ข้อมูลลูกค้ามาช่วยพัฒนาระบบการบริหารคลังสินค้า อาจทำให้องค์กรของคุณรู้จุดแข็ง และจุดด้อยของตนเอง เช่น ปัญหาด้านสินค้าไม่เพียงพอ หรือความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากกขึ้น จะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหา เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด
ทั้ง 4 เทคนิคนี้เป็นวิธีที่ทุกองค์กรที่มีคลังสินค้าควรนำไปใช้ เพราะเราเชื่อว่านอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับทุกคนในองค์แล้ว ยังช่วยคงคุณภาพของสินค้า, เพิ่มความปลอดภัยให้แก่พนักงานและสินค้า รวมทั้งเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อีกได้สวย
BY : NOON (CC)
ที่มาขของข้อมูล : bltbangkok.com