การคำนวณ Carbon Footprint ในซัพพลายเชนแบบเข้าใจง่าย

Carbon Footprint คืออะไร?
Carbon Footprint ในซัพพลายเชน หมายถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการผลิต การขนส่ง การจัดเก็บ และการจัดการสินค้าในระบบทั้งหมด ซึ่งนิยมวัดเป็นหน่วย COe (คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)
ยิ่งวัดได้ชัดเจนเท่าไหร่ ธุรกิจก็ยิ่งรู้ว่าควรลดตรงไหนเพื่อประหยัดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
3 ขั้นตอนการคำนวณ Carbon Footprint แบบง่ายที่สุด
1. เก็บข้อมูลกิจกรรม (Activity Data)
ตัวอย่างข้อมูลที่ต้องเก็บ ได้แก่
ปริมาณน้ำมันที่ใช้ในการขนส่ง
หน่วยไฟฟ้าที่ใช้ในคลังสินค้า
ระยะทางการขนส่ง
ปริมาณวัตถุดิบหรือสินค้า
2. ใช้ค่า Emission Factor (EF)
Emission Factor คือค่าเฉลี่ยการปล่อยคาร์บอนของกิจกรรมแต่ละประเภท เช่น
ดีเซล 1 ลิตร ปล่อยกี่กิโลกรัม CO
ไฟฟ้า 1 kWh ปล่อยกี่กิโลกรัม CO
หน่วยงานรัฐและสถาบันสากลมีค่า EF ให้ใช้อ้างอิง เช่น IPCC, TGO
3. คำนวณปริมาณคาร์บอน
สูตรง่ายที่สุดคือ:
Carbon Emission = Activity Data × Emission Factor
ตัวอย่าง:
หากใช้ดีเซล 500 ลิตร × EF 2.68 = 1,340 kg COe
รวมค่าของทุกกิจกรรม ก็จะได้ Carbon Footprint ทั้งระบบนั่นเอง
ส่วนของซัพพลายเชนที่มักปล่อยคาร์บอนสูง
การขนส่งทางถนน (Scope 1)
ไฟฟ้าในคลังสินค้าและโรงงาน (Scope 2)
วัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ (Scope 3)
การกำจัดบรรจุภัณฑ์หลังการใช้งาน
การรู้ว่า ปล่อยตรงไหนเยอะ คือจุดเริ่มต้นของการลดคาร์บอนอย่างยั่งยืน
ทำอย่างไรให้คาร์บอนฟุตพรินต์ลดลงจริง
เปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าหรือขนส่งทางราง
ใช้ LTL รวมรอบขนส่ง
ติดตั้งโซลาร์เซลล์
เปลี่ยนวัสดุแพ็กเกจจิ้งให้เบาลง
ใช้ระบบวางแผนเส้นทางอัตโนมัติ
ยิ่งวัดเร็ว ยิ่งลดเร็ว และยิ่งสร้างความได้เปรียบเชิงธุรกิจมากขึ้น
BANKKUNG


เหมาคัน
