แชร์

บริการส่งสินค้า (Delivery) ที่มีคนใช้บริการมากที่สุดในเอเชีย

อัพเดทล่าสุด: 30 ส.ค. 2024
128 ผู้เข้าชม

1. E-commerce Delivery (บริการส่งสินค้าจากอีคอมเมิร์ซ)

  •  JD Logistics (จีน): เป็นแผนกโลจิสติกส์ของ JD.com ที่ให้บริการส่งสินค้าแบบด่วนและครอบคลุมทั่วประเทศจีน
  •  Lazada Express (LEX) (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้): ส่วนหนึ่งของกลุ่ม Alibaba ให้บริการส่งสินค้าในภูมิภาคนี้
  •  Shopee Express (หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้): เป็นบริการขนส่งพัสดุของ Shopee ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมในภูมิภาค


2. Grocery Delivery (บริการส่งสินค้าอุปโภคบริโภค)

  •  BigBasket (อินเดีย): บริการส่งสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ให้บริการส่งถึงบ้านภายในไม่กี่ชั่วโมง
  •  FreshDirect (เกาหลีใต้): บริการส่งสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตที่เน้นการส่งสินค้าในวันเดียวกันหรือวันถัดไปในเกาหลีใต้
  •  HappyFresh (หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้): บริการส่งสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตที่ครอบคลุมหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ไทย


3. Quick Commerce (Q-commerce) (บริการส่งสินค้าด่วน)

  • Dunzo (อินเดีย): แอปพลิเคชันส่งสินค้าด่วนที่เน้นการส่งของภายในเวลาไม่กี่นาที เช่น อาหาร, ยา, ของใช้ประจำวัน
  •  Zomato Instant (อินเดีย): นอกเหนือจากการส่งอาหารปกติ Zomato ยังมีบริการส่งอาหารแบบด่วนที่เน้นความเร็ว
  •  GrabMart (หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้): บริการที่รวมการส่งของชำและสินค้าอื่นๆ ในเวลาที่รวดเร็ว


4. Courier Services (บริการส่งเอกสารและพัสดุที่เร่งด่วน)

  •  Ninja Van (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้): ให้บริการส่งพัสดุแบบด่วนและเป็นที่นิยมในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์, ไทย, ฟิลิปปินส์
  •  SF Express (จีน): เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งพัสดุและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน มีบริการส่งพัสดุด่วนทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
  •  Blue Dart (อินเดีย): บริษัทขนส่งด่วนที่ได้รับความนิยมและมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศอินเดีย


5. Last-Mile Delivery (บริการส่งพัสดุถึงมือผู้รับ)

  •  Lalamove (หลายประเทศในเอเชีย): ให้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุแบบ last-mile ซึ่งสามารถเรียกรถผ่านแอปได้ทันที
  •  Gojek (อินโดนีเซีย): บริการหลากหลายรวมถึงการส่งสินค้าแบบ last-mile ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มที่มีหลายบริการ เช่น ส่งอาหาร, ส่งคน, ส่งพัสดุ


6. Cross-border Delivery (บริการส่งสินค้าข้ามพรมแดน)

  •  Cainiao Network (จีน): เป็นบริษัทโลจิสติกส์ของ Alibaba ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดการการขนส่งสินค้าข้ามประเทศ ซึ่งเป็นที่นิยมมากในอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน
  •  SF International (จีน): นอกจากการส่งสินค้าภายในประเทศแล้ว SF Express ยังให้บริการขนส่งระหว่างประเทศด้วย โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  •  DHL Express (เอเชีย): มีบริการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศที่รวดเร็วและครอบคลุมหลายประเทศในเอเชีย รวมถึงการส่งสินค้าข้ามพรมแดน


7. On-demand Delivery Services (บริการส่งสินค้าตามความต้องการ)

  •  Postmates (บางส่วนในเอเชีย): ให้บริการส่งสินค้าทุกประเภทตามความต้องการของลูกค้า มีการใช้งานในเมืองใหญ่ ๆ ของเอเชีย
  •  Glovo (ฟิลิปปินส์, คาซัคสถาน และประเทศอื่นๆ): ให้บริการส่งสินค้าตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, ของใช้, หรือเอกสาร
  •  Lalamove (หลายประเทศในเอเชีย): นอกจากการส่งสินค้าปกติ Lalamove ยังมีบริการส่งของแบบ on-demand สำหรับสินค้าทุกประเภท ตั้งแต่ของชิ้นเล็กถึงชิ้นใหญ่


8. Pharmacy Delivery (บริการส่งยารักษาโรค)

  •  Netmeds (อินเดีย): บริการสั่งซื้อยาออนไลน์และจัดส่งถึงบ้าน มีความนิยมในอินเดีย
  •  PharmEasy (อินเดีย): ให้บริการส่งยาและสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพถึงบ้านภายในเวลาอันสั้น
  •  GrabHealth (บางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้): เป็นการร่วมมือระหว่าง Grab และบริษัทเภสัชกรรมเพื่อให้บริการส่งยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ


9. Logistics Aggregators (แพลตฟอร์มรวมการขนส่ง)

  •  Delhivery (อินเดีย): เป็นบริษัทที่เชื่อมต่อผู้ขายกับบริการขนส่งต่างๆ เพื่อให้การจัดส่งพัสดุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
  •  ShipRocket (อินเดีย): เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถจัดการและติดตามการจัดส่งสินค้าได้ง่ายขึ้น ด้วยการรวมบริการขนส่งจากหลายบริษัทในที่เดียว


10. Drone Delivery (บริการส่งสินค้าด้วยโดรน)

  •  JD.com (จีน): ได้เริ่มทดลองการส่งสินค้าด้วยโดรนในพื้นที่ชนบทของจีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการจัดส่ง
  •  Zomato (อินเดีย): ได้เริ่มทดสอบการส่งอาหารด้วยโดรน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเมืองใหญ่
  •  Amazon Prime Air (บางประเทศ): แม้ว่า Amazon จะไม่ได้เป็นบริษัทเอเชีย แต่ได้เริ่มทดสอบการส่งสินค้าด้วยโดรนในบางส่วนของเอเชียเช่นกัน


แนวโน้มและทิศทางในอนาคต


- การรวมเทคโนโลยี AI และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning): เพื่อปรับปรุงการจัดการเส้นทางและการพยากรณ์ความต้องการ
- การขยายการใช้ยานพาหนะไฟฟ้า: เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการขนส่ง
- การพัฒนาระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ: เช่น หุ่นยนต์และระบบจัดการคลังสินค้าแบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บและจัดส่งสินค้า



BY : LEO
ที่มา : CHAT GPT


บทความที่เกี่ยวข้อง
เทคโนโลยี AI ในงานโลจิสติกส์ 2024
ในปี 2024 เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญในงานโลจิสติกส์ โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในกระบวนการต่าง ๆ
10 ธ.ค. 2024
ระบบตรวจสอบคุณภาพสินค้าด้วย AI คืออะไร ช่วยในเรื่องใดได้บ้าง
การควบคุมคุณภาพด้วย AI ตัวช่วยสำหรับการพัฒนาด้านการผลิตในโรงงานให้มีความแม่นยำและรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้งานง่าย สะดวกสบาย มีความจำเป็นกับอุตสาหกรรมมากแค่ไหน พร้อมจุดเด่นที่ควรรู้
9 ธ.ค. 2024
บทบาทสำคัญของ Logistics People
บทบาทสำคัญของ Logistics People หรือบุคลากรในสายงานโลจิสติกส์ มีความสำคัญต่อกระบวนการจัดการสินค้าและบริการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
9 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ