แชร์

เทคนิคการจัดการออเดอร์ออนไลน์ — ทำให้ระบบขนส่งลื่นไหล

สีเขียว_สีเหลือง_น่ารัก_ภาพประกอบ_ปิดร้านค้า_Sorry_We_Are_Closed_Instagram_Post_.png BS Rut กองรถ
อัพเดทล่าสุด: 28 ก.ค. 2025
179 ผู้เข้าชม

1. ใช้ระบบจัดการออเดอร์ (Order Management System OMS)
หากคุณยังใช้วิธีจดออเดอร์ลงกระดาษหรือ Excel แบบแมนนวล การเปลี่ยนมาใช้ระบบจัดการออเดอร์จะช่วยให้การทำงานเป็นระบบมากขึ้น เช่น:

  • ตรวจสอบสถานะคำสั่งซื้อได้แบบเรียลไทม์
  • รวมออเดอร์จากหลายช่องทางไว้ในที่เดียว
  • ลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลซ้ำ
  • ระบบเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มขายของ เช่น Shopee, Lazada, Shopify และ Facebook ได้โดยอัตโนมัติ


2. สร้างขั้นตอนการทำงานที่เป็นมาตรฐาน (Workflow)
การมีขั้นตอนที่ชัดเจน เช่น

  1. ตรวจสอบคำสั่งซื้อ
  2. แพ็กสินค้า
  3. ติดใบปะหน้า
  4. รอพนักงานมารับของ
  5. ส่งแจ้งเลขพัสดุให้ลูกค้า
จะช่วยลดความสับสนในการทำงาน โดยเฉพาะเมื่อมีพนักงานหลายคนในทีม การกำหนด Workflow ที่เป็นมาตรฐานทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ของตนเอง และลดโอกาสเกิดความผิดพลาด


3. แพ็กสินค้าแบบแยกตามรอบจัดส่ง
หากร้านคุณมีการจัดส่งวันละหลายรอบ ควรแยกออเดอร์ตามรอบจัดส่ง เช่น รอบเช้า-บ่าย หรือแยกตามขนส่งแต่ละเจ้าที่ใช้ เช่น Kerry, J&T, Flash
วิธีนี้จะช่วยให้จัดเรียงพัสดุได้สะดวก ไม่ต้องเปิดหากล่องย้อนหลัง และจัดส่งได้ทันเวลากับขนส่งที่เข้ามารับสินค้า


4. เชื่อมระบบขนส่งกับระบบหลังบ้าน
หลายร้านค้าใช้ระบบ OMS ที่สามารถเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการขนส่ง เช่น Flash, Kerry, SCG Express ผ่าน API หรือระบบหลังบ้านของแพลตฟอร์มอย่าง Goship, Shippop ซึ่งจะช่วยในเรื่อง:
  • สร้างใบปะหน้าอัตโนมัติ
  • เลือกขนส่งที่เหมาะสมกับสินค้าแต่ละชิ้น
  • ติดตามสถานะพัสดุได้ในระบบเดียว

5. มีระบบแจ้งเตือนออเดอร์ผิดปกติ
ในบางครั้ง ออเดอร์อาจมีปัญหา เช่น ชื่อที่อยู่ผิด เบอร์ติดต่อไม่ครบ หรือสินค้าหมดสต็อก การใช้ระบบที่แจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อเกิดความผิดปกติ จะช่วยให้คุณแก้ไขทันก่อนจัดส่ง ลดความเสียหายและความล่าช้า


6. ติดตามผลลัพธ์และวิเคราะห์ข้อมูล
เมื่อจัดส่งเสร็จ อย่าลืมบันทึกข้อมูลและติดตามผล เช่น จำนวนที่ส่งสำเร็จ สินค้าตีกลับ พื้นที่จัดส่งล่าช้า หรือจำนวนคำร้องเรียนจากลูกค้า เพื่อใช้วางแผนปรับปรุงในรอบต่อไป


7. สื่อสารกับลูกค้าอย่างมีระบบ
เมื่อแพ็กของเสร็จแล้ว ควรมีระบบแจ้งลูกค้าอัตโนมัติ เช่น ส่งเลขพัสดุผ่านข้อความหรืออีเมล พร้อมลิงก์ติดตามพัสดุ วิธีนี้จะช่วยลดการถาม-ตอบซ้ำ ๆ และเพิ่มความน่าเชื่อถือของร้านค้า


สรุป
     การจัดการออเดอร์ออนไลน์ไม่ใช่แค่เรื่องของ ความเร็ว เท่านั้น แต่คือการผสานระหว่าง ระบบ คน ข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพ
ยิ่งระบบจัดการออเดอร์ดีเท่าไหร่ ระบบขนส่งก็จะ ลื่นไหล และธุรกิจของคุณก็จะโตเร็วอย่างยั่งยืน

     เพราะออเดอร์ที่ถูกจัดการอย่างมืออาชีพ = ลูกค้าที่ประทับใจ + กำไรที่มั่นคง

บทความที่เกี่ยวข้อง
Work From Home ก็ส่งของได้ไม่สะดุด! เรียก BS Express เข้ารับพัfsสดุถึงหน้าประตู
ในยุคที่การทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) กลายเป็นเรื่องปกติ การบริหารจัดการเวลาให้ลงตัวกลายเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการจัดส่งพัสดุ ที่หลายครั้งอาจทำให้คุณต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางเพื่อไปส่งของด้วยตัวเอง แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าคุณสามารถส่งพัสดุได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องก้าวขาออกจากบ้าน BS Express เข้าใจถึงความต้องการนี้และพร้อมนำเสนอบริการเข้ารับพัสดุถึงหน้าประตู ที่จะเปลี่ยนเรื่องยุ่งยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้ว
ร่วมมือ.jpg Contact Center
10 ต.ค. 2025
 มากกว่าแค่ 'ธุรกรรม': การสร้าง 'ฟีเจอร์คอมมูนิตี้' (Community Features) เพื่อมัดใจผู้ใช้งาน
การเพิ่ม "ฟีเจอร์คอมมูนิตี้" เข้าไปในแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ คือกลยุทธ์สำคัญที่จะสร้างความ "เหนียวแน่น" (Stickiness) และเปลี่ยนผู้ใช้งานขาจรให้กลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์
ฟ่าง (นักศึกษาฝึกงาน)
10 ต.ค. 2025
การออกแบบเพื่อ 'สภาพคล่อง' (Liquidity): กลยุทธ์ที่ทำให้การจับคู่เกิดขึ้น 'เร็ว' และ 'แน่นอน'
สำหรับแพลตฟอร์ม Marketplace "สภาพคล่อง" หรือ Liquidity คือหัวใจที่สำคัญที่สุด มันคือตัวชี้วัดว่า "โอกาส" ที่ผู้ซื้อจะเจอผู้ขาย (หรือผู้ส่งของจะเจอรถขนส่ง) นั้นเกิดขึ้นได้ "เร็ว" และ "แน่นอน" แค่ไหน
ฟ่าง (นักศึกษาฝึกงาน)
10 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ