แชร์

เต็มรถทุกเที่ยว (Maximize Load) กลยุทธ์สำคัญของธุรกิจขนส่งพัสดุ

Screenshot_2025_09_02_160144.png พี่ปี
อัพเดทล่าสุด: 3 ก.ย. 2025
12 ผู้เข้าชม

เต็มรถทุกเที่ยว (Maximize Load) กลยุทธ์สำคัญของธุรกิจขนส่งพัสดุ

ในธุรกิจรับส่งพัสดุ ต้นทุนหลักของการขนส่งมาจาก ค่าเชื้อเพลิง ค่าบำรุงรักษารถ และค่าแรงงานคนขับ
หากรถออกวิ่งแต่บรรทุกของไม่เต็ม รถจะสิ้นเปลืองต้นทุนโดยไม่ได้ใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า

ดังนั้น แนวคิด เต็มรถทุกเที่ยว (Maximize Load) จึงกลายเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจขนส่งสามารถ ลดต้นทุนต่อพัสดุ เพิ่มกำไร และสร้างความคุ้มค่าในทุกการวิ่งรถ

ทำไมต้อง Maximize Load?
1.ต้นทุนเฉลี่ยต่อพัสดุถูกลง
รถคันเดียวกันใช้น้ำมันและเวลาพอ ๆ กัน แต่ถ้าขนเต็มรถ ต้นทุนต่อชิ้นถูกลงทันที
2.กำไรเพิ่มขึ้น
พื้นที่รถที่เคยเหลือ ถูกเปลี่ยนเป็นรายได้จากพัสดุใหม่
3.ลดการวิ่งเที่ยวเปล่า
ทุกเที่ยวที่ออกไปจะมีพัสดุเต็มพื้นที่ ไม่มีต้นทุนสูญเปล่า
4.ใช้ทรัพยากรได้เต็มประสิทธิภาพ
รถ พนักงาน น้ำมัน ถูกใช้เต็มศักยภาพ ไม่ปล่อยให้สูญเปล่า

วิธีการทำให้ เต็มรถทุกเที่ยว
1.Consolidation (รวมพัสดุ)
รวมพัสดุจากหลายผู้ส่งในเส้นทางเดียว ออกไปเที่ยวเดียวเต็มรถ
2.แชร์พื้นที่รถ (Shared Load)
เปิดบริการขายพื้นที่เหลือในราคาพิเศษ ลูกค้ารายย่อยได้ใช้บริการถูกลง
3.Route Optimization (วางเส้นทางขนส่ง)
ใช้ซอฟต์แวร์หรือระบบช่วยวางเส้นทาง ลดเที่ยวซ้ำซ้อน เพิ่มปริมาณบรรทุกในเส้นทางเดียว
4.Milk Run (วิ่งเก็บ/ส่งหลายจุด)
รถวิ่งเส้นทางเดียวกัน เก็บและส่งหลายเจ้า พื้นที่รถถูกใช้ตลอดเส้นทาง
5.มาตรฐานการแพ็คพัสดุ
จัดการกล่องให้เป็นขนาดมาตรฐาน เพื่อจัดเรียงได้แน่น ลดพื้นที่เสียเปล่า

ตัวอย่าง เต็มรถทุกเที่ยว ในธุรกิจพัสดุ
กรณี A: กรุงเทพฯ ขอนแก่น
-หากลูกค้า A ส่ง 40 กล่อง รถยังว่าง
-รับเพิ่มจากลูกค้า B อีก 20 กล่องในเส้นทางเดียว รถเต็มคัน วิ่งคุ้มค่า

กรณี B: พื้นที่ในเมือง
-รถ 1 คันวิ่งเส้นทางลาดพร้าวรามอินทรามีนบุรี
-ระหว่างทางแวะรับพัสดุจาก 3 ร้านค้าออนไลน์ ทำให้รถไม่วิ่งเปล่า

ความท้าทายของ Maximize Load
-ต้องมีระบบจัดเก็บ/รวมงานที่ดี (มิฉะนั้นอาจล่าช้า)
-ต้องมีการสื่อสารกับลูกค้าเรื่องเวลาตัดรอบ เพื่อให้รวมงานได้ทัน
-ต้องฝึกทีมงานจัดเรียงพัสดุ (Loading) ให้ใช้พื้นที่เต็มจริง ไม่เหลือช่องว่าง

บทสรุป
กลยุทธ์ เต็มรถทุกเที่ยว (Maximize Load) คือการทำให้ทุกการวิ่งรถคุ้มค่าที่สุด โดยใช้ การรวมพัสดุ, การแชร์พื้นที่, การวางเส้นทาง และการจัดเรียงที่มีมาตรฐาน ร่วมกัน
ธุรกิจขนส่งพัสดุที่สามารถทำให้รถเต็มทุกเที่ยว จะได้ทั้ง ต้นทุนที่ต่ำลง กำไรที่สูงขึ้น และความพึงพอใจจากลูกค้า เพราะสามารถให้บริการที่ทั้งเร็วและคุ้มค่า


บทความที่เกี่ยวข้อง
สต็อกตรง 100% ไม่ใช่เรื่องยาก: เทคนิคจัดเก็บและนับสต็อกฉบับมืออาชีพ
หัวใจของคลังสินค้าและธุรกิจ Fulfillment ก็คือ "สินค้าคงคลัง" (Inventory) การไม่รู้ว่าคุณมีสินค้าอะไร, จำนวนเท่าไหร่, และเก็บไว้ที่ไหน คือจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการส่งของผิด, สต็อกขาดโดยไม่รู้ตัว, หรือการใช้พื้นที่อย่างสิ้นเปลือง
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
3 ก.ย. 2025
ไขทุกข้อสงสัย! ก่อนตัดสินใจลงทุนแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุ ต้องรู้อะไรบ้าง?
ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ธุรกิจขนส่งพัสดุจึงเติบโตอย่างก้าวกระโดดเหมือนเงาตามตัว การลงทุนใน "แฟรนไชส์ขนส่งพัสดุ" กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ด้วยโมเดลธุรกิจที่ดูเหมือนจะเริ่มต้นได้ไม่ยาก มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุน แต่ก่อนที่คุณจะกระโดดเข้าสู่สมรภูมินี้อย่างเต็มตัว มีคำถามสำคัญมากมายที่ต้องหาคำตอบให้ชัดเจนเสียก่อน บทความนี้จะพาทุกท่านไปไขทุกข้อสงสัย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจลงทุนครั้งสำคัญนี้
ร่วมมือ.jpg Contact Center
3 ก.ย. 2025
ขนส่งสินค้า B2B สำหรับโรงงาน
ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ: หัวใจสำคัญของการขนส่ง B2B สำหรับโรงงาน ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต การขนส่งไม่ได้เป็นเพียงแค่การส่งสินค้า แต่คือกระบวนการโลจิสติกส์ที่มีความซับซ้อนและต้องอาศัยการจัดการที่เป็นระบบ การขนส่งสินค้า B2B (Business-to-Business) สำหรับโรงงาน จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงการผลิตเข้ากับห่วงโซ่อุปทาน
OIG3__1_.jpg Boss Jame ฝ่ายกองรถ
3 ก.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ