แชร์

เรื่องต้องรู้! ภาษีและพิธีการศุลกากรเมื่อ "ส่งของไปต่างประเทศ" เตรียมตัวอย่างไรไม่ให้พัสดุติดด่าน

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 22 ส.ค. 2025
191 ผู้เข้าชม

เรื่องต้องรู้! ภาษีและพิธีการศุลกากรเมื่อ "ส่งของไปต่างประเทศ" เตรียมตัวอย่างไรไม่ให้พัสดุติดด่าน
 

เคยไหมครับ? ตั้งใจส่งของขวัญชิ้นพิเศษหรือสินค้าสำคัญให้คนปลายทางที่ต่างประเทศ แต่แล้วความตื่นเต้นก็กลายเป็นความกังวล เมื่อพบว่าพัสดุเจ้ากรรมไปติดอยู่ที่ "ด่านศุลกากร" เป็นสัปดาห์ หรือผู้รับต้องเจอกับบิล "ภาษี" ที่สูงจนน่าตกใจ ปัญหาเหล่านี้คือฝันร้ายของผู้ส่งของทุกคน แต่ข่าวดีคือ... เราสามารถป้องกันได้

หลายคนได้ยินคำว่า "ภาษี" หรือ "พิธีการศุลกากร" แล้วอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัวและซับซ้อน แต่ความจริงแล้วมันคือกระบวนการมาตรฐานที่พัสดุทุกชิ้นต้องผ่าน บทความนี้จะเป็นคู่มือฉบับย่อยง่าย ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจกลไกสำคัญเหล่านี้ และเตรียมตัวได้อย่างมืออาชีพ เพื่อให้พัสดุของคุณเดินทางถึงมือผู้รับอย่างราบรื่นไร้กังวล

 

ไขข้อข้องใจ: "ภาษี" และ "อากร" คืออะไร? ทำไมเราต้องจ่าย?
 
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจคำศัพท์พื้นฐานกันก่อน:

  • อากรขาเข้า (Import Duty): คือภาษีที่รัฐบาลของประเทศผู้รับเรียกเก็บจากสินค้านำเข้า เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศและสร้างรายได้ อัตราจะแตกต่างกันไปตาม "ประเภท" และ "มูลค่า" ของสินค้า
  • ภาษี (Tax): คือภาษีการบริโภคที่เรียกเก็บในประเทศนั้นๆ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือ Goods and Services Tax (GST) ซึ่งจะถูกนำมาคำนวณกับราคาสินค้าและอากรอีกทีหนึ่ง

ใครเป็นคนจ่าย? โดยทั่วไปการส่งพัสดุแบบมาตรฐานจะเป็นแบบ DDU (Delivered Duty Unpaid) ซึ่งหมายความว่า "ผู้รับปลายทาง" จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าภาษีอากรทั้งหมด นี่คือสาเหตุที่ผู้รับอาจต้องจ่ายเงินเพิ่มตอนรับของนั่นเอง

 

พิธีการศุลกากร (Customs Clearance): ด่านสำคัญที่ต้องผ่าน
 
นี่คือกระบวนการที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรของประเทศปลายทางจะตรวจสอบพัสดุและเอกสารกำกับ เพื่อประเมินภาษีอากรและตรวจดูว่าไม่มีของต้องห้ามเข้ามาในประเทศ เอกสารที่เปรียบเสมือน "พาสปอร์ต" ของพัสดุคุณก็คือ ใบสำแดงศุลกากร (Customs Declaration Form CN22/CN23) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของการส่งของข้ามแดน

 

คู่มือเตรียมตัว 4 ขั้นตอน: ส่งของราบรื่น ไม่ติดด่าน

1. สำแดงข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน (Declare Honestly & Accurately)

นี่คือข้อที่สำคัญที่สุดและผิดพลาดกันบ่อยที่สุด การกรอกข้อมูลในใบสำแดงศุลกากรต้อง:

  • ระบุรายละเอียดสิ่งของให้ชัดเจน: อย่าเขียนแค่ "ของขวัญ" หรือ "เสื้อผ้า" แต่ให้ระบุให้ชัด เช่น "เสื้อยืดผ้าฝ้ายมือสอง" (Used Cotton T-shirt) หรือ "หนังสือการ์ตูน 3 เล่ม" (3 Comic Books)
  • ระบุมูลค่าตามจริง: อย่าประเมินมูลค่าสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อหวังจะเลี่ยงภาษีเด็ดขาด! หากเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจแล้วพบว่ามูลค่าไม่ตรงกับที่สำแดง พัสดุของคุณจะถูกกัก, ประเมินภาษีใหม่ในอัตราที่สูงขึ้น, หรืออาจถูกยึดและมีค่าปรับตามมา

2. ทำความเข้าใจเรื่อง "De Minimis Value" (เกณฑ์ยกเว้นภาษี)
 
De Minimis Value คือ "มูลค่าขั้นต่ำของสินค้าที่ได้รับการยกเว้นอากรและภาษี" ซึ่งแต่ละประเทศกำหนดไว้ไม่เท่ากัน หากมูลค่าพัสดุ (รวมค่าขนส่งและประกัน) ของคุณต่ำกว่าเกณฑ์นี้ ก็มีแนวโน้มสูงที่จะไม่ต้องเสียภาษี

  • ตัวอย่าง: สหรัฐอเมริกามี De Minimis Value สูงถึง 800 USD, ออสเตรเลีย 1,000 AUD, ในขณะที่หลายประเทศในยุโรปอาจมีเกณฑ์ที่ต่ำกว่ามาก
  • เคล็ดลับ: ก่อนส่ง ควรเช็ค De Minimis Value ของประเทศปลายทางก่อนเสมอ เพื่อประเมินความเป็นไปได้ที่จะโดนภาษี

3. เตรียมเอกสารประกอบให้พร้อม (ถ้ามี)

สำหรับการส่งสินค้าที่มีมูลค่าสูงหรือส่งในเชิงพาณิชย์ การแนบเอกสารเพิ่มเติมจะช่วยให้ผ่านด่านได้เร็วขึ้น

  • ใบกำกับสินค้า (Invoice): เพื่อยืนยันราคาซื้อขายที่แท้จริง
  • เอกสารอื่นๆ: เช่น ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) หรือใบอนุญาตต่างๆ สำหรับสินค้าเฉพาะทาง

4. เลือกผู้ให้บริการขนส่งที่น่าเชื่อถือ (Choose a Reliable Carrier)

ผู้ให้บริการขนส่งรายใหญ่ (เช่น ไปรษณีย์ไทย, DHL, FedEx, UPS) ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ขนส่ง แต่ยังทำหน้าที่เป็น "ตัวแทนออกของ" (Customs Broker) ช่วยดำเนินพิธีการศุลกากรแทนคุณ

  • ข้อดี: พวกเขามีความเชี่ยวชาญ, มีระบบที่เชื่อมต่อกับศุลกากร, และสามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องแก่คุณได้ว่าพัสดุของคุณต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีแนวโน้มจะเสียภาษีเท่าไหร่

 

บทสรุป
 
หัวใจของการส่งของไปต่างประเทศให้ราบรื่นคือ "การเตรียมตัวที่ดี" และ "ความโปร่งใส" การสละเวลาเล็กน้อยเพื่อกรอกเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วนและศึกษาข้อมูลของประเทศปลายทาง จะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายที่อาจบานปลายจากการที่พัสดุติดด่านได้มหาศาล และจำไว้เสมอว่า... หากไม่แน่ใจ ให้สอบถามเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการขนส่งก่อนส่งทุกครั้ง


ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-3039620
อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com

ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210
คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!
https://www.bsgroupth.com/e-fulfillment-stock-pack-ship

 

#ส่งของไปต่างประเทศ #ศุลกากร #ภาษีนำเข้า #CustomsDuty #เคล็ดลับนำเข้าส่งออก #InternationalShipping #ECommerce #โลจิสติกส์ #รอบรู้เรื่องธุรกิจ #ส่งพัสดุ #ภาษีศุลกากร #ส่งออก


บทความที่เกี่ยวข้อง
เชื่อมโยง Supply Chain: การ Match 'เอกสารการค้า' (PO, Invoice, Shipping Docs) เพื่อความโปร่งใส
"Data Matching" หรือการจับคู่ข้อมูล คือเทคโนโลยีสำคัญที่เข้ามาแก้ปัญหานี้ โดยทำหน้าที่เป็นเหมือน "กาวดิจิทัล" ที่เชื่อมโยงเอกสารการค้าเหล่านี้เข้าด้วยกัน สร้างความโปร่งใส (Transparency) และประสิทธิภาพตลอดทั้งกระบวนการซัพพลายเชน
ฟ่าง (นักศึกษาฝึกงาน)
22 ต.ค. 2025
ไม่ใช่แค่ฝึกงาน แต่คือการ 'เรียนรู้จริง': ขอบคุณประสบการณ์ล้ำค่าในโลกโลจิสติกส์
วันนี้อาจเป็นวันสุดท้ายของการฝึกงาน แต่ความรู้และประสบการณ์ที่ผมได้รับจากที่นี่จะคงอยู่ตลอดไป การได้มีโอกาสเข้ามาฝึกงานในโลกของโลจิสติกส์และ Fulfillment ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง ผมอยากใช้พื้นที่นี้เพื่อขอบคุณสำหรับโอกาสในการเรียนรู้ที่เปลี่ยนทฤษฎีในห้องเรียนให้กลายเป็น "ประสบการณ์จริง" ที่จับต้องได้
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
22 ต.ค. 2025
The Symphony of Silence: เมื่อ Dashboard เผยความลับที่ซ่อนอยู่ใน 'ความเงียบ'
Dashboard ส่วนใหญ่ที่เราคุ้นเคย มักจะเน้นแสดง "สิ่งที่เกิดขึ้น" – ยอดขายที่พุ่งสูง, จำนวนออเดอร์ที่เข้ามา, หรือเส้นทางการขนส่งที่มีการเคลื่อนไหว... แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Dashboard สามารถแสดง "สิ่งที่ ไม่ เกิดขึ้น" และเผยให้เห็นถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ใน "ความเงียบ" เหล่านั้น?
โก้(นักศึกษาฝึกงาน)
22 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ