แชร์

การขนส่งทางท่อ คืออะไร

อัพเดทล่าสุด: 2 ส.ค. 2024
4539 ผู้เข้าชม

การขนส่งทางท่อ คืออะไร

    การขนส่งแบบ Pipeline หรือการขนส่งโดยใช้ระบบท่อนั้น มักเป็นการขนส่งสิ่งของประเภทของเหลวและก๊าซ เช่น น้ำประปา น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น โดยการขนส่งผ่านระบบท่อนั้นจะแตกต่างจากการขนส่งในทางอื่นๆ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่งนั้นไม่จำเป็นต้องเคลื่อนที่ ซึ่งเส้นทางในการขนส่งนั้นอาจจะอยู่บนดิน ใต้ดินหรือใต้น้ำ ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศของแต่ละพื้นที่ ประเทศแรกที่ใช้ระบบการขนส่งผ่านท่อนั้น คือประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการใช้สำหรับขนส่งน้ำมัน แต่สำหรับประเทศไทยนั้นก็มีการใช้งานการขนส่งในรูปแบบนี้เช่นกัน โดยเป็นระบบการขนส่งทางท่อสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ

ส่วนประกอบของการขนส่งในรูปแบบ Pipeline

    ผู้ประกอบการ ซึ่งในประเทศไทยนั้น ผู้ประกอบการที่สำคัญ ได้แก่ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.)
อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการขนส่ง ได้แก่ ท่อ หรือสายท่อ ที่แบ่งเป็นท่อหลักและท่อย่อย
สถานีในการขนส่ง ได้แก่ สถานีต้นทาง สถานีปลายทาง สถานีแยก สถานีสูบดัน
ข้อดีและข้อเสียของการขนส่งในรูปแบบ Pipeline

ข้อดี
- ประหยัดต้นทุน และเวลาในการเคลื่อนย้ายสินค้า
- สามารถขนส่งสินค้าได้ในทุกสภาพอากาศ
- สามารถขนสินค้าได้ไม่จำกัดเวลาและปริมาณ
- มีความปลอดภัยสูงจากการสูญหายของสินค้าหรือถูกลักขโมย
- สามารถกำหนดเวลาในการขนส่งได้แน่นอน
- ประหยัดค่าแรง เพราะใช้แรงงานคนในการดำเนินการขนส่งน้อย

ข้อเสีย
- สามารถขนส่งได้เฉพาะสินค้าที่สถานะเป็นของเหลวหรือก๊าซเท่านั้น
- มีต้นทุนสูงในการวางระบบครั้งแรก
- การตรวจสอบหาจุดบกพร่องนั้นทำได้ยาก
- เมื่อติดตั้งระบบท่อที่จะใช้ในการขนส่งเสร็จแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางในการขนส่งได้ หรือทำได้แต่ทำได้ ยาก มีค่าใช้จ่ายสูง
- ไม่เหมาะกับการขนส่งในภูมิประเทศที่มีแผ่นดินไหวบ่อย

    ถึงแม้ตอนนี้การขนส่งในรูปแบบท่อนั้นจะยังมีข้อจำกัดให้ขนส่งได้เฉพาะของเหลวและก๊าซเท่านั้น แต่ในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ อาจจะเพิ่มความสามารถในการส่งสินค้าในรูปแบบอื่นๆได้มากขึ้น และจะเกิดความสะดวกมากขึ้นไม่น้อยในการขนส่งสินค้าต่างๆในระยะทางไกล ระหว่างหัวเมืองต่างๆ ที่จะทำให้สะดวกและประหยัดเวลาในการขนส่งมากยิ่งขึ้น

 




BY : BOAT

ที่มา : prosoftgps


บทความที่เกี่ยวข้อง
เทรนด์ใหม่ SME: สร้างระบบขนส่งแบบ 'Hybrid' ผสมผสานข้อดีระหว่างทำเองและ Outsource
สำหรับเจ้าของธุรกิจ SME ที่กำลังเติบโต คำถามสำคัญด้านโลจิสติกส์ที่มักจะเกิดขึ้นคือ "เราควรจะจัดการขนส่งด้วยตัวเองต่อไป หรือจ้างบริษัทข้างนอก (Outsource) ทั้งหมดดี?" การทำเองให้ความรู้สึกว่าควบคุมได้เต็มร้อย แต่ก็เหนื่อยและมีต้นทุนแฝง ในขณะที่การ Outsource ทั้งหมดก็อาจทำให้รู้สึกว่าเสียการควบคุมหรือมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป แต่จะดีกว่าไหมถ้าคุณไม่จำเป็นต้องเลือกข้างใดข้างหนึ่ง? ขอแนะนำให้รู้จักกับ "Hybrid Logistics" กลยุทธ์การขนส่งแบบผสมผสาน ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงและตอบโจทย์ SME ยุคใหม่ได้อย่างลงตัวที่สุด
ปาล์ม นักศึกษาฝึกงาน
13 ก.ย. 2025
โลจิสติกส์สำหรับธุรกิจ Startups เริ่มต้นอย่างไรไม่ให้ต้นทุนบาน
เวลาพูดถึง “โลจิสติกส์” หลาย Startup มักจะคิดถึงเรื่องใหญ่ ๆ อย่างโกดังขนาดมหึมา รถขนส่งนับสิบคัน หรือระบบไอทีที่ซับซ้อน แต่ในความเป็นจริงแล้ว สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ การบริหารจัดการให้คุ้มค่า และ “ไม่บานปลายเกินความจำเป็น”
ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
13 ก.ย. 2025
การจัดการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ (Oversized Cargo) เคล็ดลับที่หลายคนมองข้าม
การขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ หรือ Oversized Cargo ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร อุปกรณ์ก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งงานศิลปะชิ้นใหญ่ ๆ การส่งของเหล่านี้ไม่ได้ง่ายเหมือนส่งกล่องเล็ก ๆ เลย
ร่วมมือ.jpg เหมาคัน
13 ก.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ