แชร์

5 ระดับของผลิตภัณฑ์ เข้าใจขั้นตอนการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 4 ก.พ. 2025
4033 ผู้เข้าชม

5 ระดับของผลิตภัณฑ์ เข้าใจขั้นตอนการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า

 

แนวคิดเรื่องระดับของผลิตภัณฑ์ (Product Levels) เป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักการตลาดในการวิเคราะห์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม โดย Kotler และ Keller ได้แบ่งระดับของผลิตภัณฑ์ออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้

 

1. ประโยชน์หลัก (Core Benefit)

เป็นประโยชน์พื้นฐานที่ลูกค้าได้รับจากการซื้อผลิตภัณฑ์นั้นๆ เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ตัวอย่างเช่น

  • โทรศัพท์มือถือ: ประโยชน์หลักคือ การสื่อสาร
  • รถยนต์: ประโยชน์หลักคือ การเดินทาง

 

2. ผลิตภัณฑ์พื้นฐาน (Basic Product)

คือลักษณะทางกายภาพหรือคุณลักษณะพื้นฐานของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของลูกค้า ตัวอย่างเช่น

  • โทรศัพท์มือถือ: หน้าจอ, แป้นพิมพ์, กล้อง
  • รถยนต์: เครื่องยนต์, ล้อ, ตัวถัง

 

 
 3. ผลิตภัณฑ์ที่คาดหวัง (Expected Product)

คือคุณสมบัติที่ลูกค้าคาดหวังว่าจะได้รับจากผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ลูกค้าเปรียบเทียบระหว่างแบรนด์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น

  • โทรศัพท์มือถือ: การรับประกัน, บริการหลังการขาย
  • รถยนต์: ระบบความปลอดภัย, ความสะดวกสบาย

 

4. ผลิตภัณฑ์เสริม (Augmented Product)

เป็นคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ทำให้ผลิตภัณฑ์แตกต่างจากคู่แข่งและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ตัวอย่างเช่น

  • โทรศัพท์มือถือ: ฟังก์ชันพิเศษ, แอปพลิเคชัน, การออกแบบที่สวยงาม
  • รถยนต์: ระบบนำทาง, หลังคาซันรูฟ, ระบบเสียงคุณภาพสูง

 

5. ผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ (Potential Product)

คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ก้าวล้ำไปในอนาคต โดยการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ หรือการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ตัวอย่างเช่น

  • โทรศัพท์มือถือ: เทคโนโลยี 5G, AI ผู้ช่วยส่วนตัว
  • รถยนต์: รถยนต์ไร้คนขับ, พลังงานแสงอาทิตย์

 

ความสำคัญของการเข้าใจระดับของผลิตภัณฑ์

  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์: ช่วยให้นักการตลาดสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน
  • การสร้างความแตกต่าง: ช่วยให้ผลิตภัณฑ์โดดเด่นจากคู่แข่ง
  • การกำหนดราคา: ช่วยในการกำหนดราคาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
  • การสื่อสารทางการตลาด: ช่วยในการสื่อสารคุณค่าของผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าได้อย่างชัดเจน

 

การเข้าใจระดับของผลิตภัณฑ์จะช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน และสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  


  







บทความที่เกี่ยวข้อง
Omnichannel Experience: สร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อ เชื่อมทุกช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
ในยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกและช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและบริการมากมายมหาศาล พวกเขาไม่ได้อยู่แค่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ได้อยู่แค่ในร้านค้า และก็ไม่ได้อยู่แค่ในแอปมือถืออีกต่อไป แต่พวกเขาอยู่ "ทุกที่" ลองนึกภาพตาม: ลูกค้าเห็นโฆษณาสินค้าของคุณใน Instagram (ออนไลน์) คลิกไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ (ออนไลน์) เพิ่มสินค้าลงตะกร้า แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ วันต่อมา เขาเดินผ่านหน้าร้านของคุณ (ออฟไลน์) และนึกขึ้นได้ จึงตัดสินใจเข้าไปดูสินค้าจริง พนักงานที่ร้านสามารถดึงข้อมูลตะกร้าสินค้าที่เขาค้างไว้ในเว็บขึ้นมาได้ทันที และเสนอโปรโมชั่นที่ตรงใจ จนลูกค้าตัดสินใจซื้อ... นี่คือพลังของ Omnichannel Experience
ร่วมมือ.jpg Contact Center
14 พ.ย. 2025
Customer Experience (CX) 2.0: ทำไมการบริการ "หลังการขาย" ถึงสำคัญกว่า "ก่อนการขาย" ในยุคนี้
ในโลกธุรกิจแบบดั้งเดิม (CX 1.0) การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักเกิดขึ้นเมื่อ "ปิดการขาย" ได้สำเร็จ ฝ่ายการตลาดทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อหาลูกค้าใหม่ (Pre-Sales) ฝ่ายขายทุ่มเททุกกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นผู้ซื้อ และเมื่อธุรกรรมสิ้นสุดลง ภารกิจก็ดูเหมือนจะเสร็จสมบูรณ์
ร่วมมือ.jpg Contact Center
12 พ.ย. 2025
Sales Enablement: อาวุธลับที่ฝ่ายการตลาดสร้างให้ฝ่ายขาย เพื่อปิดการขายได้ง่ายขึ้น
ในหลายองค์กร เรามักเห็นภาพความขัดแย้งเล็กๆ (หรือบางทีก็ไม่เล็ก) ระหว่างทีมการตลาดและทีมขาย ฝ่ายขายบ่นว่า: "การตลาดหา Lead มาไม่ดีเลย ไม่มีคุณภาพ" หรือ "คอนเทนต์ที่ทำมาก็ใช้ขายงานจริงไม่ได้" ฝ่ายการตลาดบ่นว่า: "อุตส่าห์ทำคอนเทนต์ดีๆ ไปให้ แต่ฝ่ายขายไม่เคยเปิดใช้" หรือ "Lead ที่ให้ไปก็ไม่ยอมตาม"
ร่วมมือ.jpg Contact Center
10 พ.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ