แชร์

การประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเล

อัพเดทล่าสุด: 29 ส.ค. 2024
99 ผู้เข้าชม

การประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเล คืออะไร?

    คือ การประกันเพื่อคุ้มครองสินค้าหรือทรัพย์สินที่ขนส่งระหว่างประเทศจากผู้ขายในประเทศหนึ่งไปยังผู้ซื้อในอีกประเทศหนึ่ง โดยทางเรือเดินสมุทร เครื่องบินพาณิชย์ ยานพาหนะทางบก หรือทางพัสดุไปรษณีย์ จากความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง ตามเงื่อนไขความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยจากอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น เรือถูกไฟไหม้ เรือคว่ำ เรือจมความเสียหายจากการขนถ่ายสินค้าขึ้นหรือขนลงจากเรือจนทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวสินค้า

การประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเล เหมาะกับใคร?

ผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก หรือนายหน้าขายสินค้า

การประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเล มีกี่ประเภท?

มีความคุ้มครองหลักสำหรับสินค้าทั่วไป 3 ประเภท และความคุ้มครองเฉพาะสำหรับสินค้าบางชนิด

ความคุ้มครองเบื้องต้น ครอบคลุมอะไรบ้าง?

การประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเลมีความคุ้มครองให้เลือกซื้อ 3 แบบ เรียงลำดับจากแบบความคุ้มครองที่มากที่สุดและลดหลั่นกันไป ดังนี้

  1. ข้อกำหนดการรับประกันภัยสินค้าแบบ A (Institute Cargo Clauses (A)) เป็นความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด โดยให้ความคุ้มครองความเสียหาย เนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น ภัยแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือฟ้าผ่า ลมพายุ ภัยจากกระทำของมนุษย์ เช่น เรือชนกัน เรือเกยตื้น สินค้าได้รับความเสียหายจากเปียกน้ำฝน การกระทำโดยเจตนาร้ายของบุคคลอื่น การถูกปล้นโดยโจรสลัดสินค้าถูกลักขโมย และความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัยอันเกิดจากภัยอื่น ๆ ที่มีสาเหตุจากภายนอกและเกิดขึ้นโดยไม่คาดหมาย เช่น การแตก หัก ร้าว ฉีกขาด การปนเปื้อนกับวัตถุหรือสินค้าอื่น การบุบ กะเทาะ การเกิดสนิม เป็นต้น และสาเหตุความเสียหายนั้นจะต้องไม่ตกอยู่ในข้อยกเว้น
  2. ข้อกำหนดการรับประกันภัยสินค้าแบบ B (Institute Cargo Clauses (B)) ให้ความคุ้มครองความเสียหายเช่นเดียวกับ แบบ C และเพิ่มสาเหตุ จากภัยธรรมชาติเฉพาะที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้น เช่น ภัยแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด รวมถึงการถูกคลื่นซัดตกทะเล
  3. ข้อกำหนดการรับประกันภัยสินค้าแบบ C (Institute Cargo Clauses (C)) ให้ความคุ้มครองความเสียหายจากภัยเฉพาะที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้น เช่น ไฟไหม้ ระเบิด เรือชนกัน เรือเกยตื้น การโยนของทิ้งทะเล (มีจำนวนภัยที่คุ้มครองน้อยกว่าแบบ B)

อัตราเบี้ยประกันภัย ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง?

  • ชนิด และ ลักษณะของสินค้าและความแข็งแรงของหีบห่อ
  • ยานพาหนะที่ใช้ขนส่ง
  • ระยะทางและลักษณะการขนส่ง
  • สภาพเมืองต้นทาง / ปลายทาง
  • ประวัติการเรียกค่าเสียหายของผู้เอาประกันภัย
  • ความคุ้มครองที่ต้องการ
  • ยอดนำเข้า / ส่งออกต่อปี






BY : Nook

ที่มา : https://www.tgia.org


บทความที่เกี่ยวข้อง
เทคโนโลยี AI ในงานโลจิสติกส์ 2024
ในปี 2024 เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทสำคัญในงานโลจิสติกส์ โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในกระบวนการต่าง ๆ
10 ธ.ค. 2024
บทบาทสำคัญของ Logistics People
บทบาทสำคัญของ Logistics People หรือบุคลากรในสายงานโลจิสติกส์ มีความสำคัญต่อกระบวนการจัดการสินค้าและบริการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
9 ธ.ค. 2024
การปฏิวัติระบบโลจิสติกส์แห่งอนาคต
ในโลกที่เศรษฐกิจและการค้าก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การจัดเก็บ หรือการส่งมอบสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ
6 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ