แชร์

รู้หรือไม่? รถบรรทุก มีถึง 9 ประเภท

noimageauthor นักศึกษาฝึกงาน(คลัง)
อัพเดทล่าสุด: 10 ม.ค. 2025
407 ผู้เข้าชม

รถกระบะบรรทุก
ซึ่งส่วนที่ใช้จะมีลักษณะเป็นกระบะ จะมีหลังคาหรือไม่มีก็ได้ หรือจะมีเครื่องทุ่นแรง ไว้เพื่อช่วยสำหรับยกสิ่งของได้ รวมถึงรถที่ใช้ในการบรรทุกไม่มีด้านข้างหรือด้านท้าย
ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 2 ( บ.2 , ท.2 ) สามารถขับรถบรรทุก สิบล้อ,หกล้อ,รถบัส,รถเมล์,รถตู้,รถยนต์

 

 
รถตู้บรรทุก
โดยรถที่ใช้ในการบรรทุกจะมีลักษณะเป็นตู้ทึบ และมีหลังคาและตัวถังที่บรรทุกระหว่างผู้โดยสารและผู้ขับเป็นตอนเดียว โดยจะมีประตูบานใหญ่ไว้สำหรับให้ผู้โดยสารขึ้นลง หรือจะเลือกเปิดท้ายก็ได้
ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 2 ( บ.2 , ท.2 ) สามารถขับรถบรรทุก สิบล้อ,หกล้อ,รถบัส,รถเมล์,รถตู้,รถยนต์

 

 
รถบรรทุกของเหลว
เป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกของเหลวตามความเหมาะสมและจะต้องเป็นประเภทที่มีความปลอดภัยสูง
 ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 4 ( บ.4 , ท.4 ) สามารถขับรถที่ใช้เพื่อการขนส่งวัตถุอันตราย

 

 
รถบรรทุกวัสดุอันตราย
เป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกเฉพาะเพื่อใช้ในการบรรทุกวัสดุอันตราย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สารเคมี วัตถุระเบิด วัสดุไวไฟ ซึ่งจะมีลักษณะเฉพาะและมีป้ายเตือนอย่างชัดเจน
 ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 4 สามารถขับรถที่ใช้เพื่อการขนส่งวัตถุอันตราย

 

 
รถบรรทุกเฉพาะกิจ
ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกที่มีลักษณะพิเศษ เพื่อใช้ในการเฉพาะ เช่น รถบรรทุกเครื่องดื่ม รถผสมซีเมนต์ รถขยะมูลฝอย รถราดยาง หรือรถเครื่องทุ่นแรงต่าง ๆ
 ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 4 ( บ.4 , ท.4 ) สามารถขับรถที่ใช้เพื่อการขนส่งวัตถุอันตราย

 

 
รถพ่วง
เป็นรถที่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง จึงต้องอาศัยรถอื่นลากจูงโดยจะมีโครงรถที่มีเพลาล้อที่สมบูรณ์ในตัวเอง
 ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 3 ( บ.3 , ท.3 ) สามารถขับรถสิบล้อพ่วง,รถหัวลาก

 

 
รถกึ่งพ่วง
เป็นรถที่ไม่มีแรงขับเคลื่อนในตัวเอง จึงต้องใช้หัวรถลาก โดยน้ำหนักของรถบางส่วนจะต้องเฉลี่ยลงบนเพลาล้อของคันลากจูง
 ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 3 ( บ.3 , ท.3 ) สามารถขับรถสิบล้อพ่วง,รถหัวลาก

 

 
รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาง
เป็นรถที่ไว้ใช้ในการขนสิ่งของที่ยาว โดยจะมีโครงโลหะที่สามารถปรับตัวได้ตามช่วงล้อลากจูง
 ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 3 ( บ.3 , ท.3 ) สามารถขับรถสิบล้อพ่วง,รถหัวลาก

 

 
รถลากจูง
เป็นรถที่เป็นลักษณะสำหรับใช้ลากรถพ่วง รถกึ่งพ่วง เพราะรถเหล่านั้นจะไม่สามารถที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองจึงต้องอาศัยรถประเภทนี้ในการลากจูง
 ใช้ใบขับขี่ชนิดที่ 2 ( บ.2 , ท.2 ) สามารถขับรถบรรทุก สิบล้อ,หกล้อ,รถบัส,รถเมล์,รถตู้,รถยนต์

 
สรุปได้ว่า
รถบรรทุก แบ่งได้ทั้งหมด 9 ประเภท ตามที่กฎหมายกำหนด โดยกรมขนส่งทางบกได้ให้คำนิยามโดยแยกตามลักษณะการใช้งานในการขนสิ่งของหรือสัตว์ ดังนี้ คือ รถกระบะบรรทุก, รถตู้บรรทุก, รถบรรทุกของเหลว, รถบรรทุกวัสดุอันตราย, รถบรรทุกเฉพาะกิจ, รถพ่วง, รถกึ่งพ่วง, รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาง, รถลากจูง เมื่อผู้ขับขี่ทราบถึงลักษณะการใช้งานของ รถบรรทุก แต่ละประเภทแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานให้มากที่สุด นอกจะช่วยให้การขนส่งประหยัดต้นทุนแล้ว ยังช่วยให้ขนส่งสินค้าและสัตว์ได้อย่างปลอดภัยอีกด้วยครับ 

BY : Tonkla

ที่มา : sowheel.asia


บทความที่เกี่ยวข้อง
เปิดลิสต์! เปรียบเทียบแอปฯ ขนส่ง เรียกเข้ารับพัสดุถึงบ้าน เจ้าไหนคุ้มสุด?
ในยุคที่ทุกวินาทีคือต้นทุน การต้องเสียเวลาไปกับการส่งของที่สาขากลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว บริการ "เรียกขนส่งเข้ารับพัสดุถึงบ้าน" ผ่านแอปพลิเคชันจึงกลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของทั้งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และคนทั่วไป แต่คำถามคือ...ท่ามกลางแอปฯ ขนส่งมากมายในตลาด เจ้าไหนล่ะที่คุ้มค่าที่สุด?
ร่วมมือ.jpg Contact Center
18 ก.ค. 2025
AI จัดการนัดหมายเวลารับพัสดุอัตโนมัติ ช่วยลดเวลารอของผู้รับและพนักงานส่ง
ในธุรกิจขนส่งยุคใหม่ ความสะดวกและความรวดเร็วของการจัดส่งพัสดุไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ที่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของสินค้า แต่ยังขึ้นกับเวลาที่เหมาะสมสำหรับผู้รับในการรับพัสดุด้วย ซึ่งหากเวลาจัดส่งไม่ตรงกับความสะดวกของผู้รับ
ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
18 ก.ค. 2025
AI ช่วยให้ผู้รับ เช็คสถานะพัสดุ แบบเรียลไทม์ ง่ายและแม่นยำกว่าเดิม
ในยุคที่ผู้บริโภคต้องการความรวดเร็วและความโปร่งใสในการขนส่ง พฤติกรรมของผู้รับพัสดุเปลี่ยนไปมาก การรู้ว่าสินค้าของตัวเองอยู่ตรงไหนและจะมาถึงเมื่อไหร่กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจใช้บริการขนส่ง
ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
18 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ