เบื้องหลังโลจิสติกส์ของซูเปอร์มาร์เก็ต ทำไมผักผลไม้ถึงสดใหม่ทุกวัน
อัพเดทล่าสุด: 3 ต.ค. 2025
124 ผู้เข้าชม

เวลาที่เราเดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วเห็นผักเขียวสด ผลไม้สวย ๆ วางเรียงอยู่เต็มชั้น หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ความจริงแล้ว เบื้องหลังเต็มไปด้วยงานโลจิสติกส์ที่ซับซ้อนและแข่งกับเวลา
1. เก็บจากไร่ เข้าศูนย์กระจายสินค้า
ผักผลไม้ส่วนใหญ่ถูกเก็บตั้งแต่เช้ามืด เพื่อลดความร้อนและคงความสด หลังจากนั้นจะถูกลำเลียงอย่างรวดเร็วไปยัง ศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center) ที่มักตั้งอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่เพาะปลูก
️ ทุกนาทีคือ เวลาแห่งความสด
2. Cold Chain System: หัวใจของความสด
ผักและผลไม้ถูกเก็บใน ห้องเย็นควบคุมอุณหภูมิ และขนส่งด้วยรถห้องเย็น (Reefer Truck) เพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้นและการเน่าเสีย
ผักใบเขียว: เก็บไว้ที่ 05°C
ผลไม้เมืองร้อน: ต้องการอุณหภูมิสูงกว่าเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ช้ำ
3. การคัดแยกและบรรจุภัณฑ์
ไม่ใช่ผักผลไม้ทุกลูกจะถูกนำมาวางขาย ทุกชิ้นต้องผ่านการคัดเกรด ขนาด สี และความสวยงาม
ที่สวยสมบูรณ์ไปซูเปอร์
ที่มีตำหนิเล็กน้อยอาจถูกส่งต่อไปโรงงานแปรรูปหรือตลาดสด
บรรจุภัณฑ์ก็สำคัญ เช่น กล่องที่มีรูระบายอากาศ หรือถุงที่ช่วยชะลอการหายใจของผลไม้ (Modified Atmosphere Packaging)
4. Just in Time: ส่งทุกวันแบบไม่ให้เหลือค้าง
ซูเปอร์มาร์เก็ตใช้ระบบ Just in Time เพื่อให้ผักผลไม้ถึงชั้นวางทุกวัน แต่ไม่เกินความต้องการ เพราะ ค้างสต็อก = เสียหาย
ดังนั้นต้องมีการพยากรณ์ความต้องการรายวัน เช่น วันหยุดยาวขายดี วันฝนตกยอดตก
5. เทคโนโลยีช่วยเสริมความแม่นยำ
ซูเปอร์มาร์เก็ตสมัยใหม่ใช้ระบบ
RFID / Barcode เพื่อติดตามล็อตสินค้า
AI Demand Forecasting ทำนายปริมาณการสั่งซื้อ
IoT Sensors ตรวจจับอุณหภูมิและความชื้นในระหว่างขนส่ง
6. จากฟาร์ม มือคุณ
กว่าที่คุณจะหยิบผักบุ้งสวย ๆ หรือแอปเปิ้ลแดง ๆ ใส่ตะกร้าได้ ผักผลไม้เหล่านี้ผ่านกระบวนการ
เก็บตอนเช้า
ขนส่งไปศูนย์กระจาย
คัดแยก / แพ็ก / ส่งออก
ขึ้นชั้นวางในวันเดียวกัน
ทั้งหมดนี้คือการ แข่งกับเวลา ของโลจิสติกส์ ที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าของที่กิน สดใหม่ทุกวัน
1. เก็บจากไร่ เข้าศูนย์กระจายสินค้า
ผักผลไม้ส่วนใหญ่ถูกเก็บตั้งแต่เช้ามืด เพื่อลดความร้อนและคงความสด หลังจากนั้นจะถูกลำเลียงอย่างรวดเร็วไปยัง ศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center) ที่มักตั้งอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่เพาะปลูก
️ ทุกนาทีคือ เวลาแห่งความสด
2. Cold Chain System: หัวใจของความสด
ผักและผลไม้ถูกเก็บใน ห้องเย็นควบคุมอุณหภูมิ และขนส่งด้วยรถห้องเย็น (Reefer Truck) เพื่อป้องกันการสูญเสียความชื้นและการเน่าเสีย
ผักใบเขียว: เก็บไว้ที่ 05°C
ผลไม้เมืองร้อน: ต้องการอุณหภูมิสูงกว่าเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ช้ำ
3. การคัดแยกและบรรจุภัณฑ์
ไม่ใช่ผักผลไม้ทุกลูกจะถูกนำมาวางขาย ทุกชิ้นต้องผ่านการคัดเกรด ขนาด สี และความสวยงาม
ที่สวยสมบูรณ์ไปซูเปอร์
ที่มีตำหนิเล็กน้อยอาจถูกส่งต่อไปโรงงานแปรรูปหรือตลาดสด
บรรจุภัณฑ์ก็สำคัญ เช่น กล่องที่มีรูระบายอากาศ หรือถุงที่ช่วยชะลอการหายใจของผลไม้ (Modified Atmosphere Packaging)
4. Just in Time: ส่งทุกวันแบบไม่ให้เหลือค้าง
ซูเปอร์มาร์เก็ตใช้ระบบ Just in Time เพื่อให้ผักผลไม้ถึงชั้นวางทุกวัน แต่ไม่เกินความต้องการ เพราะ ค้างสต็อก = เสียหาย
ดังนั้นต้องมีการพยากรณ์ความต้องการรายวัน เช่น วันหยุดยาวขายดี วันฝนตกยอดตก
5. เทคโนโลยีช่วยเสริมความแม่นยำ
ซูเปอร์มาร์เก็ตสมัยใหม่ใช้ระบบ
RFID / Barcode เพื่อติดตามล็อตสินค้า
AI Demand Forecasting ทำนายปริมาณการสั่งซื้อ
IoT Sensors ตรวจจับอุณหภูมิและความชื้นในระหว่างขนส่ง
6. จากฟาร์ม มือคุณ
กว่าที่คุณจะหยิบผักบุ้งสวย ๆ หรือแอปเปิ้ลแดง ๆ ใส่ตะกร้าได้ ผักผลไม้เหล่านี้ผ่านกระบวนการ
เก็บตอนเช้า
ขนส่งไปศูนย์กระจาย
คัดแยก / แพ็ก / ส่งออก
ขึ้นชั้นวางในวันเดียวกัน
ทั้งหมดนี้คือการ แข่งกับเวลา ของโลจิสติกส์ ที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าของที่กิน สดใหม่ทุกวัน
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
Checklist สำหรับเจ้าของธุรกิจ ตรวจสอบความพร้อมก่อนขยายกิจการ ครอบคลุมระบบ คน เงิน และโลจิสติกส์ เพื่อลดความเสี่ยงในการเติบโต
18 ธ.ค. 2025
แนวทางอัปเกรดระบบโลจิสติกส์ภายในบริษัทแบบเป็นขั้นตอน ลดความเสี่ยง คุมงบ และเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่กระทบการทำงาน
18 ธ.ค. 2025
สรุปเทรนด์โลจิสติกส์ล่าสุดทั้งเดือน ครอบคลุมเทคโนโลยี ต้นทุน พฤติกรรมลูกค้า และความยั่งยืน เพื่อให้ธุรกิจปรับตัวได้ทันเวลา
18 ธ.ค. 2025
BANKKUNG


เหมาคัน
