AI ช่วยบอกได้ไหมว่าควรส่งพัสดุแบบไหนให้คุ้มที่สุด?
ทำไมเรื่อง วิธีจัดส่ง ถึงสำคัญ?
สำหรับแม่ค้าออนไลน์หรือเจ้าของร้านเล็กๆ การเลือกวิธีส่งของแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องเล็ก
ส่งเร็วไป = แพงเกิน ลูกค้าไม่อยากจ่าย
ส่งช้าไป = ลูกค้าบ่น
ส่งแบบธรรมดา = ของเสียหาย
ส่งแบบพิเศษ = กำไรหด
และที่สำคัญ บางร้านไม่รู้เลยว่า พัสดุชิ้นไหนควรเลือกขนส่งแบบไหนถึงจะคุ้มที่สุด ทั้งที่คำตอบเหล่านี้ AI สามารถช่วยได้
แล้ว AI ช่วยอะไรได้บ้าง?
ระบบ AI ในการจัดส่งพัสดุยุคใหม่มีความสามารถหลายอย่างที่ SME สามารถใช้ได้ทันที เช่น:
วิเคราะห์พัสดุอัตโนมัติ
AI สามารถอ่านข้อมูลจากระบบออเดอร์ เช่น
ขนาดสินค้า
น้ำหนัก
ประเภทของสินค้า (เช่น ของแตกหักง่าย, ของสด, เครื่องแต่งกาย)
เพื่อคัดแยกว่าเหมาะกับบริการส่งประเภทใด
เปรียบเทียบต้นทุนและความเร็วแบบ Real-Time
เชื่อมต่อ API จากหลายผู้ให้บริการขนส่ง (เช่น Flash, Kerry, ไปรษณีย์, BS Express ฯลฯ) แล้วคำนวณให้เลยว่า
ถ้าส่งกล่องนี้แบบธรรมดาจะใช้กี่บาท?
ถ้าส่งด่วน จะคุ้มไหม?
ควรรวมกับรอบพรุ่งนี้หรือไม่?
แนะนำรูปแบบบรรจุภัณฑ์
AI ยังสามารถแจ้งว่า ควรใส่ซอง? กล่อง? หรือห่อบับเบิลแบบไหน? เพื่อลดต้นทุน + ลดของเสียหาย
ตัวอย่างการใช้งานจริง
ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ ส่งวันละ 30 กล่อง
หลังใช้ระบบ AI แนะนำบริการขนส่ง พบว่าสามารถลดค่าส่งเฉลี่ยได้ 35 บาท/กล่อง (ตกเดือนละพันกว่าบาท)
ร้านขายของเล่นเด็ก ใช้ AI วิเคราะห์ว่า ของชิ้นใหญ่แต่เบา
เลือกขนส่งที่คำนวณจากน้ำหนักแทนขนาด ลดต้นทุนได้เท่าตัว
แล้วแม่ค้าเจ้าของร้านเริ่มต้นได้ยังไง?
ใช้ระบบจัดการออเดอร์ (Order Management) ที่มี AI ในตัว
หรือเชื่อมระบบ API จากผู้ให้บริการขนส่งที่มีระบบแนะนำอัจฉริยะ
หรือเลือก Partner อย่างบริษัทขนส่งที่ให้บริการระบบ AI ช่วยวิเคราะห์ให้ เช่น BS Express, SCG Logistics เป็นต้น
สรุป
การเลือกบริการขนส่งให้เหมาะกับพัสดุแต่ละชิ้น อาจเป็นเรื่องเล็กที่ทำให้ ต้นทุนลดลง กำไรเพิ่มขึ้น และลูกค้าพอใจมากขึ้น
และวันนี้ AI ก็พร้อมช่วยทำสิ่งนี้ให้คุณโดยอัตโนมัติ