แชร์

"ประกันภัยสินค้า (Carrier Liability) vs ประกันขนส่ง (Marine Insurance) ต่างกันยังไง? อันไหนคุ้มครองอะไรบ้าง"

noimageauthor ผึ้ง เด็กฝึกงาน
อัพเดทล่าสุด: 26 ธ.ค. 2025
30 ผู้เข้าชม

ประกันภัยสินค้า vs ประกันขนส่ง ต่างกันยังไง? อันไหนคุ้มครองอะไรบ้าง

"ส่งของไปกับขนส่ง ถ้าของแตกหรือหาย ขนส่งก็ต้องรับผิดชอบจ่ายคืนตามราคาสินค้าสิ... จริงไหม?"
คำตอบคือ "ไม่จริงเสมอไปครับ!" นี่คือความเข้าใจผิดอันดับ 1 ที่ทำให้ผู้ประกอบการและลูกค้ามีปัญหากับบริษัทขนส่งบ่อยที่สุด เพราะในความเป็นจริง ความคุ้มครองมี 2 ระดับ คือ Carrier Liability (พื้นฐาน) และ Marine Insurance (ซื้อเพิ่ม)

วันนี้ BS Express จะมากางตารางให้ดูชัดๆ ว่า 2 อย่างนี้ต่างกันยังไง และสินค้าของคุณควรใช้แบบไหนถึงจะคุ้มที่สุด?


1. Carrier Liability (ความรับผิดของผู้ขนส่ง)
นี่คือ "สิทธิ์ขั้นพื้นฐาน" ที่ติดมากับค่าขนส่งปกติ (โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม)
คืออะไร: เป็นความรับผิดชอบตามกฎหมายของบริษัทขนส่ง หากทำสินค้าเสียหายหรือสูญหายจากความประมาทของผู้ขนส่งเอง
วงเงินคุ้มครอง: "จำกัด" (Limited Liability) ส่วนใหญ่มักจะมีเพดานกำหนดไว้ เช่น ไม่เกิน 500 - 1,000 บาท ต่อบิลขนส่ง หรือคิดตามกิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทและกฎหมายกำหนด)
ข้อจำกัด: หากคุณส่งของมูลค่า 50,000 บาท แล้วของหาย แต่คุณใช้สิทธิ์แค่ Carrier Liability คุณอาจได้รับเงินชดเชยคืนเพียงแค่หลักร้อยหรือหลักพันเท่านั้น (ตามเงื่อนไขท้ายบิล) ไม่ได้คืนเต็มจำนวน 50,000 บาท1


2. Marine Insurance (ประกันภัยขนส่งสินค้า)
อย่าเพิ่งตกใจคำว่า "Marine" (ทะเล) นะครับ ในทางประกันภัยมันรวมถึงการขนส่งทางบก (Inland Transit) ด้วย
คืออะไร: คือ "ประกันภัยที่คุณซื้อเพิ่ม" จากบริษัทประกัน (คล้ายประกันรถยนต์ชั้น 1)
วงเงินคุ้มครอง: "เต็มมูลค่าสินค้า" (All Risks) หรือตามวงเงินที่คุณระบุและจ่ายเบี้ยประกันไว้
ความคุ้มครอง: ครอบคลุมกว้างกว่ามาก ไม่ใช่แค่รถคว่ำ แต่รวมถึงภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ โจรกรรม หรืออุบัติเหตุสุดวิสัยที่ผู้ขนส่งควบคุมไม่ได้
ข้อดี: หากสินค้ามูลค่า 1 ล้านบาทเสียหาย คุณก็มีสิทธิ์เคลมได้สูงสุด 1 ล้านบาท (ตามทุนประกัน)

คำแนะนำจาก BS Express: บริหารความเสี่ยงยังไงให้คุ้ม?
1. ประเมินมูลค่าของ: ถ้าของในกล่องราคาหลักร้อย ใช้แค่ความรับผิดชอบปกติของขนส่งก็เพียงพอแล้ว
2. ถ้าของแพง ต้องซื้อเพิ่ม!: หากคุณส่งอะไหล่รถยนต์ เครื่องจักร หรือสินค้าที่มีมูลค่าหลักหมื่นหลักแสน การประหยัดค่าประกันเพียงไม่กี่ร้อยบาท แลกกับความเสี่ยงสูญเงินทั้งก้อน ถือว่า "ไม่คุ้มอย่างยิ่ง" ครับ
3. แพ็คให้ดีที่สุด: ไม่ว่าจะมีประกันหรือไม่ "การแพ็คกิ้งที่ดี" คือด่านแรกที่จะปกป้องสินค้าของคุณ เพราะบริษัทประกันอาจปฏิเสธการจ่าย หากพิสูจน์ได้ว่าสินค้าเสียหายจากการแพ็คที่ไม่ได้มาตรฐาน (Packing Insufficiency)
ที่ BS Express เราดูแลสินค้าของคุณเหมือนของคนในครอบครัว แม้เราจะมีมาตรฐานการดูแลสินค้าที่รัดกุม แต่สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง เรายินดีให้คำปรึกษาเรื่องการทำประกันภัยเพิ่มเติม เพื่อความสบายใจสูงสุดของลูกค้าครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไมค่าส่งแต่ละเจ้าไม่เท่ากัน? : แบไต๋โครงสร้างราคาขนส่ง (น้ำหนัก vs ปริมาตร vs ระยะทาง)
กล่องเท่ากัน แต่ทำไมราคาต่างกันฟ้ากับเหว? เคยไหมครับ? ถือกล่องพัสดุใบเดิม ไปส่งที่ขนส่งเจ้าสีแดง ราคา 50 บาท พอไปอีกเจ้าสีส้ม ราคา 80 บาท แต่พอไปส่งขนส่งรถสิบล้อ ราคาเหลือแค่ 40 บาท! หลายคนคิดว่าการตั้งราคาค่าส่งเป็นเรื่องของการตลาด (ใครจัดโปรฯ ถูกกว่าก็ชนะ) แต่ความจริงแล้ว เบื้องหลังตัวเลขเหล่านั้นมี "สมการคณิตศาสตร์" ซ่อนอยู่ครับ วันนี้ BS Express จะมา "แบไต๋" โครงสร้างราคาขนส่งแบบหมดเปลือก เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเงินที่คุณจ่ายไป ถูกนำไปคำนวณจากอะไรบ้าง และจะเลือกขนส่งแบบไหนให้ประหยัดเงินในกระเป๋าที่สุด!
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
27 ธ.ค. 2025
จรรยาบรรณวิชาชีพขนส่ง: หัวใจของการบริการที่ยั่งยืน
จรรยาบรรณวิชาชีพขนส่ง: กุญแจสำคัญสู่ความเชื่อมั่นและการบริการที่ยั่งยืน
ไทก้า นักศึกษาฝึกงาน
27 ธ.ค. 2025
ป้ายห้ามโยน/ห้ามทับ (Fragile Label) แปะตรงไหนคนยกถึงจะเห็นชัดที่สุด?
แปะป้าย "ระวังแตก" แล้วทำไมของยังพัง? เผยเทคนิคการแปะสติ๊กเกอร์ Fragile / ห้ามโยน ที่ถูกต้อง แปะตรงไหนให้พนักงานขนส่งเห็นชัดที่สุด 360 องศา ลดโอกาสความเสียหายได้จริง
27 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ