จะทำเงินได้อย่างไร? 3 โมเดลธุรกิจที่เป็นไปได้สำหรับ 'Matching Platform'
อัพเดทล่าสุด: 22 ก.ย. 2025
339 ผู้เข้าชม

จะทำเงินได้อย่างไร? 3 โมเดลธุรกิจที่เป็นไปได้สำหรับ 'Matching Platform'
ไอเดียทางเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรับประกันความสำเร็จของธุรกิจได้ หากขาด "โมเดลธุรกิจ" (Business Model) ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน สำหรับ 'Matching Platform' ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางจับคู่ระหว่าง "ผู้ต้องการใช้บริการ" และ "ผู้ให้บริการ" การเลือกว่าจะ "ทำเงินอย่างไร" คือหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุด
บทความนี้จะพาไปสำรวจ 3 โมเดลธุรกิจที่เป็นไปได้สำหรับแพลตฟอร์มจับคู่ในธุรกิจโลจิสติกส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจ สมัครตัวแทนขนส่ง / แฟรนไชส์พัสดุ ได้เข้าใจกลไกการสร้างรายได้และคุณค่าของแพลตฟอร์มประเภทนี้
1. โมเดล 'ค่าคอมมิชชั่น' จากทุกธุรกรรม (Per-Transaction Commission Model)
นี่คือโมเดลที่ตรงไปตรงมาและได้รับความนิยมมากที่สุด แพลตฟอร์มจะได้รับรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์เล็กน้อยจากมูลค่าของทุกๆ งานที่สำเร็จผ่านระบบ
- ทำงานอย่างไร: เมื่อร้านค้าออนไลน์ประกาศหารถ ขนส่งสินค้า ในราคา 1,000 บาท และเกิดการจับคู่กับรถขนส่งได้สำเร็จ แพลตฟอร์มอาจจะหักค่าคอมมิชชั่น 5-10% (50-100 บาท) จากผู้ให้บริการขนส่ง
- ข้อดี: เป็นโมเดลที่ยุติธรรม (Win-Win) เพราะแพลตฟอร์มจะสร้างรายได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้สร้างรายได้เช่นกัน ทำให้มีแรงจูงใจร่วมกันในการทำให้เกิดธุรกรรมให้มากที่สุด
- เหมาะกับบริการ: บริการที่มีธุรกรรมเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เช่น ส่งพัสดุ COD หรือ ส่งของไปต่างประเทศ
โมเดลนี้จะเก็บค่าบริการแบบรายเดือนหรือรายปีจากผู้ใช้งาน (โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นฝั่งผู้ให้บริการ) เพื่อแลกกับการเข้าถึงแพลตฟอร์มและโอกาสทางธุรกิจในนั้น
- ทำงานอย่างไร: ผู้ให้บริการขนส่งหรือ ตัวแทนขนส่ง / แฟรนไชส์พัสดุ จ่ายค่าสมาชิกรายเดือน 500 บาท เพื่อสิทธิ์ในการมองเห็นและรับงานทั้งหมดที่ประกาศในพื้นที่ของตน
- ข้อดี: สร้างกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้และสม่ำเสมอให้กับเจ้าของแพลตฟอร์ม
- ข้อควรระวัง: ต้องแน่ใจว่าแพลตฟอร์มมี "คุณค่า" ที่ดีพอ (เช่น มีปริมาณงานเยอะจริง) ที่จะทำให้ผู้ใช้ยอมจ่ายค่าบริการแบบต่อเนื่อง
โมเดลนี้จะเปิดให้ใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานได้ฟรี เพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้เข้ามาในระบบให้ได้มากที่สุด แล้วจึงสร้างรายได้จากการขายฟีเจอร์เสริมหรือบริการพรีเมียม
- ทำงานอย่างไร: ทุกคนสามารถประกาศหารถหรือรับงานพื้นฐานได้ฟรี แต่...
ฝั่งผู้ส่ง: หากต้องการบริการเสริมพิเศษ เช่น การรับประกันสินค้าที่สูงขึ้น หรือการเข้าถึงผู้ให้บริการขนส่งระดับพรีเมียม อาจต้องจ่ายเพิ่ม
- ข้อดี: เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างฐานผู้ใช้ (User Base) ให้เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงเริ่มต้น
- ตัวอย่างบริการเสริม: การเข้าถึงบริการ Fulfillment ราคาถูก หรือ บริหารคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง อาจเป็นฟีเจอร์สำหรับสมาชิกระดับพรีเมียม
การเลือกโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และกลุ่มเป้าหมายของแพลตฟอร์ม ซึ่งบ่อยครั้งแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จมักจะใช้โมเดลแบบผสมผสาน (Hybrid Model) เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-3039620
อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com
ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครฐม 73210
คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย! https://www.bsgroupth.com/e-fulfillment-stock-pack-ship
บทความที่เกี่ยวข้อง
กล่องเท่ากัน แต่ทำไมราคาต่างกันฟ้ากับเหว?
เคยไหมครับ? ถือกล่องพัสดุใบเดิม ไปส่งที่ขนส่งเจ้าสีแดง ราคา 50 บาท พอไปอีกเจ้าสีส้ม ราคา 80 บาท แต่พอไปส่งขนส่งรถสิบล้อ ราคาเหลือแค่ 40 บาท!
หลายคนคิดว่าการตั้งราคาค่าส่งเป็นเรื่องของการตลาด (ใครจัดโปรฯ ถูกกว่าก็ชนะ) แต่ความจริงแล้ว เบื้องหลังตัวเลขเหล่านั้นมี "สมการคณิตศาสตร์" ซ่อนอยู่ครับ
วันนี้ BS Express จะมา "แบไต๋" โครงสร้างราคาขนส่งแบบหมดเปลือก เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเงินที่คุณจ่ายไป ถูกนำไปคำนวณจากอะไรบ้าง และจะเลือกขนส่งแบบไหนให้ประหยัดเงินในกระเป๋าที่สุด!
27 ธ.ค. 2025
Marketing 2026: เมื่อ AI บุก! จะถูก "แย่งงาน" หรือได้ "ผู้ช่วย" สร้างยอดขาย? เผยวิธีปรับตัวให้รอด
25 ธ.ค. 2025
ความสะอาดคือชีวิต! เจาะลึกมาตรฐานสุขอนามัยในการขนส่งอาหารและยา (Food & Pharma Logistics)
25 ธ.ค. 2025
ฟ่าง (นักศึกษาฝึกงาน)


Contact Center
