แชร์

ส่งของแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) ต้องรู้อะไรบ้าง? ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีจัดการเมื่อลูกค้าไม่รับของ

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 14 ส.ค. 2025
26 ผู้เข้าชม

ส่งของแบบเก็บเงินปลายทาง (COD) ต้องรู้อะไรบ้าง? ข้อดี-ข้อเสีย และวิธีจัดการเมื่อลูกค้าไม่รับของ

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ "บริการเก็บเงินปลายทาง" หรือ Cash On Delivery (COD) คืออีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและกระตุ้นยอดขายได้ เพราะลูกค้าหลายคนยังคงรู้สึกสบายใจที่จะจ่ายเงินเมื่อได้รับสินค้าแล้ว

แต่ในอีกด้านหนึ่ง COD ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและขั้นตอนการจัดการที่แตกต่างจากการส่งสินค้าแบบทั่วไป บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ COD ตั้งแต่ข้อดีข้อเสีย ไปจนถึงวิธีรับมือเมื่อเจอลูกค้าไม่รับของ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าบริการนี้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณหรือไม่

COD คืออะไร? ทำงานอย่างไร?

บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) คือบริการที่ผู้ขายสามารถส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ โดยที่ลูกค้าจะชำระเงินสดให้กับพนักงานจัดส่งเมื่อได้รับสินค้าเรียบร้อยแล้ว จากนั้นบริษัทขนส่งจะนำเงินค่าสินค้ากลับมาให้ผู้ขายตามรอบการชำระเงินที่ตกลงกันไว้

ขั้นตอนการทำงานโดยทั่วไป

  1. ผู้ขายเลือกใช้บริการ COD กับบริษัทขนส่ง
  2. ผู้ขายแพ็คสินค้าและติดใบปะหน้าที่ระบุว่าเป็น COD
  3. บริษัทขนส่งเข้ารับสินค้าและนำส่งไปยังลูกค้า
  4. เมื่อลูกค้าได้รับสินค้า พนักงานจัดส่งจะเก็บเงินสดตามมูลค่าสินค้า
  5. บริษัทขนส่งจะรวบรวมเงิน COD และโอนให้กับผู้ขายตามรอบการชำระเงิน (อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม)

ข้อดีของบริการ COD

  • เพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าใหม่: ลูกค้าที่ไม่เคยซื้อสินค้าจากร้านของคุณมาก่อน อาจรู้สึกมั่นใจมากขึ้นที่จะสั่งซื้อหากมีตัวเลือก COD เพราะไม่ต้องโอนเงินก่อน
  • กระตุ้นยอดขาย: ลูกค้าบางกลุ่มอาจไม่มีบัญชีธนาคารออนไลน์ หรือไม่สะดวกในการโอนเงิน การมี COD เป็นทางเลือกจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย
  • ลดความกังวลเรื่องความไม่ตรงปก: ลูกค้าสามารถเห็นและตรวจสอบสินค้าเบื้องต้นก่อนชำระเงิน (แต่ไม่สามารถเปิดใช้งานหรือลองสินค้าได้)

ข้อเสียและความเสี่ยงของบริการ COD

  • ความเสี่ยงที่ลูกค้าจะไม่รับของ: นี่คือความเสี่ยงที่สำคัญที่สุด หากลูกค้าเปลี่ยนใจ ไม่พร้อมจ่ายเงิน หรือไม่อยู่รับสินค้า สินค้าจะถูกตีกลับ และผู้ขายต้องเสียค่าขนส่งไป-กลับ
  • ระยะเวลาในการได้รับเงินนานกว่า: ผู้ขายจะได้รับเงินค่าสินค้าหลังจากที่บริษัทขนส่งเก็บเงินจากลูกค้าและดำเนินการตามรอบการชำระเงิน ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวัน
  • ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม: บริษัทขนส่งส่วนใหญ่มักจะคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับบริการ COD
  • ภาระในการจัดการสินค้าตีกลับ: ผู้ขายต้องมีกระบวนการในการจัดการสินค้าที่ถูกตีกลับ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและตรวจสอบสภาพสินค้า

วิธีจัดการเมื่อลูกค้า "ไม่รับของ"

ปัญหานี้เกิดขึ้นได้เสมอ สิ่งสำคัญคือการมีแผนรับมือที่ชัดเจน

  1. โทรศัพท์สอบถามลูกค้าโดยตรง: เมื่อทราบว่าพัสดุกำลังจะถูกตีกลับ สิ่งแรกที่ควรทำคือโทรศัพท์พูดคุยกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงสุภาพ เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่ไม่รับสินค้า และหาทางออกร่วมกัน (เช่น เลื่อนวันจัดส่ง หากลูกค้าไม่สะดวกรับในวันนั้นจริงๆ)
  2. ตรวจสอบข้อมูลการสั่งซื้อ: ยืนยันชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ ของลูกค้าว่าถูกต้องหรือไม่ อาจเกิดจากความผิดพลาดในการระบุข้อมูล
  3. ประเมินต้นทุน: คำนวณค่าขนส่งไป-กลับ, ค่าแพ็คสินค้า, และค่าเสียโอกาสในการขาย เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
  4. มีนโยบายที่ชัดเจน: กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการสั่งซื้อแบบ COD และการไม่รับสินค้า แจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า (เช่น หากไม่รับสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อาจมีผลต่อการสั่งซื้อครั้งต่อไป)
  5. พิจารณา "Blacklist" ลูกค้า: หากเจอลูกค้าที่ไม่รับสินค้าหลายครั้งโดยไม่มีเหตุผล อาจพิจารณาขึ้นบัญชีดำเพื่อป้องกันการสั่งซื้อซ้ำในอนาคต
  6. นำสินค้ากลับมาตรวจสอบสภาพ: เมื่อสินค้าถูกตีกลับ ให้ตรวจสอบสภาพอย่างละเอียด หากเสียหายจากการขนส่ง ให้ดำเนินการเคลมกับบริษัทขนส่ง (หากมีประกัน)
  7. นำสินค้ากลับมาขายใหม่: ทำการปรับปรุงสต็อกสินค้าและนำสินค้าที่ถูกตีกลับมาขายใหม่อีกครั้ง

COD เหมาะกับธุรกิจของคุณหรือไม่?

การตัดสินใจว่าจะใช้บริการ COD หรือไม่ ขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจ, กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย, และความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยง หากคุณเป็นร้านค้าใหม่ที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือ หรือมีกลุ่มลูกค้าที่ไม่สะดวกในการโอนเงิน COD อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่คุณต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงเรื่องสินค้าตีกลับด้วย

อยากใช้ COD อย่างมั่นใจ? ให้ BS Express ช่วยดูแล

BS Express มีบริการ COD ที่พร้อมให้คุณส่งสินค้าได้อย่างสะดวกและปลอดภัย พร้อมระบบติดตามสถานะและรอบการชำระเงินที่ชัดเจน เราพร้อมเป็นผู้ช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเติบโต

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่

  • โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-303-9620
  • อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com
  • ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!


บทความที่เกี่ยวข้อง
Smart Container คืออะไร? และทำไมตู้คอนเทนเนอร์ถึงเริ่ม “พูดได้”
นยุคที่ธุรกิจแข่งขันกันด้วย “ความเร็วและข้อมูล” คอนเทนเนอร์ธรรมดาอาจไม่พออีกต่อไป จึงเกิดนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Smart Container หรือ “ตู้คอนเทนเนอร์อัจฉริยะ”
ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
19 ส.ค. 2025
Warehouse-as-a-Service (WaaS) คลังสินค้าที่เช่าใช้ได้เหมือน Cloud Storage
เดิมทีการมีคลังสินค้าของตัวเองต้องลงทุนสูง ทั้งค่าก่อสร้าง ค่าระบบ ค่าพนักงาน และค่าเช่าที่ดิน แต่ปัจจุบันเริ่มมีโมเดลใหม่ที่เรียกว่า Warehouse-as-a-Service (WaaS)
ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
19 ส.ค. 2025
Green Hydrogen Truck รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน ทางเลือกใหม่แทนน้ำมันและไฟฟ้า
หลายปีที่ผ่านมาเราได้ยินเรื่อง รถบรรทุกไฟฟ้า (Electric Truck) แต่วันนี้อีกหนึ่งเทรนด์ที่เริ่มมาแรงคือ “Green Hydrogen Truck” หรือ รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจนสีเขียว
ร่วมมือ.jpg เหมาคัน
19 ส.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ