เปิดร้านคนเดียว vs มีหุ้นส่วน : ข้อดีข้อเสียที่ต้องชั่งใจก่อนเริ่มธุรกิจแฟรนไชส์
เปิดร้านคนเดียว vs มีหุ้นส่วน: ข้อดีข้อเสียที่ต้องชั่งใจก่อนเริ่มธุรกิจแฟรนไชส์
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะก้าวสู่เส้นทางการเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ หนึ่งในคำถามแรกๆ และสำคัญที่สุดที่คุณต้องตอบให้ได้ก็คือ "เราจะเดินทางสายนี้คนเดียว หรือจะหาเพื่อนร่วมทางไปด้วยกัน?"
การตัดสินใจระหว่างการ "ลุยเดี่ยว" ที่เต็มไปด้วยอิสระและความคล่องตัว กับการ "มีหุ้นส่วน" ที่มีคนร่วมคิดร่วมสู้ ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดตายตัว แต่มีเพียงคำตอบที่ "เหมาะสมที่สุด" กับสไตล์, สถานการณ์, และเป้าหมายของคุณ
บทความนี้จะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดๆ ทั้งสองเส้นทาง เพื่อช่วยให้คุณชั่งใจและเลือกเดินในทางที่ใช่สำหรับคุณ
ทางเลือกที่ 1 : ลุยเดี่ยว... เปิดร้านคนเดียว (Solo)
ข้อดี (Pros) :
-
ตัดสินใจได้ 100% เต็ม: คุณคือผู้กุมบังเหียนแต่เพียงผู้เดียว ทุกการตัดสินใจเกิดขึ้นและจบที่คุณ ไม่ต้องรอความเห็นจากใคร ทำให้ธุรกิจมีความคล่องตัวและปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว
-
กำไรทั้งหมดเป็นของคุณ: ผลกำไรทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้จากหยาดเหงื่อแรงกายของคุณ ไม่ต้องแบ่งให้ใคร เป็นรางวัลที่หอมหวานสำหรับความทุ่มเท
-
ความขัดแย้งน้อยกว่า: ลดปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างหุ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน, เรื่องวิธีการทำงาน, หรือเรื่องวิสัยทัศน์
-
พิสูจน์ตัวเอง: ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากความสามารถของคุณล้วนๆ สร้างความภาคภูมิใจได้อย่างเต็มเปี่ยม
ข้อเสีย (Cons) :
-
แบกรับความเสี่ยงทั้งหมด: ในทางกลับกัน หากธุรกิจเกิดปัญหา หนี้สินและความรับผิดชอบทั้งหมดก็อยู่ที่คุณคนเดียวเช่นกัน
-
เงินทุนจำกัดกว่า: แหล่งเงินทุนจะมาจากเงินเก็บหรือความสามารถในการกู้ยืมของคุณเพียงคนเดียว ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดในการเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจ
-
เหนื่อยและโดดเดี่ยว: คุณต้องสวมหมวกทุกใบ ตั้งแต่ผู้จัดการ, พนักงานขาย, นักการตลาด, ไปจนถึงภารโรง ความเครียดและแรงกดดันทั้งหมดจะอยู่ที่คุณคนเดียว ไม่มีใครให้ปรึกษาหรือแบ่งเบา
-
ขาดมุมมองที่สอง: การตัดสินใจคนเดียวอาจทำให้เกิดจุดบอดทางความคิดหรือมองไม่เห็นปัญหาในมุมที่ต่างออกไป
ทางเลือกที่ 2: มีเพื่อนร่วมทาง... เปิดร้านกับหุ้นส่วน (Partnership)
ข้อดี (Pros) :
- ระดมทุนได้ง่ายขึ้น: การรวมเงินทุนจากสองคนขึ้นไป ทำให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายขึ้น หรืออาจจะสามารถเลือกลงทุนในแฟรนไชส์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้
- แบ่งเบาภาระและความรับผิดชอบ: สามารถแบ่งงานกันทำตามความถนัด เช่น คนหนึ่งดูแลหน้าร้านและการบริการ อีกคนดูแลเรื่องการตลาดและบัญชี ช่วยลดภาระงานและความเครียด
- มีคนช่วยคิดและตัดสินใจ: สองหัวดีกว่าหัวเดียว การมีคนช่วยมองต่างมุม, ระดมสมอง, และช่วยกันแก้ปัญหา จะนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีกว่า
- มีกำลังใจสนับสนุนกัน: การมีเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขในวันที่ท้อแท้ คือหนึ่งในข้อดีทางใจที่ประเมินค่าไม่ได้
ข้อเสีย (Cons) :
- ต้องแบ่งผลกำไร: แน่นอนว่าเมื่อมีคนร่วมลงทุน กำไรที่ได้ก็ต้องถูกแบ่งตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้
- ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น: นี่คือความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดของารมีหุ้นส่วน ความไม่ลงรอยกันเรื่องเงิน, ความทุ่มเทที่ไม่เท่ากัน, หรือเป้าหมายที่ไม่ตรงกัน สามารถทำลายได้ทั้งธุรกิจและมิตรภาพ
- การตัดสินใจช้าลง: ทุกการตัดสินใจที่สำคัญต้องผ่านการพูดคุยและเห็นชอบร่วมกัน ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจขาดความคล่องตัว
- ความรับผิดชอบร่วม: คุณต้องร่วมรับผิดชอบในการกระทำและหนี้สินที่เกิดจากหุ้นส่วนของคุณด้วย
บทสรุป : แล้วจะเลือกทางไหนดี?
ลองถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้
- สถานะทางการเงิน: คุณมีเงินทุนเพียงพอที่จะเริ่มต้นและหมุนเวียนคนเดียวได้หรือไม่?
- ความสามารถในการรับความเสี่ยง: คุณพร้อมที่จะแบกรับความเสี่ยงทั้งหมดไว้คนเดียวไหวไหม?
- สไตล์การทำงาน: คุณเป็นคนที่ชอบตัดสินใจด้วยตัวเอง หรือชอบทำงานเป็นทีม?
- ตัวเลือกหุ้นส่วน: คุณมีคนที่ "ใช่" จริงๆ หรือไม่? คนที่คุณไว้ใจได้ 100%, มีทักษะที่ส่งเสริมกัน, และมีเป้าหมายเดียวกัน
ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดหากคุณตัดสินใจมีหุ้นส่วนคือ "การทำสัญญาหุ้นส่วน" ที่ระบุรายละเอียดหน้าที่, ความรับผิดชอบ, และการแบ่งผลประโยชน์อย่างชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาในอนาคต
ไม่ว่าจะลุยเดี่ยวหรือมีหุ้นส่วน เราพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้คุณ
การตัดสินใจเลือกโครงสร้างธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ BS Express พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกเส้นทาง
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
- โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-303-9620
- อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com
- ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210
คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!