แชร์

การคาดการณ์ความต้องการ (Demand Forecasting) คืออะไร

อัพเดทล่าสุด: 31 ก.ค. 2024
5068 ผู้เข้าชม

Demand Forecasting คือ

การคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าในอนาคต โดยใช้ข้อมูลเช่น ยอดขายที่ผ่านมา แนวโน้มตลาด และปัจจัยอื่นๆ เพื่อช่วยในการวางแผนการผลิต การจัดสต็อกสินค้า และการวางแผนการขายอย่างมีประสิทธิภาพ.

ประโยชน์ของการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า

การคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุน โดยช่วยวางแผนการผลิตให้เหมาะสมกับปริมาณที่ต้องการ ลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อและจัดส่งสินค้า และช่วยกำหนดราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสม.


 
 การทำ Demand Forecasting มีขั้นตอนหลักดังนี้

1. รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอดีต: เก็บข้อมูลยอดขาย ข้อมูลลูกค้า และปัจจัยอื่นๆ เพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ที่แม่นยำ. 

2. ดูแนวโน้มความต้องการสินค้าคงคลัง: ใช้สถิติและเทคนิควิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุแนวโน้มและพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์.

3. คาดการณ์ความต้องการตามฤดูกาล: พิจารณาข้อมูลฤดูกาลที่ผ่านมา แนวโน้มตลาด และปัจจัยเทศกาลเพื่อวางแผนการผลิตและสต็อก.

4. พิจารณาปัจจัยเชิงคุณภาพ: รวมข้อมูลการตลาดและปัจจัยส่งเสริมการขาย พร้อมเปรียบเทียบกับข้อมูลจริงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ.

5. วางแผนล่วงหน้าในกรณีคาดการณ์ผิดพลาด: เตรียมแผนสำรองและคำนวณระดับข้อผิดพลาดเพื่อจัดการกับความไม่แน่นอน.




BY : PLAI

ที่มา : packhai


บทความที่เกี่ยวข้อง
SME สู้สุดใจ: ปลดล็อกการเติบโตด้วย 'พาร์ทเนอร์หลังบ้าน' ที่ใช่
หัวใจของเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยพลังของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME ที่เต็มไปด้วยความฝัน, ความหลงใหล, และความมุ่งมั่น แต่บ่อยครั้งที่ SME จำนวนมากต้องเผชิญกับ "กำแพงที่มองไม่เห็น" ที่ขัดขวางการเติบโต นั่นคือ ภาระงานหลังบ้าน ตั้งแต่การสต็อกของจนล้นบ้าน, การเสียเวลาแพ็คของทั้งคืน, ไปจนถึงความวุ่นวายในการจัดส่ง
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
15 ต.ค. 2025
 ไม่ใช่แค่สแกนพัสดุ: เบื้องหลัง 'ทีมงานมืออาชีพ' ของ BS Express ที่ทำให้ทุกการจัดส่งราบรื่น
เบื้องหลังความเรียบง่าย ณ จุดบริการนั้น คือกระบวนการทำงานที่ซับซ้อนและความทุ่มเทของ "ทีมงานมืออาชีพ"
ฟ่าง (นักศึกษาฝึกงาน)
15 ต.ค. 2025
Hyper-Personalization: กลยุทธ์มัดใจลูกค้าในยุคที่ทุกคนต้องการเป็นคนพิเศษ
ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคถูกรายล้อมไปด้วยข้อมูลและตัวเลือกมากมาย การตลาดแบบหว่านแห (Mass Marketing) อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่สินค้าหรือบริการที่ดี แต่พวกเขามองหา "ประสบการณ์" ที่รู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจและใส่ใจพวกเขาอย่างแท้จริง นี่คือจุดที่ Hyper-Personalization เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะกลยุทธ์การตลาดแห่งอนาคตที่จะมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
ร่วมมือ.jpg Contact Center
15 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ