แชร์

​รูปแบบของการว่าจ้างขนส่งสินค้าทางทะเล

อัพเดทล่าสุด: 4 ก.ย. 2024
765 ผู้เข้าชม

​รูปแบบของการว่าจ้างขนส่งสินค้าทางทะเล

การว่าจ้างขนส่งสินค้าทางทะเลมีรูปแบบจําแนกตามลักษณะของเรือเดินสมุทรและการใช้งาน ดังนี้

1. LINER TERM

     คือการว่าจ้างขนส่งสินค้าโดยเรือที่มีตารางเดินเรือที่วิ่งประจําเส้นทาง ซึ่งประกอบด้วยเรือ 3 แบบด้วยกันคือ

  • Conventional Vessel

     คือเรือสินค้าอเนกประสงค์แบบดั้งเดิม ทําการขนส่งสินค้าโดยการบรรทุกสินค้าลงในระวางเรือใหญ่ ส่วนใหญ่ใช้ในการขนสินค้าแบบเทกอง (Bulk Cargo) มักมีเส้นทางเดินเรือแบบจากเมืองท่าต้นทางไปจนถึงเมืองท่าปลายทาง (End to end)

  • Container Vessel

     คือเรือสินค้าที่ทําการขนส่งโดยระบบตู้คอนเทนเนอร์ มักมีเส้นทางเดินเรือแบบเครือข่าย (Network service) หรือเส้นทางเดินเรือแบบรอบโลก (Round the worldservice) โดยใช้เรือแม่ขนาดใหญ่ (Mother Vessel) วิ่งให้บริการเฉพาะเมืองท่าหลักที่เป็นฐานการให้บริการ เช่นเมืองท่า Singapore แล้วใช้เรือลูก (Feeder) ขนตู้คอนเทนเนอร์จากเมืองท่าหลักไปยังเมืองท่ารองหรือเมืองท่าปลายทาง เช่น ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เป็นต้น

  • Semi container Vessel

     คือเรือสินค้าที่มีรูปแบบการขนส่งผสมผสานระหว่างเรือ Conventional กับเรือContainer กล่าวคือ เป็นเรือสินค้าที่สามารถบรรทุกสินค้าลงในระวางส่วนหนึ่งและมีพื้นที่บนเรือที่จะวางตู้คอนเทนเนอร์ได้อีกส่วนหนึ่ง มักมีเส้นทางเดินเรือแบบเมืองท่าต้นทางถึงเมืองท่าปลายทาง

 

2. CHARTER TERM 

     คือการว่าจ้างขนส่งสินค้าโดยเรือที่เช่ามาขนส่งสินค้าเป็นเที่ยวๆ เป็นเรือที่ไม่มีตารางเดินเรือและเส้นทางเป็นการตายตัว เรียกว่าการเช่าเรือ ซึ่งแบ่งการเช่าออกเป็น 4 ลักษณะคือ

  • Voyage Charter

      เป็นการเช่าเหมาเรือแบบเที่ยวเดียว เพื่อขนส่งสินค้าที่กําหนด ส่วนใหญ่เป็นการเช่าเหมาเรือทั้งลํา เพื่อขนส่งสินค้าจากท่าเรือแห่งหนึ่งไปยังท่าเรืออีกแห่งหนึ่ง ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือเป็นภาระของเจ้าของเรือที่จะต้องรับผิดชอบ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาเช่าเหมาเรือที่ได้ทํากันไว้ระหว่างเจ้าของเรือกับผู้เช่าเรือ

  • Time Charter

     เป็นการเช่าเหมาเรือแบบระยะเวลา ผู้เช่าเหมาเรือจะได้สิทธิในการใช้เรือในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เจ้าของเรือมีหน้าที่ที่จะต้องทําให้เรืออยู่ในสภาพที่จะใช้งานได้เท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินเรือตามที่ได้ตกลงกันไว้ในสัญญาการเช่าเหมาเรือ จะตกเป็นภาระของผู้เช่าเรือที่จะต้องรับผิดชอบ

  • Bareboat Charter 

      เป็นการเช่าเหมาเรือเฉพาะตัวเรือเปล่าๆ ไม่รวมลูกเรือ มักเป็นการเช่าเหมาเรือในระยะเวลาที่ยาวนาน เจ้าของเรือจะรับภาระเฉพาะการหาเรือมาให้แก่ผู้เช่าเรือ ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินเรือตลอดจนการทําให้เรือสามารถปฏิบัติงานได้เป็นภาระของผู้เช่าเรือ

  • Hybrid Charter

     เป็นการเช่าเหมาเรือแบบผสมผสานกัน เช่น การเช่าเหมาเรือเที่ยวเดียวอย่างต่อเนื่องและการเช่าเหมาเรือที่ผสมระหว่างการเช่าแบบเที่ยวเดียวและการเช่าแบบระยะเวลา

 

 



 

BY : NOON (CC)

ที่มาของข้อมูล : lissom-logistics


บทความที่เกี่ยวข้อง
ขนส่งทางอากาศแบบเงียบสนิท ด้วยโดรนไร้เสียงรุ่นใหม่
ถ้าพูดถึง “โดรนส่งพัสดุ” ภาพที่หลายคนคงนึกออกคือ เสียง วี๊นนนนน ดังลั่นเหมือนผึ้งยักษ์บินผ่านบ้าน ซึ่งอาจจะไม่ค่อยเหมาะถ้าต้องส่งของตอนกลางคืน หรือในพื้นที่ชุมชนเงียบสงบ แต่ตอนนี้ นักพัฒนาได้สร้าง “Silent Delivery Drone” หรือโดรนไร้เสียง ที่บินได้แทบจะเงียบสนิท
ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
14 ส.ค. 2025
คลังสินค้าที่หยิบของด้วย “แสงเลเซอร์” แทนการใช้มือ
แทนที่คุณจะเห็นพนักงานหยิบสินค้าด้วยมือ คุณจะเห็น “ลำแสงเลเซอร์” กวาดไปมาบนพัสดุ แล้วสินค้าก็ถูกหยิบขึ้นอย่างแม่นยำราวกับเวทมนตร์
ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
14 ส.ค. 2025
ขนส่งแบบไม่ใช้ไฟแดง เทคโนโลยีที่ทำให้รถบรรทุกไม่ต้องหยุดเลยตลอดเส้นทาง
นี่คือที่มาของเทคโนโลยี Green Light Freight Corridor หรือที่หลายคนเรียกว่า “ขนส่งแบบไม่ใช้ไฟแดง” ซึ่งผสมผสาน ระบบ AI จราจรอัจฉริยะ + การสื่อสารระหว่างรถกับโครงสร้างพื้นฐาน (V2I: Vehicle-to-Infrastructure) เพื่อให้รถบรรทุกสามารถวิ่งผ่านสัญญาณไฟได้โดยไม่ต้องหยุดแม้แต่ครั้งเดียวตลอดเส้นทาง
ร่วมมือ.jpg เหมาคัน
14 ส.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ