โลจิสติกส์กับความปลอดภัยข้อมูล ทำไม Tracking ของคุณไม่ควรถูกแชร์มั่วๆ
ทำไม Tracking ของคุณไม่ควรถูกแชร์มั่ว ๆ
ทุกวันนี้ เวลาเราส่งของหรือรอรับพัสดุ สิ่งที่เราจะได้เสมอคือ รหัส Tracking ตัวเลขไม่กี่ตัวที่ดูเหมือนจะไม่สำคัญ
แต่รู้ไหมครับ?
เบื้องหลังรหัสนั้น คือ ข้อมูลส่วนตัว และ เส้นทางการขนส่งจริง ที่อาจถูกนำไปใช้ในทางผิดได้ หากเราไม่ระวัง
Tracking Number คืออะไร (และมันบอกอะไรได้มากกว่าที่คิด)
รหัส Tracking ไม่ใช่แค่ตัวเลขสำหรับเช็กสถานะพัสดุเท่านั้น
แต่ยังเชื่อมโยงกับข้อมูลเหล่านี้ในระบบโลจิสติกส์:
ชื่อที่อยู่ของผู้ส่งและผู้รับ
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
สถานที่จัดเก็บและเส้นทางขนส่ง
วันเวลาที่จัดส่ง
ข้อมูลประเภทสินค้า (ในบางกรณี เช่น เอกสารสำคัญหรือของมีค่า)
เมื่อรวมกันแล้ว รหัส Tracking หนึ่งชุด สามารถบอก เส้นทางชีวิตของพัสดุ ได้เลยครับ
️
ทำไมไม่ควรแชร์ Tracking สาธารณะ
บางคนเวลาอัปเดตลงโซเชียล เช่น ของมาส่งแล้วจ้า
มักจะถ่ายภาพหน้ากล่องที่มีรหัส Tracking ชัดเจน แล้วโพสต์โดยไม่ได้คิดอะไร
แต่รู้ไหมว่า...
แฮกเกอร์หรือมิจฉาชีพสามารถนำรหัสนั้นไปใช้ในหลายวิธี เช่น
เช็กข้อมูลส่วนตัวของคุณ
หลายระบบ Tracking แสดงชื่อนามสกุลเต็ม และตำแหน่งที่อยู่ของผู้รับได้แบบละเอียด
หลอกโทรศัพท์หรือส่ง SMS ปลอม (Phishing)
มิจฉาชีพสามารถปลอมเป็นบริษัทขนส่ง แล้วส่งข้อความ ลิงก์ตรวจสอบสถานะ หลอกให้คุณกรอกข้อมูลบัตรเครดิต
ดักของระหว่างขนส่ง
หากรู้เส้นทางและวันส่งของ บางรายอาจใช้ข้อมูลนั้นไปขโมยหรือสวมรอยรับของแทน
ใช้ข้อมูลสร้างโปรไฟล์เพื่อหลอกซ้ำ
เมื่อได้ข้อมูลจากหลายพัสดุ มิจฉาชีพสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของของคุณ เพื่อยิงแคมเปญหลอกขายหรือส่งลิงก์อันตรายได้ตรงจุด
แล้วบริษัทโลจิสติกส์ป้องกันยังไง?
บริษัทขนส่งสมัยใหม่มีมาตรการเข้มงวดเรื่อง Data Privacy เช่น
เข้ารหัสข้อมูล Tracking ทุกครั้งก่อนส่งผ่านระบบ
จำกัดการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ใช้ระบบยืนยันตัวตน 2 ชั้นสำหรับการตรวจสอบสถานะ
ปิดข้อมูลส่วนตัวบางส่วน เช่น แสดงแค่ชื่อย่อ คุณ ก.พ. แทนชื่อเต็ม
ตัวอย่างเช่น
BS Express, Kerry, และ Flash Express มีระบบ Tracking ที่แสดงข้อมูลเฉพาะสถานะพัสดุเท่านั้น ไม่แสดงชื่อผู้รับเต็ม ๆ เพื่อป้องกันการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
แล้วผู้ใช้ควรทำอย่างไรเพื่อความปลอดภัย
อย่าโพสต์รูป Tracking ลงโซเชียลมีเดีย
หากอยากโชว์ให้รู้ว่าของถึงแล้ว ให้เบลอรหัส Tracking ทุกครั้ง
อย่าคลิกลิงก์ Tracking ที่ส่งมาทาง SMS หรือแชทแปลก ๆ
ตรวจสอบเสมอว่าลิงก์นั้นมาจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทขนส่ง
ลบสติ๊กเกอร์หน้ากล่องก่อนทิ้ง
เพราะสติ๊กเกอร์นั้นมีทั้งชื่อ ที่อยู่ และ Tracking ของคุณ
ตั้งค่าการแจ้งเตือนผ่านแอปของบริษัทขนส่งโดยตรง
เพื่อรับข้อมูลจากแหล่งที่ปลอดภัย ไม่ผ่านบุคคลที่สาม
โลจิสติกส์ยุคใหม่ = ขนส่งปลอดภัย + ข้อมูลปลอดภัย
โลจิสติกส์ไม่ได้มีแค่การ ส่งของให้ถึง
แต่ต้อง ส่งอย่างปลอดภัย ทั้งในแง่ สินค้า และ ข้อมูลส่วนตัว ของลูกค้า
ในยุคที่ข้อมูลมีค่ามากกว่าน้ำมัน
ใครที่ปกป้องข้อมูลลูกค้าได้ดีกว่า คนนั้นชนะ
สรุปสั้น ๆ
รหัส Tracking = ข้อมูลส่วนตัว
อย่าแชร์สาธารณะ
ตรวจสอบลิงก์ก่อนคลิก
เบลอ Tracking ทุกครั้งก่อนโพสต์
เพราะ ความปลอดภัยของข้อมูล เริ่มต้นได้จากมือเราเอง