ระบบ IoT ในการติดตามรถ: ไม่ใช่แค่ GPS แต่คือ การบริหารเชิงลึก
ระบบ IoT ในการติดตามรถ: ไม่ใช่แค่ GPS แต่คือ การบริหารเชิงลึก
เมื่อพูดถึงการ ติดตามรถขนส่ง คนส่วนใหญ่นึกถึง GPS อย่างเดียว
แต่ในความเป็นจริง ระบบติดตามที่ล้ำที่สุดในยุคนี้ คือ
IoT (Internet of Things) ที่ทำให้ รถทุกคันส่งข้อมูลกลับมาแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ธุรกิจตัดสินใจแม่นกว่าเดิม
IoT คืออะไร? แล้วเกี่ยวกับขนส่งยังไง?
IoT = การติดเซนเซอร์ + อุปกรณ์สื่อสาร + ระบบคลาวด์
ให้สิ่งของ (เช่น รถขนส่ง) สามารถ ส่งข้อมูลได้เอง โดยไม่ต้องมีมนุษย์รายงาน
ในรถขนส่ง 1 คัน อาจมี IoT หลายตัว เช่น:
GPS: บอกตำแหน่ง
️ เซนเซอร์อุณหภูมิ: ติดไว้ในรถเย็น
เซนเซอร์เปิดปิดประตู: บอกว่ามีการโหลด/ปลดของเมื่อไร
อุปกรณ์ตรวจระดับน้ำมัน: เช็กการใช้น้ำมัน
️ OBD Device: เช็กสภาพเครื่องยนต์
ข้อมูลที่ได้มากกว่าการติดตาม คือ การบริหารลึกถึงระดับวินาที
เมื่อ IoT เชื่อมกับ AI = โลจิสติกส์อัจฉริยะ
IoT เก็บข้อมูลได้เป็นล้านรายการ
แต่เมื่อเชื่อมกับระบบ AI จะสามารถคาดการณ์ได้แม่นยำ เช่น:
พัสดุจะถึงภายในกี่นาที? วิเคราะห์จากข้อมูลวิ่งจริง
รถคันไหนเริ่มกินน้ำมันเกินปกติ? เช็กพฤติกรรมคนขับ
เส้นทางไหนรถเสียบ่อย? เตือนให้เปลี่ยนเส้นทาง
ประโยชน์ของ IoT สำหรับธุรกิจขนส่ง
บริหาร Fleet ได้ดีกว่าเดิม รู้ว่ารถไหนว่าง, รถไหนล่าช้า, รถไหนเสี่ยง
ลดต้นทุนโดยไม่ต้องเดา ใช้น้ำมันน้อยลง, วางรอบรับส่งแม่นขึ้น
ลดของเสีย/ของหาย เพราะรู้ว่าใครขับไปทางไหนเปิดประตูเมื่อไร
ลูกค้าเชื่อมั่นมากขึ้น แจ้งสถานะได้แบบ Real-Time จริง
สรุป:
การติดตามรถด้วย IoT
ไม่ใช่แค่ รู้ว่ารถอยู่ไหน แต่คือ รู้ว่ารถเป็นยังไงเกิดอะไรขึ้นจะเกิดอะไรต่อไป
และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยไม่ต้องรอคนรายงานเลย