โฆษณา คือ กิจกรรมทางการตลาดอย่างหนึ่งที่เน้นไปในด้านการสื่อสารเป็นหลัก เพื่อโปรโมตและบอกเล่ารายละเอียดของธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือแคมเปญต่าง ๆ ให้เป็นที่รู้จัก
โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยส่งเสริมการขายสินค้า และทำให้ปิดการขายได้ในที่สุด
เป็นยุคที่มนุษย์ยังไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า การบันทึก
ในสมัยนั้น องค์ความรู้ต่าง ๆ ที่มนุษย์สั่งสมมาจะสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านการบอกเล่าแบบปากต่อปาก ซึ่งก็รวมถึงการถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตัวเองอยากบอกต่อให้ผู้อื่นได้รับรู้ด้วย
เมื่อมนุษย์พัฒนาอารยธรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ การดำรงชีวิตของมนุษย์ก็เปลี่ยนไป จากการเก็บของป่า ล่าสัตว์ เพื่อประทังชีวิตไปวัน ๆ
ก็เปลี่ยนมาเป็นการทำเกษตรกรรม ทำปศุสัตว์ สร้างผลิตผลต่าง ๆ ขึ้นมาและเก็บไว้ในครอบครอง
แต่ก็ใช่ว่า ทุกคนจะสามารถสร้างผลผลิตได้เองทุกสิ่งทุกอย่าง ในปริมาณที่มากพอ จึงทำให้เกิด การค้าขายแลกเปลี่ยน
และ ตลาด ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการรวมตัวกัน ของผู้ที่ต้องการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าขึ้นมา
โดยตลาดในยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีลักษณะเป็นตลาดกลางแจ้ง พบในอาณาจักรบาบิโลเนีย อัสซีเรีย และฟินิเซีย ของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย
ซึ่งปัจจุบันอาณาจักรเหล่านี้อยู่แถบ ๆ ประเทศอิสราเอล กรีซ อียิปต์ และบนคาบสมุทรอาหรับ
โดยสมัยนั้น คนขายจะตะโกนป่าวประกาศว่าตัวเองขายสินค้าอะไร สินค้ามีความพิเศษอย่างไร ราคาเท่าไร
ซึ่งการกระทำนี้เอง คือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรียกว่า การโฆษณา
อย่างไรก็ตาม การโฆษณาด้วยการตะโกนป่าวประกาศ ก็มีข้อจำกัดในตัวของมันเอง
เพราะคนที่จะเห็นหรือได้ยิน ก็คือคนที่อยู่หรือเคยผ่านย่านการค้านั้นเท่านั้น แต่หากอยู่ห่างออกไปอีกฟากของเมือง ก็แทบจะไม่รู้จักสินค้าแล้ว
ต่อมาเมื่อโลกเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ มนุษย์ก็เริ่มรู้จักการประดิษฐ์ตัวอักษร เพื่อบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ทำให้องค์ความรู้ ประสบการณ์ และเรื่องราวต่าง ๆ ถูกบันทึกเก็บไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งนั่นก็รวมถึงการโฆษณาด้วย
ทำให้การโฆษณาในยุคนี้ นอกจากจะมีการตะโกนป่าวประกาศแล้ว ยังมีการพัฒนางานโฆษณาที่เป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นมาในรูปแบบต่าง ๆ อีกด้วย
โดยงานเขียนโฆษณาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ถูกค้นพบที่เมืองทีบส์ ประเทศอียิปต์ เขียนขึ้นบนกระดาษปาปิรุส มีอายุเกือบ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล
โฆษณาชิ้นนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับเจ้าของทาสคนหนึ่งที่กำลังตามหาทาสที่หลบหนีไป ขณะเดียวกันก็โปรโมตร้านทอผ้าของตัวเองไปด้วย
นอกจากนี้ นักโบราณคดียังได้ค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่เป็นลายลักษณ์อักษรอีกมากมาย ที่สื่อถึงความพยายามในการโฆษณาหรือโปรโมต สิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เช่น
- ปี ค.ศ. 79 ได้เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญขึ้น คือ การระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียส ทำให้ทั้งเมืองปอมเปอี ซึ่งอยู่ในจักรวรรดิโรมัน ถูกฝังอยู่ใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟในพริบตา
ต่อมานักโบราณคดีได้ขุดซากเมืองปอมเปอี และค้นพบหลักฐานการสลักข้อความอยู่ตามกำแพงเมือง
ซึ่งบนกำแพงมีทั้งข้อความทั่วไปและการโฆษณา ราวกับว่ากำแพงแห่งนี้เป็นโซเชียลมีเดีย ที่คนยุคโบราณใช้กัน
- มีการค้นพบแผ่นทองแดง ที่พิมพ์ข้อความโฆษณาของตระกูลหลิว (Liu) เจ้าของร้านขายเข็มเย็บผ้าในเมืองจี่หนาน (Jinan) ประเทศจีน คาดว่าสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 960-1279 ในยุคราชวงศ์ซ่งของจีน
บนแผ่นทองแดงมีรูปโลโกกระต่ายสีขาว พร้อมข้อความระบุว่า
เราซื้อแท่งเหล็กคุณภาพสูง มาผลิตเข็มคุณภาพดี ให้พร้อมใช้งานที่บ้านได้ในเวลาไม่นาน นับได้ว่าเป็นงานพิมพ์โฆษณาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ถึงแม้การโฆษณาด้วยข้อความ ที่ถูกเขียนลงบนพื้นผิวต่าง ๆ แทนการตะโกนร้องเรียกลูกค้า จะทำให้คนในเมืองรู้จักสินค้าได้ในวงกว้างมากขึ้น
แต่การโฆษณาในยุคโบราณด้วยงานเขียนก็มีข้อจำกัด เพราะงานเขียนเหล่านี้ต้องเขียนด้วยมือทีละแผ่นเท่านั้น ทำให้การสร้างชิ้นงานจำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น เป็นสิ่งที่ทำแทบไม่ได้
จนกระทั่งในช่วงปี ค.ศ. 1450 Johannes Gutenberg ได้ประดิษฐ์แท่นพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของอุตสาหกรรมการพิมพ์ทั่วโลก
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ข้อมูลข่าวสารและองค์ความรู้ต่าง ๆ ได้แพร่กระจายออกสู่สังคมในวงกว้างมากขึ้น
จำนวนหนังสือทั่วยุโรปก่อนประดิษฐ์แท่นพิมพ์จากที่เคยมีเพียง 30,000 เล่ม เพิ่มขึ้นเป็น 1,000,000 เล่มอย่างรวดเร็ว
สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ได้รังสรรค์สื่อสิ่งพิมพ์และงานโฆษณายุคใหม่ขึ้นมามากมาย
ไม่ว่าจะเป็น
- หนังสือพิมพ์สมัยใหม่แบบที่เรารู้จักกัน เกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยโฆษณาในหนังสือพิมพ์ยุคแรก
มีปรากฏในหนังสือพิมพ์ภาษาดัตช์ ชื่อว่า Jansz' Tydinghen uyt Verscheyde Quartieren
- ปี ค.ศ. 1741 Andrew Bradford ได้ตีพิมพ์ นิตยสาร ฉบับแรกของโลกขึ้นมา ในชื่อว่า The American Magazine, or, A Monthly View of the Political State of the British Colonies
- งานโฆษณาบนป้ายบิลบอร์ดชิ้นแรก ๆ เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1835 ด้วยป้ายขนาดใหญ่กว่า 50 ตารางเมตร
ทำขึ้นโดย Jared Bell ในนครนิวยอร์ก เพื่อโฆษณาคณะละครสัตว์ Barnum & Bailey
- โปสเตอร์สมัยใหม่ สื่อสิ่งพิมพ์เพื่อการโฆษณานี้มีประวัติย้อนกลับไปได้ราวกลางศตวรรษที่ 19
เมื่อการพิมพ์สีและการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่มาก ๆ ได้รับการพัฒนา ให้พิมพ์ได้จำนวนมากในราคาที่ถูกลง
ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงศตวรรษที่ 20 เป็นช่วงที่เทคโนโลยีต่าง ๆ ก้าวหน้าขึ้นมาก
จากการค้นพบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของ James Clerk Maxwell รวมทั้งการตั้งสมมติฐานว่าแสง คลื่นวิทยุ และรังสีเอกซ์สามารถเดินทางผ่านสุญญากาศได้ในรูปของ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อสมการของ Maxwell
ต่อมา Heinrich Rudolf Hertz จึงได้พิสูจน์ว่าสมมติฐานของ Maxwell เป็นจริง
การค้นพบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้ นับเป็นการค้นพบทางฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 19 เพราะสิ่งประดิษฐ์หลาย ๆ อย่าง ก็เกิดขึ้นจากพื้นฐานการค้นพบนี้
ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต
เมื่อสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ถือกำเนิดขึ้นมา และมีผู้ใช้งานมากในระดับหนึ่งแล้ว จึงมีการนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการโฆษณาในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็น
- โฆษณาทางวิทยุที่เกิดขึ้นครั้งแรก มีการถ่ายทอดสัญญาณในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1922 ทางสถานีวิทยุ WEAF ในนครนิวยอร์ก
โดยพิธีกรได้ใช้เวลา 10 นาที เพื่อบรรยายข้อมูล เกี่ยวกับอะพาร์ตเมนต์ในย่านควีนส์ ของนครนิวยอร์ก โดยเรตราคาของโฆษณาชิ้นนี้อยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ
- โฆษณาทางโทรทัศน์ที่เกิดขึ้นครั้งแรก ในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 1941 เป็นการโฆษณานาฬิกาของแบรนด์ Bulova ในระหว่างการถ่ายทอดสัญญาณการแข่งขันกีฬาเบสบอล
- การขายและแนะนำสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ (Telemarketing) เกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1957
โดยบริษัทชื่อว่า DialAmerica
โฆษณาออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตครั้งแรกเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1994 ในรูปของแบนเนอร์บนเว็บไซต์ HotWired
โดยโฆษณานี้ถูกซื้อโดย AT&T ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ สัญชาติอเมริกัน เพื่อโปรโมตแคมเปญ You Will.
ตลอดเวลาที่โฆษณานี้ได้รับการโปรโมต มีผู้คลิกเข้าไปชมโฆษณามากถึง 44% จากจำนวนผู้เห็นโฆษณาทั้งหมด
ซึ่งมากกว่ายอดคลิกเข้าไปดูโฆษณาออนไลน์ในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 0.02-2% เท่านั้น
- โฆษณาชิ้นแรกบน Facebook เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2004 มีลักษณะเป็นแบนเนอร์ที่อยู่ด้านข้าง โดยในขณะนั้น Facebook ต้องการขายพื้นที่โฆษณาให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น ในราคาเริ่มต้นประมาณ 10-40 ดอลลาร์สหรัฐ
และความนิยมของการโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งรู้หรือไม่ ปีที่ผ่านมาแค่ปีเดียว บริษัท Meta เจ้าของแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram มีรายได้มากถึง 4.6 ล้านล้านบาท โดยที่ 98% ของรายได้บริษัท มาจาก ค่าโฆษณา
และนี่ก็คือ ไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์การโฆษณาแบบรวบรัด ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่า มนุษย์มีความพยายามในการสื่อสารถึงประโยชน์ และคุณค่าของสินค้า หรือบริการมาตั้งแต่อดีตแล้ว
และจะเห็นว่า ยุคที่เปลี่ยนแปลงไป การโฆษณา การตลาดในแต่ละสมัย ก็ไม่เคยหยุดนิ่ง และเปลี่ยนแปลงตามไปตลอดด้วยเหมือนกัน..
ขอบคุณข้อมูล: https://www.marketthink.co/55438
By:Bank