แชร์

อยากเปิดร้านรับส่งพัสดุ? สรุปขั้นตอนการสมัครตัวแทนและแฟรนไชส์ขนส่งเจ้าดัง

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 26 ก.ค. 2025
1535 ผู้เข้าชม

อยากเปิดร้านรับส่งพัสดุ? สรุปขั้นตอนการสมัครตัวแทนและแฟรนไชส์ขนส่งเจ้าดัง
 

ท่ามกลางยุคทองของ E-commerce ที่การซื้อขายออนไลน์เติบโตแบบก้าวกระโดด ธุรกิจที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่คอยหล่อเลี้ยงก็คือ "ธุรกิจขนส่งพัสดุ" และหนึ่งในโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจและเติบโตตามไปด้วยก็คือ "ร้านรับส่งพัสดุ" หรือจุดบริการดรอปออฟ (Drop-off) นั่นเอง

หากคุณคือคนหนึ่งที่มองเห็นโอกาสนี้และอยากกระโดดเข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร บทความนี้ได้สรุปภาพรวมและขั้นตอนการสมัครเป็นตัวแทนหรือแฟรนไชส์จากแบรนด์ขนส่งเจ้าดังมาให้แล้ว!

Disclaimer: ข้อมูลด้านการลงทุนและเงื่อนไขต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้ติดต่อสอบถามกับทางแบรนด์โดยตรงเพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันที่สุด (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2568)

Part 1: เช็คความพร้อม! สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ
 
ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการสมัคร มาสำรวจความพร้อมของตัวเองกันก่อน เพราะธุรกิจนี้ต้องใช้มากกว่าเงินทุน

1.รูปแบบธุรกิจ: ส่วนใหญ่จะมี 2 รูปแบบหลัก คือ

  • แฟรนไชส์เต็มรูปแบบ (Full Franchise): คุณจะได้สิทธิ์ใช้แบรนด์, การตกแต่งร้าน, ระบบ, และการสนับสนุนเต็มที่จากบริษัทแม่ แลกกับค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ที่สูงกว่า
  • จุดบริการ/ตัวแทน (Drop-off Point/Agent): เป็นรูปแบบที่ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า เหมาะสำหรับคนที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว (เช่น ร้านโชห่วย, ร้านถ่ายเอกสาร) และต้องการเพิ่มบริการรับส่งพัสดุเข้ามาเสริมรายได้

2.คุณสมบัติเบื้องต้นที่แบรนด์มองหา:

  • ทำเลที่ตั้ง (Location): ต้องเข้าถึงง่าย อยู่ในแหล่งชุมชน หมู่บ้าน หรือคอนโด มีที่จอดรถสะดวก และที่สำคัญคือต้องไม่ใกล้กับสาขาอื่นมากเกินไป
  • พื้นที่ร้าน (Space): มีพื้นที่เพียงพอสำหรับเคาน์เตอร์บริการและพื้นที่จัดเก็บพัสดุที่ปลอดภัย
  • เงินทุน (Investment): ต้องมีความพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าแฟรนไชส์, เงินมัดจำ/เงินค้ำประกัน, ค่าตกแต่งร้าน, และค่าอุปกรณ์ 
  • อุปกรณ์พื้นฐาน (Equipment): คอมพิวเตอร์, เครื่องปริ้นท์สติกเกอร์, เครื่องสแกนบาร์โค้ด, ตราชั่ง, และกล้องวงจรปิด (CCTV) 
  • ใจรักบริการ (Service Mind): เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของธุรกิจนี้ เพราะคุณต้องเจอลูกค้าหลากหลายรูปแบบ

Part 2: 6 ขั้นตอนหลักสู่การเป็นเจ้าของร้านพัสดุ
 
แม้แต่ละแบรนด์จะมีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วจะมีขั้นตอนหลักๆ ที่คล้ายกันดังนี้

1.ศึกษาข้อมูลและเลือกแบรนด์: เปรียบเทียบโมเดลธุรกิจ, ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น, ส่วนแบ่งรายได้, และการสนับสนุนจากแต่ละเจ้าที่คุณสนใจ
2.ลงทะเบียนแสดงความสนใจ: เข้าไปที่เว็บไซต์ของแบรนด์ขนส่งที่คุณเลือก และกรอกแบบฟอร์มสมัครแฟรนไชส์/ตัวแทนออนไลน์ พร้อมแนบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวคุณและทำเลที่ตั้ง
3.รอการติดต่อและประเมินทำเล: เจ้าหน้าที่จากแบรนด์จะติดต่อกลับเพื่อพูดคุยรายละเอียด และอาจมีการนัดหมายเพื่อสำรวจและประเมินศักยภาพของทำเลที่คุณเสนอ
4.ทำสัญญาและชำระค่าธรรมเนียม: เมื่อทำเลของคุณผ่านการอนุมัติ จะเข้าสู่ขั้นตอนการเซ็นสัญญาแฟรนไชส์ และชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามที่ตกลงกันไว้
5.เข้ารับการอบรม: คุณและพนักงานจะต้องเข้ารับการอบรมมาตรฐานการบริการ, วิธีการใช้ระบบ Point of Sale (POS), การแพ็กของ, และขั้นตอนการปฏิบัติงานทั้งหมด
6.เตรียมร้านและเปิดให้บริการ: ดำเนินการตกแต่งร้านตามแบบมาตรฐานของแบรนด์, ติดตั้งระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม และเตรียมเปิดร้านต้อนรับลูกค้าได้เลย!

Part 3: ส่องโมเดลแฟรนไชส์เจ้าดังในตลาด

  • Kerry Express Parcel Shop: แบรนด์แข็งแกร่ง ภาพลักษณ์พรีเมียม เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือสูง โมเดลแฟรนไชส์มีความเป็นระบบและมาตรฐานสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงและพร้อมลงทุนกับแบรนด์ชั้นนำ
     
  • Flash Home: แฟรนไชส์จาก Flash Express ที่เติบโตเร็วมาก มีภาพลักษณ์ทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวนำ และมีนโยบายที่เข้าถึงง่าย ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่
     
  • J&T Express (Partner/Franchise): ชูจุดเด่นที่แตกต่างด้วยการ เปิดให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด ซึ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าชั้นดี โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการส่งของทุกวัน
     
  • ไปรษณีย์ไทย (Post Office Agent): โมเดลตัวแทนจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในประเทศ จุดเด่นคือไม่ได้มีแค่บริการรับส่งพัสดุ แต่ยังสามารถให้บริการอื่นๆ ของไปรษณีย์ได้ด้วย เช่น การชำระบิล, บริการทางการเงิน เป็นการเพิ่มช่องทางรายได้ที่หลากหลาย

การเปิดร้านรับส่งพัสดุเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใส แต่ก็มีการแข่งขันสูงเช่นกัน ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่คุณเลือกเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับทำเล, การบริหารจัดการ, และที่สำคัญที่สุดคือ "คุณภาพการบริการ" ที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาใช้ซ้ำ

 

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่

โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-3039620

อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com

ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไมค่าส่งแต่ละเจ้าไม่เท่ากัน? : แบไต๋โครงสร้างราคาขนส่ง (น้ำหนัก vs ปริมาตร vs ระยะทาง)
กล่องเท่ากัน แต่ทำไมราคาต่างกันฟ้ากับเหว? เคยไหมครับ? ถือกล่องพัสดุใบเดิม ไปส่งที่ขนส่งเจ้าสีแดง ราคา 50 บาท พอไปอีกเจ้าสีส้ม ราคา 80 บาท แต่พอไปส่งขนส่งรถสิบล้อ ราคาเหลือแค่ 40 บาท! หลายคนคิดว่าการตั้งราคาค่าส่งเป็นเรื่องของการตลาด (ใครจัดโปรฯ ถูกกว่าก็ชนะ) แต่ความจริงแล้ว เบื้องหลังตัวเลขเหล่านั้นมี "สมการคณิตศาสตร์" ซ่อนอยู่ครับ วันนี้ BS Express จะมา "แบไต๋" โครงสร้างราคาขนส่งแบบหมดเปลือก เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเงินที่คุณจ่ายไป ถูกนำไปคำนวณจากอะไรบ้าง และจะเลือกขนส่งแบบไหนให้ประหยัดเงินในกระเป๋าที่สุด!
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
27 ธ.ค. 2025
จรรยาบรรณวิชาชีพขนส่ง: หัวใจของการบริการที่ยั่งยืน
จรรยาบรรณวิชาชีพขนส่ง: กุญแจสำคัญสู่ความเชื่อมั่นและการบริการที่ยั่งยืน
ไทก้า นักศึกษาฝึกงาน
27 ธ.ค. 2025
ป้ายห้ามโยน/ห้ามทับ (Fragile Label) แปะตรงไหนคนยกถึงจะเห็นชัดที่สุด?
แปะป้าย "ระวังแตก" แล้วทำไมของยังพัง? เผยเทคนิคการแปะสติ๊กเกอร์ Fragile / ห้ามโยน ที่ถูกต้อง แปะตรงไหนให้พนักงานขนส่งเห็นชัดที่สุด 360 องศา ลดโอกาสความเสียหายได้จริง
27 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ