แชร์

การวางระบบเส้นทางการหยิบ Picking Route ให้มีประสิทธิภาพ

S__2711596.jpg BS&DC SAI5
อัพเดทล่าสุด: 16 ธ.ค. 2025
50 ผู้เข้าชม
ในงานคลังสินค้า "การหยิบสินค้า (Picking)" เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลามากที่สุด และเป็นจุดที่เกิดต้นทุนแฝงสูง หากพนักงานต้องเดินอ้อม เดินซ้ำ หรือหาของไม่เจอ นั่นหมายถึงเวลาและเงินที่สูญเสียไปโดยไม่จำเป็น
การวาง Picking Route ที่ดีจึงช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น ลดความผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของคลังสินค้า

Picking Route คืออะไร?
Picking Route คือ เส้นทางการเดินหยิบสินค้าที่ถูกออกแบบไว้ล่วงหน้า เพื่อให้พนักงานหยิบของได้ครบตามออเดอร์ โดยใช้ระยะทางและเวลาน้อยที่สุด
เป้าหมายหลักคือ
  • เดินให้น้อยที่สุด
  • หยิบของได้เร็ว
  • ลดการย้อนกลับซ้ำทางเดิม
ทำไมการวาง Picking Route ถึงสำคัญ?
  • ‍️ ลดระยะทางการเดินของพนักงาน
  • ️ เพิ่มความเร็วในการจัดออเดอร์
  • ลดการหยิบผิด หยิบซ้ำ
  • รองรับปริมาณออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นได้ดีขึ้น
  • ลดต้นทุนแรงงานในระยะยาว
หลักการวาง Picking Route ให้มีประสิทธิภาพ
1. จัดผังคลังให้รองรับเส้นทางเดียว (One-way Route)
ออกแบบเส้นทางให้พนักงานเดินเป็นทิศทางเดียว ไม่สวนกัน และไม่ต้องย้อนกลับ
เหมาะกับคลังที่มีชั้นวางหลายแถว จะช่วยลดความสับสนและการชนกันของพนักงาน

2. วางสินค้าขายดีให้อยู่ใกล้จุดเริ่มต้น
ใช้แนวคิด ABC Analysis
  • A = สินค้าหยิบบ่อย  วางใกล้จุด Packing
  • B = หยิบบ่อยปานกลาง
  • C = หยิบน้อย  วางไกลออกไป
ช่วยลดเวลาหยิบในออเดอร์ส่วนใหญ่ได้ทันที

3. เลือกวิธี Picking Route ให้เหมาะกับคลัง
รูปแบบเส้นทางที่นิยม เช่น
  • S-Shape Route: เดินครบทุกแถว เหมาะกับออเดอร์ใหญ่
  • Return Route: เข้าแถวแล้วกลับทางเดิม เหมาะกับคลังขนาดเล็ก
  • Zone Picking: แบ่งพื้นที่เป็นโซน พนักงานรับผิดชอบเฉพาะจุด
  • Batch Picking: หยิบหลายออเดอร์พร้อมกัน ลดการเดินซ้ำ
4. กำหนดจุดเริ่ม - จุดจบให้ชัดเจน
ควรกำหนดจุด Start และ End ของการหยิบให้แน่นอน เช่น
เริ่มจาก Receiving  จบที่ Packing
ช่วยให้ทุกคนใช้เส้นทางเดียวกัน ลดความสับสน

5. ใช้ระบบ WMS หรือเทคโนโลยีช่วยคำนวณเส้นทาง
ระบบ WMS สามารถ
  • จัดลำดับการหยิบอัตโนมัติ
  • คำนวณเส้นทางที่สั้นที่สุด
  • แสดงตำแหน่งสินค้าแบบ Real-time
เหมาะกับคลังที่มี SKU จำนวนมากหรือออเดอร์สูงในแต่ละวัน

สัญญาณเตือนว่า Picking Route ยังไม่มีประสิทธิภาพ
  • พนักงานเดินเยอะ แต่หยิบของได้น้อย
  • ใช้เวลาหยิบออเดอร์นานกว่าที่ควร
  • หยิบผิดตำแหน่งบ่อย
  • พนักงานใหม่เรียนรู้งานยาก
หากพบปัญหาเหล่านี้ ควรทบทวนเส้นทางการหยิบทันที

สรุป
การวางระบบ Picking Route ที่ดี ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงเสมอไป
เพียงเริ่มจากการจัดผังคลัง วิเคราะห์พฤติกรรมการหยิบ และเลือกเส้นทางที่เหมาะสม
ก็สามารถช่วยให้คลังสินค้าทำงานเร็วขึ้น ประหยัดต้นทุน และรองรับการเติบโตของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง
Marketing 2026: เมื่อ AI เข้ามาแย่งงาน หรือช่วยสร้างยอดขาย? ปรับตัวอย่างไรให้รอด
Marketing 2026: เมื่อ AI บุก! จะถูก "แย่งงาน" หรือได้ "ผู้ช่วย" สร้างยอดขาย? เผยวิธีปรับตัวให้รอด
ร่วมมือ.jpg Contact Center
25 ธ.ค. 2025
สุขอนามัยในการขนส่งอาหารและยา (Food & Pharma Logistics)
ความสะอาดคือชีวิต! เจาะลึกมาตรฐานสุขอนามัยในการขนส่งอาหารและยา (Food & Pharma Logistics)
ไทก้า นักศึกษาฝึกงาน
25 ธ.ค. 2025
ส่งฟรี vs ส่งไว: ลูกค้าปี 2025 อยากได้อะไรมากกว่ากัน? (เจาะลึก Insight นักช้อปที่ร้านค้าต้องรู้)
ศึกชิงนางระหว่าง "ความงก" กับ "ความรีบ" ถ้าถามพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ว่า "ลูกค้าชอบอะไรที่สุด?" คำตอบคงหนีไม่พ้น "ของถูกและดี" แต่ถ้าถามลึกลงไปถึงเรื่อง การขนส่ง (Shipping) ล่ะ? นี่คือจุดที่เสียงเริ่มแตก... ฝั่งหนึ่งบอกว่า "ต้องส่งฟรีสิ! คำว่า 'ฟรี' คือเวทมนตร์ที่ทำให้คนกดโอนเงิน" อีกฝั่งเถียงว่า "ยุคนี้ใครเขารอของกัน? ต้องส่งไว! สั่งเช้าได้เย็นถึงจะชนะ" ในปี 2025 ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว (Fast-Changing Consumer Behavior) คำตอบอาจไม่ใช่แค่ A หรือ B เสมอไป วันนี้ BS Express จะพาคุณไปเจาะลึก Insight ของนักช้อปยุคใหม่ เพื่อให้คุณวางกลยุทธ์การขนส่งได้ถูกจุด ปิดการขายได้ไว และกำไรไม่หด!
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
25 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ