แชร์

การรับมือกับความเสียหายระหว่างการขนส่งสินค้า

อัพเดทล่าสุด: 21 ก.ย. 2024
67 ผู้เข้าชม
การรับมือกับความเสียหายระหว่างการขนส่งสินค้า

  ในขณะที่ทุกธุรกิจโลจิสติกส์ ขนส่ง พยายามดูแลการขนส่งที่ดีใน การขนส่งสินค้า ทางไกล แต่บางอย่างอยู่เหนือการควบคุมของมนุษย์ และอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา นำสินค้าไปสู่ความเสียหาย อุปกรณ์ป้องกันความเสียหายระหว่างขนส่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เช่น สายรัด Composite Strap เพื่อยึดสินค้าให้มั่นคง และ แผ่น Slip sheet หรือแผ่นรองสินค้า เพื่อรองสินค้าแทนไม้พาเลท ประหยัดพื้นที่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บทความต่อไปนี้ คือ ประเภทของความเสียหายของสินค้าที่พบบ่อยที่สุด วิธีลดความเสี่ยง และสิ่งที่ควรทำหลังจากพบว่าสินค้าของคุณได้รับความเสียหาย

ประเภทของความเสียหายของสินค้า

ความเสียหายทางกายภาพ

  ความเสียหายทางกายภาพ คือ การจัดเก็บที่ไม่ดี การจัดเก็บที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม และไม่เพียงพอ (ไม่ใช้ สายรัด Composite Strap ที่มีมาตรฐาน แผ่น Slip sheet ) การกระจายน้ำหนักที่ไม่ถูกต้อง ภายในคอนเทนเนอร์ ซึ่งส่งผลให้สินค้าเกิดการตกหล่น การกลิ้ง การแตกหัก การกระแทกระหว่างการขนส่ง

ความเสียหายจากความเปียกชื้น

  ความเสียหายจากความเปียกชื้น คือ สินค้าที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น ความชื้น การควบแน่นระหว่าง การขนส่งสินค้า หรือน้ำทะเลที่ไหลเข้าสู่ภาชนะเนื่องอาจจากมีรูเล็ก ๆ อาจเกิดขึ้นได้เมื่อใช้ภาชนะที่ไม่เหมาะสมในการขนส่งผลิตภัณฑ์ที่มีความละเอียดอ่อน เช่น การใช้ภาชนะปกติแทนภาชนะที่มีการระบายอากาศ

ความเสียหายจากการปนเปื้อน

  ความเสียหายต่อสินค้าเมื่อมีการปนเปื้อน อาจเป็นสารพิษ หรือมลพิษ ทำให้สินค้าไม่สามารถใช้งานได้สำหรับการบริโภคของมนุษย์ หรือการใช้งานทางอุตสาหกรรมหรือการปฏิบัติงานอื่น ๆ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การทำความสะอาดที่ไม่เพียงพอหลังจากการขนส่งสินค้าครั้งก่อน การจัดเก็บที่ไม่เหมาะสมก่อนการขนส่ง หรือการสัมผัสกับสารปนเปื้อนโดยตรง เป็นต้น

ความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับตู้ทำความเย็น

  ความเสียหายประเภทนี้เกิดขึ้นได้ค่อนข้างบ่อย มักเกิดจากอุปกรณ์ทำความเย็นที่ไม่ได้มาตรฐาน การตั้งค่าอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม การหมุนเวียนของอากาศไม่ดี การจัดการที่ผิดพลาด ไฟฟ้าขัดข้อง การผุ การละลาย ทำให้สินค้าสุกมากเกินไป เกิดรอยฟกช้ำ การเน่าเสีย และผลิตภัณฑ์มีการเปลี่ยนสีระหว่างการขนส่ง

ความเสียหายจากสัตว์และแมลง

  ความเสียหายจากแมลงหรือสัตว์สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อมีหนูอยู่ในสินค้า ความเสียหายประเภทนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสินค้าเกษตรที่บรรทุกสินค้า นำไปสู่การปนเปื้อน ทำให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ไม่สามารถใช้งานได้ และอาจทำให้การขนส่งล่าช้าอีกด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบสินค้าเพื่อหาสาเหตุของความเสียหายนั่นเอง

มาตรการป้องกันความเสียหายของสินค้า

1.เลือกการขนส่งให้เหมาะกับประเภทสินค้า เช่น สินค้าที่มีน้ำหนักมากต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อบรรทุกของหนักโดยเฉพาะ

2.ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการใช้ Composite Strap หรือแผ่น Slip sheet และวัสดุกันกระแทกที่เหมาะสมภายในคอนเทนเนอร์เพื่อจำกัดขยับของสินค้า

3.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าไม่ได้บรรจุร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถเข้ากันได้ในการขนส่ง เช่น เสื้อผ้ากับสารเคมี เป็นต้น

4.เมื่อการขนส่งสินค้าเสี่ยงต่อการเกิดความเปียกชื้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกเส้นทางที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น สภาพภูมิอากาศที่มีความชื้นสูง อาจส่งผลกระทบต่อสินค้า และการควบแน่นอาจทำให้น้ำเสียหายได้ ก่อนจัดส่งตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาชนะปิดสนิท ใช้สารดูดความชื้น

5.สินค้าแช่แข็งควรคำนึงถึงการเคลื่อนตัวของของเหลวกลิ่นการเปลี่ยนสี และรสชาติ มีความจำเป็นต้องตรวจสอบความแม่นยำของอุณหภูมิในตู้ทำความเย็น

6.อัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับตำแหน่งและสภาพของสินค้าในระหว่างการขนส่ง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายใด

 

 

 

 

BY: NUN

ที่มา: Jmpthailand.com

บทความที่เกี่ยวข้อง
การใช้คลังสินค้าหุ่นยนต์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า
การใช้หุ่นยนต์ในคลังสินค้า (Warehouse Robotics) ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้าในหลายด้าน
11 ต.ค. 2024
Flexport แพลตฟอร์มด้านโลจิสติกส์อย่างไร
Flexport เป็นแพลตฟอร์มด้านโลจิสติกส์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการในการจัดการการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
11 ต.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ