พัสดุหาย / เสียหาย / ล่าช้า: ต้องทำอย่างไร?
พัสดุหาย / เสียหาย / ล่าช้า: ต้องทำอย่างไร? เปิดคู่มือการติดตามและยื่นเคลมฉบับสมบูรณ์
"ใจหายแวบ" คือความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นเมื่อลูกค้าทักมาว่า "ยังไม่ได้รับของ" หรือเมื่อเช็คสถานะพัสดุแล้วพบว่ามันค้างเติ่งอยู่ที่เดิมมาหลายวัน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ส่งหรือผู้รับ ปัญหาพัสดุที่ล่าช้า, เสียหาย, หรือสูญหาย คือฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเจอ
แต่เมื่อปัญหานั้นเกิดขึ้นแล้ว การตั้งสติและดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนคือสิ่งสำคัญที่สุด บทความนี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่จะช่วยคุณรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างมืออาชีพ เพื่อติดตามและรักษาสิทธิ์ของคุณให้ได้มากที่สุด
กรณีที่ 1: "พัสดุล่าช้า" หรือสถานะไม่เคลื่อนไหว
นี่คือปัญหาที่พบบ่อยที่สุด ก่อนจะสรุปว่าพัสดุหาย ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ก่อน
- ใจเย็นๆ และตรวจสอบ Tracking Number อีกครั้ง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกรอกเลขติดตามพัสดุถูกต้องและครบถ้วน
- ตรวจสอบระยะเวลาจัดส่งมาตรฐาน: บริการขนส่งที่คุณเลือกใช้มีระยะเวลาจัดส่งตามปกติกี่วัน? พัสดุของคุณเกินกำหนดมาแล้วจริงหรือไม่? (เช่น บริการแบบประหยัดอาจใช้เวลา 5-7 วันทำการ)
- ติดต่อ Call Center ของบริษัทขนส่ง: นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เตรียมเลข Tracking Number และข้อมูลผู้รับ-ผู้ส่งให้พร้อม แล้วติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้เขาช่วยตรวจสอบสถานะในระบบเชิงลึก หรือกระตุ้นให้สาขาปลายทางเร่งจัดส่ง
กรณีที่ 2: "พัสดุเสียหาย"
เมื่อผู้รับได้รับพัสดุแล้ว แต่ของข้างในแตกหักหรือใช้งานไม่ได้ ให้ดำเนินการทันทีดังนี้
1.ถ่ายรูปและเก็บหลักฐานทันที: นี่คือหัวใจของการยื่นเคลม!
- ถ่ายรูปกล่องพัสดุจากทุกมุม ก่อนเปิด (ถ้าทำได้) เพื่อแสดงสภาพกล่องภายนอก
- ถ่ายรูปตอนเปิดกล่องให้เห็นสภาพการแพ็คและวัสดุกันกระแทก
- ถ่ายรูปสินค้าที่เสียหายให้เห็นชัดเจนในหลายๆ มุม
- ถ่ายรูปใบปะหน้าพัสดุ
2.อย่าเพิ่งทิ้งอะไรเด็ดขาด: เก็บกล่อง, วัสดุกันกระแทก, และตัวสินค้าที่เสียหายไว้ทั้งหมด เพราะบริษัทขนส่งอาจต้องเข้าไปตรวจสอบ
3.ติดต่อผู้ขนส่งเพื่อแจ้งเรื่องทันที: รีบติดต่อบริษัทขนส่งเพื่อแจ้งปัญหาและสอบถามขั้นตอนการยื่นเคลมความเสียหาย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีกำหนดเวลาว่าต้องแจ้งภายในกี่วันหลังจากได้รับของ
กรณีที่ 3: "พัสดุสูญหาย"
เมื่อสถานะขึ้นว่า "นำจ่ายสำเร็จ" แต่ผู้รับยืนยันว่าไม่ได้รับ หรือสถานะค้างนิ่งเกินระยะเวลาจัดส่งไปมาก
- ยืนยันกับผู้รับอย่างละเอียดอีกครั้ง: ให้ผู้รับช่วยตรวจสอบกับสมาชิกในครอบครัว, เพื่อนบ้าน, หรือนิติบุคคลของอาคาร/คอนโด ว่ามีใครเซ็นรับพัสดุแทนหรือไม่
- ติดต่อผู้ขนส่งเพื่อเริ่มกระบวนการค้นหา: แจ้งปัญหาให้บริษัทขนส่งทราบโดยเร็วที่สุด พวกเขาจะเริ่มกระบวนการตรวจสอบภายใน เช่น สอบถามพนักงานที่นำจ่าย, ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด (ถ้ามี)
- เตรียมเอกสารสำหรับการยื่นเคลม: หากการค้นหาไม่สำเร็จ คุณจะต้องเข้าสู่กระบวนการยื่นเคลมค่าเสียหายกรณีสูญหาย
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการ "ยื่นเคลม"
โดยทั่วไป เอกสารที่ต้องใช้จะคล้ายกันในทุกกรณี ได้แก่
- ใบนำส่งพัสดุ หรือใบเสร็จรับเงินตัวจริง
- รูปถ่ายความเสียหาย (สำหรับกรณีพัสดุเสียหาย)
- หลักฐานแสดงมูลค่าสินค้า เช่น ใบเสร็จที่ซื้อสินค้า, Invoice, หรือหน้าแคปเจอร์การซื้อขาย
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ส่ง พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้ส่ง สำหรับรับเงินค่าชดเชย
หมายเหตุสำคัญ: ความคุ้มครองค่าเสียหายจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทขนส่ง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะจำกัดวงเงินไว้ หากคุณไม่ได้ซื้อ "ประกันภัยสินค้า" เพิ่มเติม
การเจอปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่การรู้ขั้นตอนที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เจอปัญหาการจัดส่ง? ให้เราช่วยประสานงานและดูแล
การติดตามและเคลมพัสดุอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและใช้เวลา ให้ BS Express เป็นผู้ช่วยของคุณ เราพร้อมให้บริการและช่วยประสานงานกับบริษัทขนส่งต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้คุณอย่างดีที่สุด
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
- โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-303-9620
- อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com
- ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210