อุโมงค์ข้ามแอตแลนติก แนวคิดสุดล้ำ ย่นเวลาเชื่อมนิวยอร์ก-ลอนดอน
อุโมงค์ข้ามแอตแลนติก แนวคิดสุดล้ำ ย่นเวลาเชื่อมนิวยอร์ก-ลอนดอน
ลองจินตนาการถึงการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในเวลาเพียง 54 นาที แนวคิดนี้อาจฟังดูเหมือนหลุดมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ แต่วันนี้มันได้กลายเป็นข้อเสนอที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกวิศวกรรม
โครงการนี้เสนอการสร้าง อุโมงค์ใต้มหาสมุทรแอตแลนติก เชื่อมนิวยอร์กและลอนดอน ด้วยความยาวกว่า 3,400 ไมล์ และต้นทุนที่สูงถึง 19.8 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งหากสำเร็จจะเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางและโลจิสติกส์ระดับโลกไปตลอดกาล
ปัจจุบัน การเดินทางระหว่างนิวยอร์กและลอนดอนด้วยเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง แนวคิดใหม่นี้ลดเวลาเหลือไม่ถึงชั่วโมง โดยใช้เทคโนโลยี รถไฟสุญญากาศ (Vacuum Train) ซึ่งสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วกว่า 3,000 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือมากกว่าความเร็วเสียง 4 เท่า
อุโมงค์ยักษ์จะถูกสร้างอย่างไร ?
1.อุโมงค์ใต้ทะเล ซึ่งต้องการการขุดเจาะและสร้างโครงสร้างใต้มหาสมุทรที่มีความลึกมาก
2. อุโมงค์ลอยน้ำ ที่จะถูกแขวนด้วยสายเคเบิลและลอยอยู่เหนือน้ำ ลดความซับซ้อนของงานก่อสร้างใต้ทะเลลึก
สำหรับการเปรียบเทียบ ขนาดของโครงการนี้มหึมากว่าอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ (Channel Tunnel) ที่เชื่อมระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งยาวเพียง 23.5 ไมล์ และใช้เวลาก่อสร้างถึง 6 ปี
อุปสรรคใหญ่ ค่าใช้จ่ายมหาศาล แม้แนวคิดนี้จะน่าตื่นเต้น แต่ค่าใช้จ่ายในการสร้าง 19.8 ล้านล้านเหรียญ ทำให้เกิดคำถามถึงความคุ้มทุนและความเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐกิจ
ทำไมจึงเป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน?
- ระยะทางมหาศาล: มหาสมุทรแอตแลนติกมีความกว้างหลายพันกิโลเมตร การสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่มากขนาดนั้นต้องใช้เทคโนโลยีและทรัพยากรที่มหาศาล
- ความลึกของมหาสมุทร: ความลึกของมหาสมุทรแอตแลนติกแตกต่างกันไปในแต่ละจุด การขุดอุโมงค์ให้ลึกและยาวขนาดนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- แรงดันน้ำ: ความดันของน้ำทะเลที่ความลึกหลายพันเมตรนั้นมหาศาล การออกแบบและสร้างอุโมงค์ที่สามารถทนต่อแรงดันน้ำได้เป็นเรื่องท้าทายมาก
- ค่าใช้จ่ายมหาศาล: การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่นี้ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ซึ่งอาจไม่คุ้มค่ากับผลตอบแทน
- เทคโนโลยีปัจจุบัน: แม้ว่าเทคโนโลยีการขุดอุโมงค์จะพัฒนาไปมาก แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างอุโมงค์ใต้มหาสมุทรที่มีความยาวและความลึกขนาดนั้นได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน โครงการนี้ยังไม่มีรัฐบาลใดให้การสนับสนุน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในศตวรรษนี้ ความฝันที่จะเดินทางจากนิวยอร์กไปลอนดอนในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง อาจไม่ไกลเกินเอื้อม
ขอบคุณข้อมูล:https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1082704720320415&id=100057426910874&set=a.169927811598115