Dashboards ที่ควรมีในธุรกิจโลจิสติกส์

ในยุคที่ความเร็วคือหัวใจของโลจิสติกส์ การตัดสินใจต้องเกิดขึ้นบนข้อมูลที่ ชัดเจนแบบเรียลไทม์ และนี่คือเหตุผลที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องพึ่ง Dashboard มากขึ้น แต่ไม่ใช่ Dashboard ใดก็ได้ ต้องเป็น Dashboard ที่วัดตัวเลขที่มีผลต่อประสิทธิภาพจริง ๆ
ทำไมธุรกิจโลจิสติกส์ต้องมี Dashboard
เห็นสถานการณ์ทั้งหมดแบบ Real-time
ลดการพึ่งพารายงานแบบ Excel
ค้นหาคอขวดที่เกิดขึ้นในซัพพลายเชน
ช่วยทีมวางแผนเส้นทางและกำลังคน
ผู้บริหารตัดสินใจเร็วขึ้นแบบมีหลักฐาน
6 Dashboard ที่ธุรกิจโลจิสติกส์ควรมี
1) Delivery Performance Dashboard
แสดงผลการจัดส่ง เช่น
On-time Delivery Rate
Late Delivery Count
Average Transit Time
เหมาะสำหรับทีมที่ดูแล Last-mile
2) Operations Dashboard
ติดตามการทำงานประจำวัน เช่น
จำนวนงานระหว่างทาง
ความเร็วเฉลี่ยต่อรอบ
Productivity / คน / ชั่วโมง
ช่วยผู้จัดการปฏิบัติการลดความล่าช้า
3) Inventory Dashboard
ควบคุมคลังให้มีประสิทธิภาพ เช่น
Stock Accuracy
Aging Inventory
Turnover Rate
ข้อมูลนี้ช่วยลดสินค้าคงคลังและค่าเช่าพื้นที่
4) Cost Dashboard
เหมาะกับผู้บริหารที่ต้องการคุมต้นทุน
Cost per Shipment
Fuel Cost
Route Cost Efficiency
ทำให้รู้ว่าเส้นทางใด กำไรจริง หรือ ขาดทุนจริง
5) Customer Experience Dashboard
แสดงประสบการณ์ลูกค้า เช่น
คะแนนรีวิว
จำนวนเคสร้องเรียน
ความเร็วในการปิดเคส
เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการสร้างความไว้วางใจ
6) Forecast/Planning Dashboard
ใช้ AI คาดการณ์ เช่น
ความต้องการช่วงโปรโมชั่น
กำลังคนที่ต้องใช้
ปริมาณงานที่อาจเกิดขึ้นรายวัน
ช่วยทีมเตรียมสตาฟและรถให้พอดี ลดต้นทุนล่วงหน้า
คุณสมบัติของ Dashboard ที่ดี
ข้อมูล Real-time
ไม่แสดงตัวเลขเยอะเกินไป
มีระบบ Alert อัตโนมัติ
มีกราฟอ่านง่าย
เชื่อมต่อกับระบบอื่นได้ เช่น WMS, TMS
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
แสดงข้อมูลมากเกินจนอ่านไม่รู้เรื่อง
ไม่มีตัวชี้วัดที่เชื่อมกับเป้าธุรกิจ
ข้อมูลดีเลย์ ไม่อัปเดตแบบทันที
ไม่มีเจ้าของ Dashboard ชัดเจน
Dashboard ที่ดีไม่ใช่ Dashboard ที่ ข้อมูลเยอะ แต่เป็น Dashboard ที่ ช่วยตัดสินใจได้เร็วขึ้น ต่างหาก
BANKKUNG

เหมาคัน


BS&DC SAI5