ส่งอาหารแห้งไปต่างประเทศ: ต้องทำอย่างไร? รวมทุกข้อควรรู้และเอกสารที่จำเป็น
ส่งอาหารแห้งไปต่างประเทศ: ต้องทำอย่างไร? รวมทุกข้อควรรู้และเอกสารที่จำเป็น
ความคิดถึงที่มาพร้อมกับรสชาติอาหารคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกสูตรเด็ดของคุณแม่, ทุเรียนทอดกรอบๆ, หรือขนมไทยที่หาทานไม่ได้ในต่างแดน คือของขวัญล้ำค่าที่หลายคนอยากส่งไปให้คนที่รักซึ่งอยู่ห่างไกล แต่การส่ง "ของกิน" ข้ามประเทศนั้นมีรายละเอียดและกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อนกว่าการส่งของทั่วไป และบ่อยครั้งที่ความตั้งใจดีอาจจบลงด้วยการที่พัสดุถูกตีกลับหรือถูกทำลายที่ด่านศุลกากร
แล้วเราจะส่งอาหารแห้งไปต่างประเทศได้อย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัย? ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง? และมีข้อควรระวังอะไรเป็นพิเศษ? บทความนี้ได้รวบรวมทุกคำตอบมาให้คุณแล้ว เปรียบเสมือนคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่จะช่วยให้พัสดุของคุณผ่านฉลุยทุกด่าน!
ขั้นตอนที่ 1: กฎเหล็กข้อแรก "เช็คกฎของประเทศปลายทาง"
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและต้องทำก่อนสิ่งอื่นใด เพราะแต่ละประเทศมีกฎระเบียบการนำเข้าอาหารที่เข้มงวดไม่เท่ากัน สิ่งที่ส่งไปประเทศหนึ่งได้ อาจเป็นของต้องห้ามเด็ดขาดในอีกประเทศหนึ่ง
- สิ่งที่ต้องรู้: ทุกประเทศมีหน่วยงานควบคุมอาหารและยา (เช่น FDA ของสหรัฐอเมริกา) และหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) เพื่อป้องกันโรคระบาดและผลกระทบต่อระบบนิเวศ
- ตัวอย่างความเข้มงวด:
- ออสเตรเลีย / นิวซีแลนด์: เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพสูงมาก ห้ามนำเข้าอาหารทำเอง (Homemade) และสินค้าเกษตรแทบทุกชนิด
- สหรัฐอเมริกา (USA): มีกฎระเบียบ FDA ที่ชัดเจน การส่งเชิงพาณิชย์ต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้า (Prior Notice)
- สหภาพยุโรป (EU): มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์
- ออสเตรเลีย / นิวซีแลนด์: เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพสูงมาก ห้ามนำเข้าอาหารทำเอง (Homemade) และสินค้าเกษตรแทบทุกชนิด
ต้องทำอย่างไร?: ค้นหาใน Google ด้วยคำว่า "[ชื่อประเทศปลายทาง] customs food import restrictions" หรือตรวจสอบโดยตรงจากเว็บไซต์ของหน่วยงานศุลกากรของประเทศนั้นๆ
ขั้นตอนที่ 2: อะไรส่งได้? อะไรเสี่ยง?
โดยทั่วไปแล้ว อาหารแห้งที่จะส่งไปต่างประเทศควรมีลักษณะดังนี้:
กลุ่มที่ส่งได้ (โอกาสผ่านสูง):
- สินค้าที่ผลิตเชิงพาณิชย์: ต้องเป็นสินค้าจากโรงงาน มีบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิท (ซีล) จากผู้ผลิต
- มีฉลากชัดเจน: ควรมีฉลากเป็นภาษาอังกฤษ ระบุชื่อสินค้า, ส่วนผสม, และข้อมูลผู้ผลิต
- มีวันหมดอายุ: สินค้าต้องมีอายุการเก็บรักษา (Shelf life) เหลือเพียงพอ
- ตัวอย่าง: บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, เครื่องแกงสำเร็จรูปชนิดผงหรือเพสต์, ขนมขบเคี้ยวในซอง, ทุเรียนทอด, มะม่วงอบแห้ง, กาแฟ/ชา
กลุ่มที่เสี่ยง (ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด หรือห้ามส่งเด็ดขาด):
- อาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์: นี่คือข้อห้ามสำคัญของหลายประเทศ เช่น หมูหยอง, กุนเชียง, ไส้กรอก, น้ำพริกที่มีส่วนผสมของกุ้งหรือเนื้อสัตว์
- ผลิตภัณฑ์จากนมหรือไข่: ขนมไทยบางชนิดที่มีไข่เป็นส่วนประกอบหลักอาจไม่ได้รับอนุญาต
- อาหารทำเอง (Homemade): ห้ามเด็ดขาดในหลายประเทศ เพราะไม่สามารถตรวจสอบที่มาและสุขอนามัยได้
- เมล็ดพืชและผลไม้สด/แห้งบางชนิด: อาจถูกมองว่าเป็นพืชพันธุ์ที่นำไปเพาะปลูกได้ ซึ่งผิดกฎหมายความปลอดภัยทางชีวภาพ
ขั้นตอนที่ 3: แพ็คอย่างไรให้รอดตลอดการเดินทาง
การแพ็คที่ดีจะช่วยป้องกันความเสียหายและลดปัญหากลิ่นรบกวน
- ซีลให้สนิท: หากเป็นไปได้ ควรใช้เครื่องซีลสูญญากาศเพื่อป้องกันอากาศ, ความชื้น, และกลิ่น
- กันกระแทกอย่างดี: สำหรับขนมที่แตกหักง่าย ควรห่อด้วยบับเบิ้ลกันกระแทก
- ใส่ถุงซิปล็อกอีกชั้น: เพื่อป้องกันกลิ่นเล็ดลอดออกมา
ใช้กล่องที่แข็งแรง: เลือกใช้กล่องพัสดุใหม่ที่แข็งแรงทนทาน ไม่ใช้กล่องที่เคยใส่ผักผลไม้มาก่อน
ขั้นตอนที่ 4: เอกสารสำคัญ "ใบสำแดงศุลกากร"
นี่คือหัวใจของการส่งของไปต่างประเทศ การกรอกข้อมูลที่ถูกต้องและละเอียดจะช่วยให้พัสดุของคุณผ่านด่านได้เร็วขึ้น
- ระบุรายละเอียดให้ชัดเจนที่สุด: อย่าเขียนแค่ "Food" หรือ "Snacks" แต่ให้ระบุให้ชัดเจน เช่น
- "Dried Mango Slices (Factory Sealed)"
- "Instant Noodle Tom Yum Flavor (5 packs)"
- "Crispy Durian Chips"
- ระบุมูลค่าตามจริง: อย่าประเมินมูลค่าต่ำกว่าจริงเพื่อเลี่ยงภาษี เพราะหากถูกสุ่มตรวจจะเกิดปัญหาตามมา
- ระบุประเภทการส่ง: หากส่งให้เพื่อนหรือครอบครัว ให้ติ๊กว่าเป็น "Gift" (ของขวัญ)
สำหรับผู้ที่ส่งในเชิงพาณิชย์ อาจต้องเตรียม ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) เพิ่มเติมด้วย
Checklist สุดท้ายก่อนส่ง
- [ ] เช็คกฎของประเทศปลายทางแล้ว
- [ ] สินค้าผลิตจากโรงงาน มีซีลปิดสนิท
- [ ] สินค้ามีฉลากภาษาอังกฤษและวันหมดอายุ
- [ ] ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์, นม, หรือไข่ (ถ้าไม่แน่ใจ ให้ตัดออก)
- [ ] แพ็คในบรรจุภัณฑ์ที่แน่นหนา ป้องกันกลิ่นและกันกระแทก
- [ ] กรอกใบสำแดงศุลกากรอย่างละเอียดและเป็นภาษาอังกฤษ
- [ ] ปรึกษาเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการไปรษณีย์หรือบริษัทขนส่งหากไม่แน่ใจ
การเตรียมตัวที่ดีคือหลักประกันที่ดีที่สุดที่จะทำให้ "รสชาติแห่งความคิดถึง" ของคุณ ถูกส่งถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยและมีความสุขครับ!
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-3039620
อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com
ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210
คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!
https://www.bsgroupth.com/e-fulfillment-stock-pack-ship
#ส่งของไปต่างประเทศ #ส่งอาหารแห้ง #ของกิน #ศุลกากร #ข้อควรรู้ #ไปรษณีย์ #InternationalShipping #ThaiFood #ThaiSnacks #ส่งของให้แฟน #เคล็ดลับ #โลจิสติกส์