สรุปวิธีแบ่งลูกค้า 8 ประเภท ตามแนวคิด VALS
อัพเดทล่าสุด: 18 พ.ย. 2024
733 ผู้เข้าชม
VALS หรือ Values, Attitudes, and Lifestyles เป็นแนวคิดที่ใช้ในการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 8 ประเภทตามความเชื่อ ค่านิยม และไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างลึกซึ้ง และนำไปสู่การวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
8 ประเภทของลูกค้าตามแนวคิด VALS
1. Actualizers/Innovators:
- ผู้มีรายได้สูง มีความมั่นใจในตนเองสูง
- ชื่นชอบความหรูหรา สินค้าแบรนด์เนม และเทคโนโลยีใหม่ๆ
- มองหาประสบการณ์ใหม่ๆ และความท้าทาย
- ตัวอย่าง: ผู้บริหารระดับสูง, นักธุรกิจ
2. Experiencers:
- เน้นการใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน สนุกสนาน
- ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง การท่องเที่ยว และการสังสรรค์
- ชื่นชอบแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย
- ตัวอย่าง: นักศึกษามหาวิทยาลัย, คนทำงานรุ่นใหม่
3. Achievers:
- มุ่งมั่นในการทำงานและการประสบความสำเร็จ
- ให้ความสำคัญกับครอบครัวและสถานะทางสังคม
- ชื่นชอบสินค้าที่มีคุณภาพและแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก
- ตัวอย่าง: ผู้บริหารระดับกลาง, วิศวกร
4. Believers:
- ยึดมั่นในค่านิยมและประเพณี
- ชื่นชอบสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
- มองหาความมั่นคงและความปลอดภัย
- ตัวอย่าง: ผู้สูงอายุ, ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
5. Strivers:
- พยายามเลียนแบบไลฟ์สไตล์ของผู้ที่มีฐานะดีกว่า
- ชื่นชอบสินค้าที่มีแบรนด์และราคาที่จับต้องได้
- ให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของผู้อื่น
- ตัวอย่าง: คนทำงานระดับล่าง, วัยรุ่น
6. Makers:
- ชื่นชอบการทำงานด้วยมือและการสร้างสรรค์
- มองหาสินค้าที่แข็งแรง ทนทาน และใช้งานได้จริง
- ให้ความสำคัญกับความเป็นอิสระและการพึ่งพาตนเอง
- ตัวอย่าง: ช่างฝีมือ, เกษตรกร
7. Survivors:
- เน้นการประหยัดและการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
- มองหาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
- ให้ความสำคัญกับราคาและคุณภาพ
- ตัวอย่าง: ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย, ผู้ว่างงาน
8. Strugglers:
- มีรายได้น้อยและปัญหาทางเศรษฐกิจ
- มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน
- มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต
- ตัวอย่าง: ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนยากจน
ประโยชน์ของการแบ่งกลุ่มลูกค้าตามแนวคิด VALS
- เข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้ง: ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างชัดเจน
- วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างตรงจุด: ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการ และแคมเปญการตลาดที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณ: ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และใช้จ่ายงบประมาณไปกับกิจกรรมทางการตลาดที่ได้ผลลัพธ์สูงสุด
การนำแนวคิด VALS ไปใช้
การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามแนวคิด VALS สามารถนำไปใช้ในหลายด้าน เช่น- การพัฒนาผลิตภัณฑ์: พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการและความสนใจของลูกค้าแต่ละกลุ่ม
- การกำหนดราคา: กำหนดราคาที่เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้าแต่ละกลุ่ม
- การเลือกช่องทางการสื่อสาร: เลือกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าแต่ละกลุ่ม
- การสร้างแบรนด์: สร้างแบรนด์ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่ลูกค้าแต่ละกลุ่มต้องการ
ข้อควรระวัง
การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามแนวคิด VALS เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่สูตรสำเร็จในการทำการตลาด ธุรกิจควรนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของธุรกิจตนเอง
BY: MANthi
ที่มา: Gemini
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
เคยไหมครับที่ต้องปวดหัวกับปัญหาในคลังสินค้า? ไม่ว่าจะเป็นการหาของไม่เจอ, พนักงานหยิบสินค้าผิด, สต็อกไม่ตรง หรือความล่าช้าในการจัดส่ง ปัญหาเหล่านี้เปรียบเสมือนต้นทุนที่มองไม่เห็นซึ่งกัดกินกำไรของธุรกิจไปทีละน้อย แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถเปลี่ยนคลังสินค้าที่วุ่นวายให้กลายเป็นระบบที่ทำงานได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ?
คำตอบอยู่ในแนวคิดที่เรียกว่า "Visual Control" หรือ "การควบคุมด้วยการมองเห็น" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการคลังสินค้าและบริการ Fulfillment ยุคใหม่ วันนี้เราจะมาดูกันว่า Visual Control มีประโยชน์และช่วยยกระดับธุรกิจของคุณได้อย่างไร
21 ก.ค. 2025
ในคลังสินค้าที่เต็มไปด้วยสินค้ามากมาย เคยเจอปัญหาเหล่านี้ไหมครับ? "ของชิ้นนี้อยู่ไหนนะ?", "ทำไมพนักงานใช้เวลาหาของนานจัง?", "สต็อกสินค้าบางตัวนอนนิ่งอยู่ในคลังมาเป็นปี" ปัญหาเหล่านี้คือตัวบั่นทอนประสิทธิภาพและเพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น วันนี้เราจะมาแนะนำ "อาวุธลับ" ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังอย่าง ABC Analysis ที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างน่าทึ่ง
21 ก.ค. 2025
ในยุคที่ใครๆ ก็พูดถึง "Big Data" เจ้าของธุรกิจ SME โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในแวดวงโลจิสติกส์และแฟรนไชส์พัสดุ อาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวและซับซ้อน แต่ความจริงแล้ว "ขุมทรัพย์" ที่จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันนั้นอยู่ในมือของคุณแล้ว นั่นคือ "Small Data" หรือข้อมูลขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากทุกกิจกรรมของธุรกิจคุณในแต่ละวัน
21 ก.ค. 2025