อย่างที่เราทราบกันดีนั้นว่าการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศหรืออีกคำหนึ่งคือชิปปิ้งนั้น มีให้เลือกใช้งานอยู่มากมายหลากหลายประเภท ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าที่ต้องการขนส่ง และถ้าหากคุณรู้ว่า การในขนส่งสินค้านั้นต้องการขนส่งในรูปแบบใด ยิ่งจะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายและประหยัดในส่วนของเวลาได้
Road transportation
เป็นการขนส่งโดยรถ หรือ เป็นการขนส่งทางบก ซึ่งวิธีการนี้ เป็นวิธีการขนส่งที่มีมาอย่างยาวนานที่สุด และได้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีการใช้ขนส่งประเภทนี้อยู่เพื่อส่งสินค้าข้ามพรมแดนอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังเหมาะกับอุตสาหรรมที่ต้องการความรวดเร็วในการส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งชิ้นส่วนต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องจักร ชิ้นส่วนยานยนต์รวมถึงไปชิ้นส่วนของพาหนะต่างๆอีกด้วย และการขนส่งในรูปแบบนี้จะมีข้อจำกัดที่น้อยกว่าการขนส่งรูปแบบอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายและความสามารถในการเข้าถึงพื้นที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
Marine transportation
ในส่วนนี้คือการขนส่งทางทะเล และเป็นขนส่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการทำธุรกิจค้าขาย เพราะว่าการขนส่งสินค้าทางเรือนั้น ตอบโจทย์ในส่วนของการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมาก ซึ่งขนส่งทางบกและเครื่องบินจะมีความยุ่งยากมากกว่ามาก เพราะขนส่งทางเรือสามารถให้พื้นที่ขนาดใหญ่และสามารถรอบรับน้ำหนักได้มาก ซึ่งในส่วนของค่าใช้จ่ายจึงน้อยกว่าการขนส่งแบบอื่น และการส่งแบบเรือมักจะมีความปลอดภัยสูง เพราะว่ามีเส้นทางเดินเรือตามกำหนด แต่ข้อเสียก็มีในส่วนของเรื่องใช้ระยะเวลาที่นานกว่าปกติ ธุรกิจที่ต้องการชิปปิ้งจึงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
ปัญหาที่พบบ่อยในการนำเข้าและส่งออก
การขนส่งทางอากาศเป็นการขนส่งที่รวดเร็วที่สุด เพราะสามารถเข้าถึงได้ทุกมุมโลกที่มีสนามบิน ทั้งยังมีขอบเขตที่กว้างและไม่ส่งกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณพ์ แต่ข้อเสียคือมักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าบริการชิปปิ้งประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของต้นทุนน้ำมัน ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างๆ จึงไม่เหมาะกับสินค้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก
1.จำเป็นที่จะต้องเปรียบเทียบราคากับผู้ให้บริการในหลายๆบริษัท เพราะบริษัทชิปปิ้งในแต่ละที่นั้นมักจะมีเรทราคาบริการที่แตกต่างกัน และกว่าจะได้รับใบเสนอราคาอาจจะใช้เวลานาน จนบางครั้งอาจจะทำให้การจัดส่งสินค้าช้ากว่าเดิม
2.หากต้องทำการติดต่อประสานงานด้วยตัวเอง จะมีความยุ่งยากซับซ้อน ทั้งเรื่องของการกรอกเอกสารข้อมูลที่ต้องใช้หลักฐานจำนวนมาก การติดตามเรื่องต้องอาศัยในส่วยของความเชี่ยวชาญ
3.การจัดเตรียมเอกสารจำเป็นต้องมีความละเอียด และค่อนข้างยุ่งยาก อาจจะทำให้เสียเวลาในการจัดการข้อมูลได้
4.การติดตามสถานะที่ลำบาก ไม่ว่าจะเป็นสถานะของเอกสารรวมถึงสถานะของสินค้า ไปจนถึงปลายทาง ซึ่งบริษัทชิปปิ้งหลายๆแห่งอาจจะไม่มีระบบตรวจสอบสถานะ และอาจทำให้เสียเวลาติดตามด้วยตัวเอง
5.มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงเยอะ ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าตอนที่เสนอราคามาแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นส่วนของน้ำหนักที่เกินขึ้นมา ค่าอัพเกรดตู้ ค่าน้ำมันไปจนถึงค่าเดินเอกสาร ทำให้ต้องพิจารณาและต้องทำความทำใจในรายละเอียดนี้ให้ดี
6.หากมีปัญหาในเรื่องของการตรวจสอบความถูกต้องสินค้า การประเมินพิกัดศุลกากร จนอาจจะทำให้มีปัญหาในภายหลัง
BY:FAH
ที่มา: (forwarder-university.com)