มิจฉาชีพ COD รูปแบบใหม่ 2025: พัสดุเก็บเงินปลายทางที่ "เราไม่ได้สั่ง" ส่งมาที่บ้านคนแก่ ต้องรับมือยังไง?
อัพเดทล่าสุด: 18 ธ.ค. 2025
9 ผู้เข้าชม

1. รู้ทันกลโกง: ทำไมต้องปี 2025? และทำไมต้องเป็นคนแก่?
มิจฉาชีพยุคนี้ทำงานเป็นขบวนการและใช้ Psychological Tech (จิตวิทยาคนโกง):
2. กฎหมายใหม่ช่วยได้! "มาตรการส่งดี (Dee-Delivery)"
ข่าวดีสำหรับผู้บริโภค! ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา สคบ. ได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเกราะป้องกันชั้นเยี่ยม:
3. Checklist: 3 ข้อที่ต้องสอน "พ่อแม่-ปู่ย่า" ที่อยู่บ้าน
เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ลูกหลานควรเตี๊ยมกับที่บ้านดังนี้:
บทสรุป: ความปลอดภัย เริ่มต้นที่การสื่อสาร
เทคโนโลยีขนส่งอาจจะก้าวไปไกลถึงขั้นใช้ AI หรือหุ่นยนต์ แต่ "ความปลอดภัย" ที่ดีที่สุด คือความใส่ใจในครอบครัวครับ หมั่นพูดคุยและอัปเดตข่าวสารให้ผู้สูงอายุที่บ้านทราบเสมอ
และที่สำคัญ การเลือกใช้บริการขนส่งที่มีมาตรฐาน ตรวจสอบตัวตนผู้ส่งได้จริง อย่าง BS Group ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยคัดกรองความปลอดภัย เพราะเรามีระบบยืนยันตัวตนผู้ส่งต้นทางที่ชัดเจน มั่นใจได้ว่าทุกกล่องที่ผ่านมือเรา คือความปรารถนาดี ไม่ใช่พัสดุผีแน่นอนครับ
มิจฉาชีพยุคนี้ทำงานเป็นขบวนการและใช้ Psychological Tech (จิตวิทยาคนโกง):
- ข้อมูลรั่วไหล: มิจฉาชีพซื้อรายชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทร มาจากตลาดมืด ทำให้เขารู้ชื่อจริง นามสกุลจริง ของคนในบ้านเป๊ะๆ สร้างความน่าเชื่อถือ
- ยอดเงินน้อยแต่เน้นปริมาณ: ยอดเรียกเก็บมักจะไม่สูงมาก (100 - 300 บาท) ซึ่งเป็นยอดที่คนแก่ยอมจ่ายได้ง่ายๆ โดยไม่คิดมาก และขี้เกียจไปแจ้งความเพราะไม่คุ้มค่ารถ
- เล่นกับความห่วงใย: ผู้สูงอายุมักกลัวว่า "ถ้าตีกลับ หลานจะโดนแบล็กลิสต์ไหม?" หรือ "เดี๋ยวหลานไม่มีของใช้" เลยยอมจ่ายไปก่อน
2. กฎหมายใหม่ช่วยได้! "มาตรการส่งดี (Dee-Delivery)"
ข่าวดีสำหรับผู้บริโภค! ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา สคบ. ได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อจัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นเกราะป้องกันชั้นเยี่ยม:
- เปิดก่อนจ่ายได้: กฎหมายระบุว่า ผู้รับสามารถ "ขอเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงิน" ได้แล้ว (จากเดิมที่ต้องจ่ายก่อนถึงแกะได้)
- Hold เงินไว้ 5 วัน: หากจ่ายเงินไปแล้ว แต่พบว่าของไม่ตรงปก หรือไม่ได้สั่ง บริษัทขนส่งจะต้อง "อายัดเงิน" ก้อนนั้นไว้ 5 วัน ก่อนโอนให้ผู้ส่ง เพื่อให้เรามีเวลาทำเรื่องขอเงินคืน นี่คือจุดตายของมิจฉาชีพ!
3. Checklist: 3 ข้อที่ต้องสอน "พ่อแม่-ปู่ย่า" ที่อยู่บ้าน
เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ลูกหลานควรเตี๊ยมกับที่บ้านดังนี้:
- "ถ้าไม่ได้บอกล่วงหน้า ห้ามรับเด็ดขาด": สร้างกฎเหล็กในบ้านว่า ถ้าลูกหลานจะสั่งของเก็บเงินปลายทาง จะโทรมาบอกก่อนทุกครั้ง ถ้าไม่มีใครโทรมาบอก = โจร
- "เช็กชื่อผู้ส่งก่อนเสมอ": มิจฉาชีพมักใช้ชื่อร้านแปลกๆ หรือไม่มีชื่อผู้ส่งที่ชัดเจน ให้สอนท่านว่าถ้าชื่อผู้ส่งดูไม่น่าไว้ใจ ให้ปฏิเสธการรับทันที
- "ถ่ายวิดีโอตอนรับ": หากไม่แน่ใจ ให้พนักงานขนส่งเป็นพยาน และถ่ายคลิปขณะเปิดกล่อง (ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายใหม่) ถ้าของข้างในไม่ใช่ ให้คืนของทันทีโดยไม่ต้องจ่ายเงิน
บทสรุป: ความปลอดภัย เริ่มต้นที่การสื่อสาร
เทคโนโลยีขนส่งอาจจะก้าวไปไกลถึงขั้นใช้ AI หรือหุ่นยนต์ แต่ "ความปลอดภัย" ที่ดีที่สุด คือความใส่ใจในครอบครัวครับ หมั่นพูดคุยและอัปเดตข่าวสารให้ผู้สูงอายุที่บ้านทราบเสมอ
และที่สำคัญ การเลือกใช้บริการขนส่งที่มีมาตรฐาน ตรวจสอบตัวตนผู้ส่งได้จริง อย่าง BS Group ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยคัดกรองความปลอดภัย เพราะเรามีระบบยืนยันตัวตนผู้ส่งต้นทางที่ชัดเจน มั่นใจได้ว่าทุกกล่องที่ผ่านมือเรา คือความปรารถนาดี ไม่ใช่พัสดุผีแน่นอนครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
เสียงโทรศัพท์จากพี่คนขับรถขนส่ง คือเสียงที่แม่ค้าออนไลน์ไม่อยากได้ยินที่สุด เพราะคำว่า "ปฏิเสธรับของ" ไม่ได้แปลว่าแค่ขายไม่ได้ แต่มันหมายถึงเรา "ขาดทุน" ทันที (ค่ากล่อง + ค่าแพ็ค + ค่าเสียโอกาส + ค่าส่งไปกลับ)
18 ธ.ค. 2025
Checklist สำหรับเจ้าของธุรกิจ ตรวจสอบความพร้อมก่อนขยายกิจการ ครอบคลุมระบบ คน เงิน และโลจิสติกส์ เพื่อลดความเสี่ยงในการเติบโต
18 ธ.ค. 2025
แนวทางอัปเกรดระบบโลจิสติกส์ภายในบริษัทแบบเป็นขั้นตอน ลดความเสี่ยง คุมงบ และเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่กระทบการทำงาน
18 ธ.ค. 2025
ลูกดิว เด็กฝึกงาน

Contact Center

BANKKUNG
