ระบบ FIFO / LIFO / FEFO กลยุทธ์บริหารสต็อกสินค้าให้เหมาะสม
การบริหารสินค้าคงคลังไม่ได้มีแค่การเก็บและขาย แต่ต้องรู้จัก ระบบจัดการสต็อก ที่เหมาะสมกับประเภทสินค้าและธุรกิจ เพราะการเลือกผิดอาจทำให้สินค้าหมดอายุ เสียเงินจม หรือขายไม่ทันตามความต้องการ
ระบบที่นิยมใช้มี 3 แบบหลัก คือ FIFO, LIFO และ FEFO ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นและข้อจำกัดต่างกัน
FIFO (First In, First Out) เข้าก่อน ออกก่อน
FIFO คือการจัดการสินค้าที่เข้าคลังก่อน จะขายหรือใช้ก่อน เหมาะกับ สินค้าที่มีอายุการใช้งานจำกัด เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ยา
ตัวอย่างง่ายๆ
ซูเปอร์มาร์เก็ตวางสินค้าล็อตใหม่ไว้ด้านหลัง เพื่อให้สินค้าล็อตเก่าขายออกไปก่อน
ช่วยลดโอกาสสินค้าหมดอายุค้างคลัง
ระบบนี้ทำให้การจัดการเรียบง่าย เห็นภาพสินค้าคงคลังชัดเจน
ข้อดี:
ลดความเสี่ยงสินค้าหมดอายุ
การบัญชีง่าย และสะท้อนต้นทุนสินค้าตามลำดับเวลา
ข้อจำกัด:
ไม่เหมาะกับสินค้าที่ราคาผันผวนสูง เพราะอาจไม่สะท้อนต้นทุนล่าสุด
LIFO (Last In, First Out) เข้าหลัง ออกก่อน
LIFO คือการขายหรือใช้สินค้าล็อตที่เข้าคลัง ล่าสุด ก่อน เหมาะกับสินค้าที่ ราคาผันผวนสูง เช่น วัสดุก่อสร้าง หรือสินค้าโภคภัณฑ์
ตัวอย่าง
บริษัทวัสดุก่อสร้างซื้อเหล็กหลายล็อต ในช่วงราคาสูง-ต่ำ
การขายสินค้าล็อตใหม่ที่ราคาสูงก่อน ทำให้รายงานต้นทุนสะท้อนราคาปัจจุบัน
แต่สินค้าล็อตเก่าอาจค้างคลัง หากไม่ระวังอาจเกิดการเสื่อมสภาพ
ข้อดี:
ต้นทุนสินค้าในรายงานใกล้เคียงราคาตลาดปัจจุบัน
เหมาะกับการวิเคราะห์กำไรแบบปัจจุบัน
ข้อจำกัด:
ไม่เหมาะกับสินค้าที่มีวันหมดอายุ
อาจทำให้สินค้าล็อตเก่าค้างคลัง
FEFO (First Expired, First Out) หมดอายุก่อน ออกก่อน
FEFO คือระบบจัดการสินค้าที่ ใกล้หมดอายุก่อนจะขายหรือใช้ก่อน เหมาะกับสินค้าที่ มีวันหมดอายุชัดเจน เช่น ยา นม อาหารสด
ตัวอย่าง
ร้านขายยา หรือโรงงานอาหาร จะเลือกขายสินค้าที่ใกล้หมดอายุก่อน ไม่ว่าจะเข้ามาหลังล็อตอื่น
ระบบนี้ช่วยลดการสูญเสียจากการต้องทิ้งสินค้าหมดอายุ
ข้อดี:
ลดความสูญเสียสินค้า
เหมาะกับสินค้าที่เน่าเสียง่ายหรือเสื่อมสภาพเร็ว
ข้อจำกัด:
ต้องติดตามวันหมดอายุอย่างแม่นยำ
การจัดการซับซ้อนกว่าระบบ FIFO
การเลือกใช้ระบบให้เหมาะสม
ธุรกิจอาหารสดและยา ใช้ FEFO เพื่อหลีกเลี่ยงสินค้าหมดอายุ
ร้านค้าปลีกทั่วไป ใช้ FIFO เพราะง่ายและปลอดภัย
ธุรกิจวัสดุหรือสินค้าราคาผันผวน ใช้ LIFO เพื่อสะท้อนต้นทุนปัจจุบัน
ตัวอย่างธุรกิจจริง:
ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตใช้ FIFO สำหรับของสดและของแห้ง
โรงงานนมใช้ FEFO เพื่อให้สินค้าส่งถึงร้านขายปลีกยังมีอายุเพียงพอ
บริษัทวัสดุก่อสร้างใช้ LIFO เพื่อสะท้อนต้นทุนเหล็กและคอนกรีตที่ผันผวน
สรุป
การบริหารสต็อกสินค้าไม่ใช่แค่เก็บและขาย แต่ต้องรู้จักเลือก ระบบที่เหมาะสมกับสินค้าและกลยุทธ์ธุรกิจ
FIFO สินค้าหมดอายุช้า ไม่เน่าเสียง่าย
LIFO สินค้าผลิตใหม่ ราคาผันผวน
FEFO สินค้าที่มีวันหมดอายุชัดเจน
การเลือกใช้ระบบอย่างเหมาะสมช่วยให้ธุรกิจลดการสูญเสีย เพิ่มประสิทธิภาพการขาย และสามารถวางแผนสต็อกได้ชาญฉลาด
สุดท้าย การบริหารสต็อกอย่างเป็นระบบ ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังช่วยให้ลูกค้าได้รับสินค้าคุณภาพดีตรงเวลา และทำให้ธุรกิจแข่งขันได้อย่างยั่งยืน