"ประกันภัยสินค้า (Carrier Liability) vs ประกันขนส่ง (Marine Insurance) ต่างกันยังไง? อันไหนคุ้มครองอะไรบ้าง"

ประกันภัยสินค้า vs ประกันขนส่ง ต่างกันยังไง? อันไหนคุ้มครองอะไรบ้าง
"ส่งของไปกับขนส่ง ถ้าของแตกหรือหาย ขนส่งก็ต้องรับผิดชอบจ่ายคืนตามราคาสินค้าสิ... จริงไหม?"
คำตอบคือ "ไม่จริงเสมอไปครับ!" นี่คือความเข้าใจผิดอันดับ 1 ที่ทำให้ผู้ประกอบการและลูกค้ามีปัญหากับบริษัทขนส่งบ่อยที่สุด เพราะในความเป็นจริง ความคุ้มครองมี 2 ระดับ คือ Carrier Liability (พื้นฐาน) และ Marine Insurance (ซื้อเพิ่ม)
วันนี้ BS Express จะมากางตารางให้ดูชัดๆ ว่า 2 อย่างนี้ต่างกันยังไง และสินค้าของคุณควรใช้แบบไหนถึงจะคุ้มที่สุด?
1. Carrier Liability (ความรับผิดของผู้ขนส่ง)
นี่คือ "สิทธิ์ขั้นพื้นฐาน" ที่ติดมากับค่าขนส่งปกติ (โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม)
คืออะไร: เป็นความรับผิดชอบตามกฎหมายของบริษัทขนส่ง หากทำสินค้าเสียหายหรือสูญหายจากความประมาทของผู้ขนส่งเอง
วงเงินคุ้มครอง: "จำกัด" (Limited Liability) ส่วนใหญ่มักจะมีเพดานกำหนดไว้ เช่น ไม่เกิน 500 - 1,000 บาท ต่อบิลขนส่ง หรือคิดตามกิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทและกฎหมายกำหนด)
ข้อจำกัด: หากคุณส่งของมูลค่า 50,000 บาท แล้วของหาย แต่คุณใช้สิทธิ์แค่ Carrier Liability คุณอาจได้รับเงินชดเชยคืนเพียงแค่หลักร้อยหรือหลักพันเท่านั้น (ตามเงื่อนไขท้ายบิล) ไม่ได้คืนเต็มจำนวน 50,000 บาท1
2. Marine Insurance (ประกันภัยขนส่งสินค้า)
อย่าเพิ่งตกใจคำว่า "Marine" (ทะเล) นะครับ ในทางประกันภัยมันรวมถึงการขนส่งทางบก (Inland Transit) ด้วย
คืออะไร: คือ "ประกันภัยที่คุณซื้อเพิ่ม" จากบริษัทประกัน (คล้ายประกันรถยนต์ชั้น 1)
วงเงินคุ้มครอง: "เต็มมูลค่าสินค้า" (All Risks) หรือตามวงเงินที่คุณระบุและจ่ายเบี้ยประกันไว้
ความคุ้มครอง: ครอบคลุมกว้างกว่ามาก ไม่ใช่แค่รถคว่ำ แต่รวมถึงภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ โจรกรรม หรืออุบัติเหตุสุดวิสัยที่ผู้ขนส่งควบคุมไม่ได้
ข้อดี: หากสินค้ามูลค่า 1 ล้านบาทเสียหาย คุณก็มีสิทธิ์เคลมได้สูงสุด 1 ล้านบาท (ตามทุนประกัน)
คำแนะนำจาก BS Express: บริหารความเสี่ยงยังไงให้คุ้ม?
1. ประเมินมูลค่าของ: ถ้าของในกล่องราคาหลักร้อย ใช้แค่ความรับผิดชอบปกติของขนส่งก็เพียงพอแล้ว
2. ถ้าของแพง ต้องซื้อเพิ่ม!: หากคุณส่งอะไหล่รถยนต์ เครื่องจักร หรือสินค้าที่มีมูลค่าหลักหมื่นหลักแสน การประหยัดค่าประกันเพียงไม่กี่ร้อยบาท แลกกับความเสี่ยงสูญเงินทั้งก้อน ถือว่า "ไม่คุ้มอย่างยิ่ง" ครับ
3. แพ็คให้ดีที่สุด: ไม่ว่าจะมีประกันหรือไม่ "การแพ็คกิ้งที่ดี" คือด่านแรกที่จะปกป้องสินค้าของคุณ เพราะบริษัทประกันอาจปฏิเสธการจ่าย หากพิสูจน์ได้ว่าสินค้าเสียหายจากการแพ็คที่ไม่ได้มาตรฐาน (Packing Insufficiency)
ที่ BS Express เราดูแลสินค้าของคุณเหมือนของคนในครอบครัว แม้เราจะมีมาตรฐานการดูแลสินค้าที่รัดกุม แต่สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง เรายินดีให้คำปรึกษาเรื่องการทำประกันภัยเพิ่มเติม เพื่อความสบายใจสูงสุดของลูกค้าครับ
ผึ้ง เด็กฝึกงาน


Contact Center
