อัพเดทล่าสุด: 29 พ.ย. 2024
22 ผู้เข้าชม
Economies of Scope หรือ เศรษฐกิจขอบเขต เป็นแนวคิดที่ตรงข้ามกับ Economies of Scale (เศรษฐกิจขนาดใหญ่) แทนที่จะเน้นการผลิตสินค้าชนิดเดียวในปริมาณมาก Economies of Scope กลับเน้นการผลิตสินค้าหรือบริการที่แตกต่างกันหลายชนิด โดยที่ต้นทุนรวมในการผลิตจะต่ำกว่าการผลิตสินค้าแต่ละชนิดแยกกัน
เหตุผลที่ทำให้เกิด Economies of Scope
- การใช้ทรัพยากรร่วมกัน: ธุรกิจสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น โรงงาน เครื่องจักร หรือบุคลากรในการผลิตสินค้าหรือบริการที่แตกต่างกันได้ ทำให้ลดต้นทุนลงได้
- การแบ่งปันช่องทางการจัดจำหน่าย: ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกันสามารถใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายเดียวกันได้ ทำให้ลดต้นทุนการตลาดและการกระจายสินค้า
- การใช้แบรนด์เดียวกัน: การใช้แบรนด์เดียวกันในการขายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จะช่วยลดต้นทุนในการสร้างแบรนด์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
ตัวอย่าง Economies of Scope
- บริษัทอาหาร: บริษัทผลิตอาหารสามารถผลิตสินค้าหลากหลายชนิด เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม โดยใช้โรงงานเดียวกันและช่องทางการจัดจำหน่ายเดียวกัน
- บริษัทเทคโนโลยี: บริษัทเทคโนโลยีสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และบริการคลาวด์ โดยใช้ทีมวิศวกรและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ชุดเดียวกัน
- บริษัทสื่อ: บริษัทสื่อสามารถผลิตหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และรายการโทรทัศน์ โดยใช้ทีมบรรณาธิการและนักข่าวชุดเดียวกัน
ประโยชน์ของ Economies of Scope
- ลดต้นทุน: การใช้ทรัพยากรร่วมกันและการแบ่งปันช่องทางการจัดจำหน่ายช่วยลดต้นทุนโดยรวม
- เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์: ทำให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
- ลดความเสี่ยง: การมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาผลิตภัณฑ์เพียงชนิดเดียว
ข้อจำกัดของ Economies of Scope
- ความซับซ้อนในการบริหารจัดการ: การผลิตสินค้าหรือบริการที่หลากหลายต้องใช้การบริหารจัดการที่ซับซ้อนมากขึ้น
- ความขัดแย้งกันของผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจมีความขัดแย้งกันในการผลิตหรือการตลาด
- การสูญเสียความเชี่ยวชาญ: การผลิตสินค้าหลายชนิดอาจทำให้ธุรกิจขาดความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด
สรุป
Economies of Scope เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่สำคัญในการบริหารธุรกิจ การเข้าใจหลักการนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนกลยุทธ์ในการผลิตและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
BY: MANthi
ที่มา: Gemini