แชร์

การขนส่งสินค้าแบบ EXW (Ex Works)

อัพเดทล่าสุด: 16 ก.ค. 2024
2195 ผู้เข้าชม

EXW ย่อมาจาก Ex Works แปลว่า "ออกจากโรงงาน" หมายความว่า ผู้ขายมีหน้าที่ส่งมอบสินค้าให้กับผู้ซื้อ ณ สถานที่ประกอบการของผู้ขาย (โรงงาน, คลังสินค้า) เมื่อสินค้าถูกโหลดลงบนพาหนะขนส่งที่โรงงาน ถือว่าผู้ขายได้ส่งมอบสินค้าให้กับผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว
ความเสี่ยงและความรับผิดชอบทั้งหมดของสินค้าจะโอนไปยังผู้ซื้อ ตั้งแต่จุดส่งมอบเป็นต้นไป


ข้อดีของการใช้ EXW

  • ความชัดเจน : เงื่อนไข EXW กำหนดจุดส่งมอบ ความรับผิดชอบ และค่าใช้จ่ายได้ชัดเจน ช่วยลดข้อพิพาทระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
  • ความยืดหยุ่น : ผู้ขายและผู้ซื้อสามารถตกลงกันเองได้ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายบางรายการ เช่น ค่าประกันสินค้า
  • ความสะดวก : เงื่อนไข EXW นั้นเป็นที่รู้จักและใช้กันทั่วไปในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ทำให้หาผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและประกันภัยได้ง่าย

ข้อเสียของการใช้ EXW

  • ความซับซ้อน : ผู้ขายและผู้ซื้อต้องเข้าใจเงื่อนไข EXW อย่างถ่องแท้ มิฉะนั้นอาจเกิดข้อพิพาทได้
  • ความเสี่ยง : ผู้ซื้อมีหน้าที่รับผิดชอบความเสี่ยงและความเสียหายของสินค้าตั้งแต่จุดส่งมอบ ซึ่งอาจสร้างความเสี่ยงให้กับผู้ซื้อ
  • ต้นทุน : ผู้ซื้อต้องชำระค่าขนส่งสินค้าทั้งหมดตั้งแต่โรงงานของผู้ขายไปยังปลายทาง ซึ่งอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง

ตัวอย่าง

บริษัท A ในประเทศไทย ขายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ให้กับบริษัท B ในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้เงื่อนไข EXW

ผู้ขาย (บริษัท A) มีหน้าที่

  • บรรจุสินค้าลงในกล่อง
  • ขนส่งสินค้าไปยังโรงงาน
  • โหลดสินค้าลงบนรถบรรทุกที่โรงงาน
  • ชำระค่าธรรมเนียมท่าเรือต้นทาง (กรณีมี)

ผู้ซื้อ (บริษัท B) มีหน้าที่

  • ชำระค่าขนส่งสินค้าจากโรงงานของผู้ขายไปยังท่าเรือปลายทาง
  • ชำระค่าประกันสินค้า
  • จัดการพิธีการศุลกากรที่ท่าเรือปลายทาง
  • ขนส่งสินค้าจากท่าเรือปลายทางไปยังคลังสินค้า


การขนส่งสินค้าแบบ EXW เหมาะสำหรับธุรกรรมการค้าที่มีสินค้าที่ชัดเจน จุดส่งมอบสินค้าที่ชัดเจน ผู้ขายและผู้ซื้อที่เข้าใจเงื่อนไข EXW อย่างไรก็ตาม ผู้ขายและผู้ซื้อควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของสินค้า เส้นทางการขนส่ง และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ก่อนตัดสินใจใช้เงื่อนไข EXW


แหล่งข้อมูล : https://www.customs.go.th/content.php?ini_content=customs_valuation_03&ini_menu=menu_customs_value&lang=th&left_menu=menu_customs_value_03


บทความที่เกี่ยวข้อง
FTL vs LTL: เหมาคัน หรือ ฝากส่ง แบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณ?
FTL vs LTL: เหมาคัน หรือ ฝากส่ง? เลือกแบบไหนให้ประหยัดต้นทุนและตอบโจทย์ธุรกิจ Meta Description: สับสนระหว่าง FTL (เหมาคัน) กับ LTL (ฝากส่ง) ใช่ไหม? เจาะลึกข้อดี-ข้อเสียของรูปแบบการขนส่งทั้ง 2 แบบ วิธีเลือกให้เหมาะกับปริมาณของ และเทคนิคลดต้นทุนขนส่งที่คุณต้องรู้
ไทก้า นักศึกษาฝึกงาน
6 ธ.ค. 2025
ส่งของชิ้นใหญ่/แตกหักง่าย ให้ถึงมือลูกค้าแบบ "ไร้รอยขีดข่วน" ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ฝันร้ายของคนขายของชิ้นใหญ่ คือลูกค้าเปิดกล่องมาแล้วเจอ "ซาก" สำหรับร้านค้าที่ขายเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของแต่งบ้าน หรืออะไหล่ยนต์ การได้รับออเดอร์นั้นเป็นเรื่องน่าดีใจ แต่ช่วงเวลาที่น่ากังวลที่สุดคือ "ระหว่างทางขนส่ง" เพราะสินค้าที่มีขนาดใหญ่ (Bulky Items) หรือมีความเปราะบาง (Fragile) หากจัดการไม่ดี ความเสี่ยงที่จะเกิดรอยขีดข่วน บุบ หรือแตกหัก มีสูงมาก และความเสียหายนั้นไม่ได้จบแค่การเคลมสินค้า แต่มันหมายถึง "ความเชื่อมั่น" ของลูกค้าที่ลดลงทันที วันนี้ BS Group จะมาแชร์เทคนิคการเตรียมตัวและจัดการสินค้ากลุ่มนี้ ให้ถึงมือลูกค้าแบบปลอดภัย 100% เหมือนรับจากมือคุณเองครับ
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
6 ธ.ค. 2025
 เส้นทางขนส่งยอดฮิตในไทย: ภาคไหนส่งยาก ภาคไหนส่งง่าย?
ส่งของไปเหนือ ล่องใต้ หรือไปอีสาน เส้นทางไหนหินที่สุด? วิเคราะห์เส้นทางขนส่งทั่วไทย เพื่อช่วยผู้ประกอบการวางแผนการจัดส่ง ลดความเสียหาย และประหยัดต้นทุน
ร่วมมือ.jpg Contact Center
5 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ