แบรนด์สำคัญแค่ไหน และจะสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงได้อย่างไร?
แบรนด์สำคัญแค่ไหน และจะสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงได้อย่างไร?
แบรนด์ไม่ใช่แค่โลโก้ ไม่ใช่แค่ชื่อ และไม่ใช่แค่สโลแกน
แบรนด์คือ ความรู้สึก ที่ลูกค้ามีต่อคุณ
ในยุคที่ใครก็ขายของออนไลน์ได้ ใครก็เปิดร้านได้ ความแตกต่างระหว่าง "ขายได้ครั้งเดียว" กับ "ขายได้ตลอดไป" ไม่ได้อยู่ที่สินค้าเท่านั้น แต่อยู่ที่ แบรนด์ ด้วย
ในบทความนี้เราจะพาไปรู้ว่า
- แบรนด์คืออะไร?
- ทำไมถึงสำคัญ?
- และเราจะสร้างแบรนด์ที่คนจดจำและรักได้อย่างไร?
แบรนด์คืออะไร?
คำว่า "แบรนด์" (Brand) มาจากรากศัพท์ในภาษานอร์สโบราณว่า Brandr ที่แปลว่า การเผา (มาจากการเผาตราสัญลักษณ์บนสัตว์เลี้ยงเพื่อบอกเจ้าของ)
ในยุคนี้ แบรนด์ไม่ได้แค่ "บอกว่าเป็นของใคร" แต่เป็นสิ่งที่ สร้างภาพจำ สร้างอารมณ์ และสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างลูกค้ากับสินค้า
แบรนด์คือคำตอบของคำถามว่า
- คุณคือใครในสายตาลูกค้า?
- ทำไมเขาต้องเลือกคุณ?
- เขารู้สึกยังไงทุกครั้งที่เห็นหรือใช้สินค้าคุณ?
แบรนด์สำคัญแค่ไหน?
1. สร้างความแตกต่างในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง
ไม่ว่าคุณจะขายกาแฟ เสื้อผ้า หรือบริการขนส่ง ลูกค้ามีตัวเลือกมากมายสิ่งเดียวที่จะทำให้เขา เลือกคุณซ้ำ ๆ คือ "ความรู้สึก" ที่ดีและชัดเจนจากแบรนด์ของคุณ
2. เพิ่มมูลค่าให้สินค้า
แบรนด์ที่แข็งแรงสามารถตั้งราคาสูงกว่าแบรนด์ทั่วไป เพราะลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่ สินค้า แต่เขาซื้อ ความมั่นใจและประสบการณ์ ลองคิดถึง Starbucks, Apple, หรือ Nike ทั้งหมดนี้ขายสินค้าที่คู่แข่งก็มี แต่ราคากลับสูงกว่า เพราะ แบรนด์
3. ทำให้ลูกค้ากลับมา และบอกต่อ
คนที่รู้สึกดีต่อแบรนด์มักจะกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ เขาจะกลับมาซื้อซ้ำ และกลายเป็น "นักการตลาดฟรี" ที่ช่วยโปรโมตให้คุณแบบไม่ต้องจ้าง
จะสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงได้อย่างไร?
1. เริ่มจากการเข้าใจตัวเอง
ก่อนจะไปหาลูกค้า ต้องตอบให้ได้ก่อนว่า
- จุดเด่นของแบรนด์คุณคืออะไร?
- คุณขายอะไรจริง ๆ (มากกว่าแค่ สินค้า)?
- คุณอยากให้ลูกค้ารู้สึกอย่างไรเมื่อเจอแบรนด์ของคุณ?
ตัวอย่าง: ถ้าคุณขายเสื้อผ้ามือสอง คุณอาจไม่ได้แค่ขายเสื้อ แต่ขายความเท่แบบวินเทจในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้
2. เข้าใจกลุ่มเป้าหมายให้ลึก
- ลูกค้าคุณเป็นใคร? อายุเท่าไหร่? อาชีพอะไร? ไลฟ์สไตล์เป็นยังไง?
- เขามีปัญหาอะไร และคาดหวังอะไรจากคุณ?
ยิ่งคุณเข้าใจเขา ก็ยิ่งสร้างแบรนด์ที่ พูดภาษาเดียวกัน กับลูกค้าได้
3. สร้างอัตลักษณ์แบรนด์ (Brand Identity)
คือสิ่งที่ทำให้ลูกค้าจำคุณได้ ตั้งแต่เห็นแค่ครั้งแรก
- โลโก้
- สีประจำแบรนด์
- ฟอนต์ที่ใช้
- สโลแกน
- น้ำเสียงการสื่อสาร (เป็นกันเอง, จริงจัง, สนุกสนาน ฯลฯ)
ตัวอย่าง: แบรนด์ที่ขายให้วัยรุ่น อาจใช้สีสดใส ภาษาง่าย ๆ และมีมุกตลก ขณะที่แบรนด์สินค้าหรูจะใช้โทนสีเข้ม เรียบหรู และภาษาทางการ
4. เล่าเรื่อง (Brand Storytelling)
ผู้คนไม่ได้ซื้อสินค้าจากเหตุผลเสมอไป บางครั้งเขาซื้อเพราะ เรื่องราวที่เขาอิน
- แบรนด์คุณเกิดจากอะไร?
- คุณผ่านอะไรมาบ้าง?
- คุณเชื่อในอะไร?
เรื่องราวที่จริงใจและน่าจดจำจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ที่คนรัก
5. สร้างประสบการณ์ที่สม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะลูกค้าเจอคุณผ่านช่องทางไหนเว็บ, โซเชียล, ร้านค้า, หรือแชทควรสัมผัสได้ถึง ความเป็นแบรนด์เดียวกัน
- ถ้าแบรนด์คุณพูดจาแบบสนุก ๆ บน Facebook แต่แอดมินแชทกลับแข็งกระด้าง ลูกค้าจะสับสน
- ความสม่ำเสมอสร้าง ความเชื่อถือ
6. ใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีเป้าหมาย
อย่าโพสต์แค่เพื่อขายของ ให้แบรนด์คุณเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยให้ความรู้ แรงบันดาลใจ หรือความสนุก
- แชร์เคล็ดลับ
- รีวิวลูกค้า
- เบื้องหลังการผลิต
- ไลฟ์สดพูดคุย
7. ฟังเสียงลูกค้า และปรับตัว
แบรนด์ที่ดีไม่ใช่แบรนด์ที่ "ไม่เปลี่ยน" แต่คือแบรนด์ที่เปลี่ยน อย่างชาญฉลาด ตามคำแนะนำของลูกค้า เก็บ Feedback อย่างจริงจัง แล้วเอามาพัฒนาแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น
สรุป: แบรนด์ = ความรู้สึกที่ลูกค้ามีต่อคุณ
คนจะจำคุณไม่ใช่เพราะว่าคุณขายอะไร
แต่เพราะว่าคุณ เป็นใครในใจเขา
หากคุณเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ อย่ามองว่า แบรนด์ เป็นเรื่องของบริษัทใหญ่ ๆ เท่านั้น เพราะความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกค้าเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ แบบนี้แหละ